วันที่ (25 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 8 ศาลปกครองกลางนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก
ในคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ผู้ฟ้องที่ 1
และชาวบ้านร่วมฟ้องคดีอีกจำนวน 45 คน ยื่นฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี กับพวก
คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ คณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ในคดีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งผู้ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนแผนแม่บทการบริหารการจัดการทรัพยากรน้ำ โดยในวันนี้ทั้งผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องในวันนี้ ไม่มีใครยื่นคำแถลงเป็นหนังสือ และแถลงเพิ่มเติมต่อศาล
ตุลาการผู้แถลงคดีจึงอ่านแถลงการณ์สรุปว่า ผู้ฟ้องมีสิทธิฟ้อง เพราะเป็นผู้ได้รับความเสียหายตามมาตรา 42 วรรค 1 ในส่วนของการจัดทำแผนแม่บทนั้น เห็นว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะได้ใช้อำนาจหน้าที่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะที่ในประเด็นการละเลยปฏิบัติหน้าที่ ตุลาการผู้แถลงคดีเห็นว่า โครงการส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำที่มีผู้อยู่อาศัยและป่าไม้ ซึ่งจะต้องมีการส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพ มีการทำลายป่า และส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างรุนแรง จึงต้องจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ดังนั้นจึงมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องทั้ง 4 ร่วมกันจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ก่อนเข้าทำสัญญากับผู้รับจ้างทั้ง 9 โมดูล คำร้องจากนี้ให้ยก
ความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดี เป็นไปตามขั้นตอนที่กฏหมายกำหนด ซึ่งจะไม่ผูกพันกับคำพิพากษาขององค์คณะ ซึ่งได้นัดพิพากษาในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ เวลา 13.00 น.
นายศรีสุวรรณ กลาวว่า คำแถลงคดีของตุลาการวันนี้เป็นไปตามความคาดหวัง คาดว่าจะมีน้ำหนักเพียงพอให้องค์คณะผู้พิพากษารับฟัง และมีคำพิพากษาในทิศทางเดียวกันนี้และจะทำให้รัฐบาลต้องยุติการดำเนินการ โดยกลับไปเริ่มต้นใหม่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน
คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ คณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ในคดีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งผู้ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนแผนแม่บทการบริหารการจัดการทรัพยากรน้ำ โดยในวันนี้ทั้งผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องในวันนี้ ไม่มีใครยื่นคำแถลงเป็นหนังสือ และแถลงเพิ่มเติมต่อศาล
ตุลาการผู้แถลงคดีจึงอ่านแถลงการณ์สรุปว่า ผู้ฟ้องมีสิทธิฟ้อง เพราะเป็นผู้ได้รับความเสียหายตามมาตรา 42 วรรค 1 ในส่วนของการจัดทำแผนแม่บทนั้น เห็นว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะได้ใช้อำนาจหน้าที่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะที่ในประเด็นการละเลยปฏิบัติหน้าที่ ตุลาการผู้แถลงคดีเห็นว่า โครงการส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำที่มีผู้อยู่อาศัยและป่าไม้ ซึ่งจะต้องมีการส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพ มีการทำลายป่า และส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างรุนแรง จึงต้องจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ดังนั้นจึงมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องทั้ง 4 ร่วมกันจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ก่อนเข้าทำสัญญากับผู้รับจ้างทั้ง 9 โมดูล คำร้องจากนี้ให้ยก
ความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดี เป็นไปตามขั้นตอนที่กฏหมายกำหนด ซึ่งจะไม่ผูกพันกับคำพิพากษาขององค์คณะ ซึ่งได้นัดพิพากษาในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ เวลา 13.00 น.
นายศรีสุวรรณ กลาวว่า คำแถลงคดีของตุลาการวันนี้เป็นไปตามความคาดหวัง คาดว่าจะมีน้ำหนักเพียงพอให้องค์คณะผู้พิพากษารับฟัง และมีคำพิพากษาในทิศทางเดียวกันนี้และจะทำให้รัฐบาลต้องยุติการดำเนินการ โดยกลับไปเริ่มต้นใหม่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน
0 comments:
Post a Comment