Monday, January 13, 2014

สมชัย จึงประเสริฐ "ติง" การเลื่อนการเลือกตั้งเป็นอำนาจของ กกต.ไม่ใช่รัฐบาล

- 0 comments
จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รัฐบาลกำลังมีปัญหาเรื่องของอำนาจหน้าที่ว่าใครจะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการ เลือกวันเลือกตั้ง ต่างก็โยนกันไปมา นายสมชัย จึงประเสริฐ อดีตกกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย และอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา แนะทางออกของประเทศและแนวทางในการทำหน้าที่ของกกต.ชุดใหม่ ว่าการเลื่อนเลือกตั้งนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของกกต.โดยตรง เพราะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการจัดการและควบคุมการเลือกตั้งให้เกิดความเรียบ ร้อยและบริสุทธิ์ยุติธรรม และเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่สามารถที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 นี้ได้แล้ว ก็เป็นหน้าที่ที่กกต.จะต้องทำร่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ ส่งไปให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และรัฐบาลไม่สามารถจะเป็นอื่นได้ต้องดำเนินการรัฐบาลเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่ง ทางธุรการเท่านั้น

เพราะฉะนั้นกกต.จะโยนหน้าที่การจัดการเลือกตั้งไปให้รัฐบาลไม่ได้ อีกทั้งขณะนี้รัฐบาลก็เป็นรัฐบาลรักษาการไปแล้ว เพราะฉะนั้นอะไรที่เห็นว่าเป็นคุณกับเขาก็เป็นธรรมดาที่รัฐบาลจะต้องดำเนิน การตามที่ตัวเองต้องการ ที่มาตรา 108 ของรัฐธรรมนูญ ระบุไว้ว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันยุบสภาผู้แทนราษฎร และวันเลือกตั้งต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร

กรณีดังกล่าว รัฐธรรมนูญต้องกำหนดก็เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลอยู่ไปเรื่อย ๆ ที่ส่งร่างพระราชกฤษฎีกา กำหนดวันเลือกตั้งครั้งนั้น กกต.ก็เป็นผู้กำหนด และเสนอไปให้รัฐบาล เพื่อให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการเสนอทูลเกล้าฯ ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเป็นเพียงแค่ไปรษณีย์ แต่กกต.เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัด หรือจัดให้มีการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ ตามที่กฎหมายกำหนด ให้เป็นไปโดยสุจริต และ เที่ยงธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 236 อีกทั้งในการพิจารณาผู้ที่ถูกขัดขวางการเลือกตั้งไม่สามารถไปสมัครได้ใน 8 จังหวัดนั้น ก็ได้ไปร้องศาลฎีกาตามที่กกต.แนะนำ แต่ศาลฎีกาก็ชี้มาแล้วว่า เป็นหน้าที่ของกกต.ที่ต้องจัดการเลือกตั้ง

“การจะเลื่อนเลือกตั้งนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของกกต. ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล โดยกกต.ต้องทำความเห็นขอให้รัฐบาลส่งต่อตามขั้นตอน แต่ทั้งนี้ในการดำเนินการกกต. จะต้องไม่ได้ทำตามอำเภอใจ ไม่ใช่เลื่อนเพราะด้วยเหตุผลในการที่จะเอื้อประโยชน์แก่ใคร และเมื่อการรับสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่สนามกีฬาเวสน์ ไทยญี่ปุ่น - ดินแดง ก็เกิดเหตุยิงกัน มีระเบิด มีคนตายนองเลือดไปแล้ว ซึ่งก็ได้รับรู้กันไปทั่วโลก และทุกคนก็เห็นแล้วว่า เมื่อเดินต่อมาก็มีปัญหาจริง ๆ และหากการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ถ้ากกต.ถูกฟ้องก็เชื่อว่าด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่มี ก็สามารถทำให้กกต. ชนะได้ ไม่มีแพ้ แต่ถ้ายังเดินหน้า มีแต่เสี่ยงกับเสี่ยง และโอกาสติดคุกมีมาก

ดังนั้นวิธีการดำเนินการโดยกกต. ต้องเป็นผู้เชิญทุกพรรคการเมืองมาประชุม และบอกถึงสาเหตุที่กกต.ไม่สามารถที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 นี้ได้ และมีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ โดยขอความร่วมมือกับทุกพรรคในการประชุม เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ได้มติที่ประชุมนำมาเป็นรายงานได้ เพราะถ้ามีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป กกต.ควรที่จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ที่เหมาะสม ว่าควรจะให้มีการเลือกวันไหนอย่างไร แต่เมื่อถึงวันเวลาดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินการเลือกตั้งได้ ก็เรียกประชุมใหม่ได้ ซึ่งก็เป็นกระบวนการตามขั้นตอน ไม่ใช่ทำไม่ได้” นายสมชัย กล่าว

ส่วนตัวถ้าเป็นผมจะใช้มาตรา 7 และมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญ มาใช้ได้เนื่องจากมีเหตุที่สุดวิสัย เช่น น้ำท่วมจะตายกันอยู่แล้ว ก็ต้องเลื่อนออกไปได้ และนี่มีทั้งระเบิด ยิงกันมีคนตายเกิดขึ้น เหตุการณ์ไม่สงบจะจัดการเลือกตั้งอย่างไร ใครจะมาโจมตีได้อย่างไร ในเมื่อรัฐธรรมนูญเขียนไว้กว้าง ๆ โดยเฉพาะมาตรา 7 ที่ระบุว่า ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาตรา 3 วรรคสอง ระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม


ขณะนี้มีหลายคนห่วงโดยเฉพาะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กต.จว.) ที่มาประชุมเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ได้ถามกกต.ว่า หากเวลานี้ผ่านพ้นไปจนถึงวันที่ 26 ม.ค.57 ที่กกต.กำหนดไว้เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า จัดสถานที่กลางในการจัดการเลือกตั้ง ไว้อำนวยความสะดวกประชาชนนั้น หากมีการปิดล้อมเจ้าหน้าที่ แล้วจะมีใครช่วย และระหว่างหีบบัตรเลือกตั้ง กับชีวิต ควรจะรักษาสิ่งใดเป็นอันดับแรก ที่หลายคนพูดว่า สิทธิลงคะแนนก็ต้องลงคะแนน แต่ทุกคนก็เรียกร้องถึงสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยต้องเป็นระบอบนั้นระบอบนี้ อย่างที่ทั้ง 2 ฝ่ายเขาเรียกร้อง แต่มีใครคิดถึงชีวิตคนไทยด้วยกันบ้างหรือไม่ สิทธิเสรีภาพก็สำคัญ แต่สำคัญน้อยกว่าชีวิตของคน ชีวิตของคนต้องสำคัญที่สุด ต้องคำนึงถึง

“แต่ทั้งนี้ประเทศต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำอย่างไรให้ประเทศอยู่รอด และเล่นประชาธิปไตยจะเป็นแบบไหน และอย่างนี้ไม่เรียกว่าประชาธิปไตย เขาเรียกว่า อนาธิปไตย ทหารก็พูดเสมอว่า เป็นทหารของประเทศชาติ ถ้าประเทศชาติล่มสลายก็ต้องออกมารักษาประเทศ แต่ไม่ใช่ออกมา เพื่อรักษาสีเสื้อ เหลือง แดง ชมพู หรือสีอะไร และต้องเป็นการไม่ทำเพื่ออำนาจของตัวเอง แม้ชีวิตก็ต้องทำเพื่อรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ และประเทศชาติเวลานี้ประชาชนในแผ่นดินจะฆ่ากันแหลกรานอยู่แล้ว ทหารทำอะไรอยู่ทุกคนงงหมดทั้งประเทศแล้ว ถ้าทหารยังเฉยประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ปล่อยให้ประเทศสุ่มเสี่ยงอย่างนี้ได้อย่างไร

ทหารของประเทศชาติอยู่ที่ไหนสถานการณ์อย่างนี้ทหารควรออกมาเป็นเจ้าภาพใน การจัดการประเทศ เพื่อรักษาประเทศชาติเอาไว้ แต่ไม่ใช่ให้มาปฏิวัติ  แต่ให้ออกมาเป็นทหารของประเทศชาติ โดยจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน อะไรที่ไม่ดี อย่างเช่นเห็นว่ารัฐธรรมนูญบางมาตรามีปัญหาใช้ไม่ได้ ก็ยกเว้นไว้ก่อน อะไรที่เป็นเนื้อร้ายก็ต้องยอมตัดทิ้ง และหาคนที่เป็นที่ยอมรับมาดำเนินการ แต่ถ้าไม่ออกมารักษาประเทศชาติเอาไว้แล้วคุณจะพูดได้อย่างไรว่าคุณเป็นทหาร ของประเทศชาติ เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อรักษาประเทศชาติเอาไว้ แต่ที่ผ่านมาทหารออกมาปฏิวัติเพื่ออำนาจของตัวเองทั้งนั้น แต่ครั้งนี้ถ้าจะออกมาควรออกมาเป็นเจ้าภาพในการจัดการประเทศให้เกิดความสงบ สุข และมีทางเดินไปได้ เราไม่ได้เรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ แต่ให้ออกมารักษาประเทศชาติเอาไว้มาเป็นเจ้าภาพในการรักษาประเทศชาติไม่ให้ ล่มสลายไปกับนักการเมือง อย่างไรก็ตามการที่ตนออกมาพูดไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศ แต่ต้องการให้บ้านเมืองไปได้ และด้วยความปรารถนาดีกับทุกฝ่าย และห่วงประเทศชาติบ้านเมืองด้วยความจริงใจ” นายสมชัย กล่าว.

ที่มา : เดินิวส์ออนไลน์
[Continue reading...]

ทหารหวั่น "ตำรวจ" ใช้ความรุนแรงกับประชาชน

- 0 comments
รองโฆษกกองทัพบก ห่วงสถานการณ์ชัตดาวน์ปิดกรุงจะเกิดความรุนแรง ขณะเตรียมชุดดูแลมวลชนแล้ว ปัดทหารกักตัว รองนายกฯ เพื่อทำการปฏิวัติ
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ยอมรับว่า ทางกองทัพมีความเป็นห่วงสถานการณ์ชัตดาวน์ปิดกรุง 7 จุด ของกลุ่ม กปปส. จะเกิดความรุนแรง โดยเฉพาะกังวลจะไม่ได้รับความปลอดภัยของมวลชนที่เข้าร่วมชุมนุม ซึ่งฝ่ายทหารยังกังวลอยู่ ทั้งนี้ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าไปช่วยเสริมดูแลความสงบเรียบร้อย โดยจะเน้นประจำการในสถานที่ราชการ และชุดเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนเหตุต่างๆ ไว้คอยดูแลประชาชนไว้แล้ว เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่กระทำการรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม

นอกจากนี้ ย้ำว่า บทบาทของ ผบ.เหล่าทัพ จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เสนอให้ นายกรัฐมนตรี ออกพระราชกฤษฎีกาเลื่อนเลือกตั้ง ซึ่งคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองดำเนินการแก้ไขหาทางออกกันเอง

ส่วนกรณีที่กระแสข่าวว่า กองทัพควบคุมตัว รองนายกรัฐมนตรีบางคน ไว้ในเซฟเฮ้าส์ เพื่อทำการปฏิวัตินั้น ยืนยัน ไม่เป็นความจริง และมั่นใจ เป็นไปไม่ได้ที่กองทัพจะกระทำการดังกล่าว พร้อมย้ำ ทหารจะไม่ปฏิวัติอย่างแน่นอน

ที่มา : สำนักข่าว INN
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger