คลิป สุเทพ.ใส่ร้ายป้ายสี เสื้อแดงมีอาวุธสงครามร้ายแรงฆ่าทหาร ฆ่าตำรวจ ฆ่าประชาชน ปี 53 "ผ่าความจริง" แยกอุรุพงษ์

ฟังคลิปด้านล่าง
คำปราศรัยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ...พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลายครับ เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงที่พวกผม
จะเข้าเป็นตัวแทนของพี่น้องไปตะลุมบอนกับพวกมันในสภาแล้วครับ

ผมขอเรียนกับพี่น้องทั้งหลายว่ากฏหมายที่ฝ่ายรัฐบาลโดยนายวรชัย เหมะเสนอให้สภาพิจารณา ในวันมะรืนนี้ 7 สิงหาคมนั้น ไม่ใช่กฏหมายที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ไม่ใช่กฏหมายที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน แต่เป็นกฏหมายที่เป็นประโยชน์เพียงเฉพาะกับพวกมันเท่านั้น

พี่น้องทั้งหลายครับ กฏหมายฉบับนี้ มันจะเป็นกฏหมายที่ล้างผิดให้กับฆาตรกร ให้กับคนที่มันฆ่าตำรวจ ให้กับคนที่มาฆ่าทหาร ให้กับคนที่ฆ่าแม่ค้าขายข้าวแกง ให้กับคนที่ฆ่าประชาชนที่นางเลิ้ง  ให้กับคนที่ฆ่าประชาชนทั้งหลาย

...พี่น้องครับเขาได้ก่อความวุ่นวาย จนนักท่องเที่ยวไม่กล้ามาประเทศไทย  ในกรุงเทพฯ หลังจากที่เขาทำเรื่องร้ายที่พัทยาเสร็จ ...เขาพยายามยั่วยุ เพื่อให้เกิดความรุนแรงโดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ถ้าเมื่อไหร่เกิดความรุนแรงเขาจะระดม เอามวลชนที่เขาล้างสมองไว้เคลื่อนกำลังเข้ามายึดอำนาจรัฐ และสถาปนารัฐไทยใหม่ขึ้น รัฐไทยใหม่ที่เขาสถาปนาขึ้นนั้น มีประมุขเป็นประธานาธิบดี บนเวทีของเขาเขียนชื่อ ประธานาธิบดี ทักษิณชินวัตร  (นาทีที่ 08.35) 

เมื่อเราแก้ปัญหาได้ด้วยความอดทน ความละมุนละม่อมเราสามารถ ต้อนเอาผู้ชุมนุมทั้งหลายส่งขึ้นรถกลับบ้านได้หมด เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2552 แผนการร้ายเขาไม่ประสพความสำเร็จ

พอปี 2553ทันทีที่ศาลฯ พิพากษายึดทรัพย์ทักษิณ 46,373 ล้าน พวกนั้นเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ ทันที และมาตั้งเวทีที่สะพานผ่านฟ้า และทำการยึดถนนราชดำเนินทั้งสายจนประชาชนเดือดร้อนกันหมดทั้งเมือง

พี่น้องครับ ผมเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลฝ่ายความมั่นคงในขณะนั้น ผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมตามหลักสากล ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ผมได้กำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้พกอาวุธ  ไม่ให้มีอาวุธมีเพียงโล่กระบองรถฉีดน้ำและแก้สน้ำตารวมทั้งปืนลูกซองที่ใช้กระสุนยางเท่านั้น

 แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือว่า  เหตุการวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่เกิดขึ้นที่สี่แยกคอกวัวที่ถนนราชดำเนินมันเป็นความเจ็บปวด ที่พวกเราคนไทยทั้งประเทศลืมไม่ได้ (นาทีที่ 10.50) คนพวกนั้นบังอาจเอาอาวุธสงครามนา ๆ ชนิด ทั้งจรวด อาร์พีจี ทั้งเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ทั้งระเบิดขว้าง ทั้ง เอ็ม 16 อาก้า คาบิ้น ขนมาฆ่าเจ้าหน้าที่ของเรา เจ้าหน้าที่ซึ่งออกมาปฏิบัติการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทย

พี่น้องครับผม..ยังจำความรู้สึกนั้นได้ด้วยความเจ็บปวด (นาทีที่  11.30) ในขณะที่ผมห้ามเจ้าหน้าที่ของเราไม่ให้ใช้ความรุนแรง แต่พวกเขาพาคนพกอาวุธสงครามมาเดินอยู่บนถนนราชดำเนิน  พี่น้องนึกซิครับว่า คนพวกนั้นมีสิทธิ์อะไร ที่จะเอาอาวุธสงครามมาเดินอยู่บนถนนราชดำเนิน และมาคุกคาม ประทุษร้ายต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนชาวกรุงเทพฯ  แต่เขาได้ทำกันแล้ว

ในเหตุการณ์ตอนค่ำของวันที่ 10 เมษายน เจ้าหน้าที่ของเรา ทหารของประชาชน ที่ออกมาทำงานเพื่อรักษาความปลอดภัยให้บ้านเมือง รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน  เสียชีวิตทันทีในคืนนั้น 5 คน ผมขออนุญาตให้พี่น้องทั้งหลายได้ระลึกบรรดานายทหารผู้ที่ได้เสียสละ เพื่อระบอบประชาธิปไตย เพื่อความสงบของประชาชน และประเทศไทย ......พี่น้องครับทหารเหล่านี้เขาจำเป็นที่จะต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่...ที่เหลือ ยังมีการปราศรัยใส่ร้ายป้ายสีอีกมาก...ฟังต่อในคลิป

 

ที่มา:เฟจบุ๊คประชาธิปัตย์

[Continue reading...]

ศาลสั่ง 6 ศพวัดปทุมฯ เสียชีวิตจากทหารและไม่ปรากฏชายชุดดำ

วันนี้ 9.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 402 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอ่านคำสั่งกรณี ไต่สวนคําร้องชันสูตรการเสียชีวิต ในคดีที่พนักงาน อัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคําร้องขอให้ ศาลไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตของ นายสุวัน ศรีรักษา อายุ 30 ปี อาชีพเกษตรกร ผู้เสียชีวิตที่ 1, นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแห่ง ผู้เสียชีวิตที่ 2, นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ผู้เสีย ชีวิตที่ 3, นายรพ สุขสถิต อายุ 66 ปี อาชีพพนักงานขับ รถรับจ้างในสนามบิน ผู้เสียชีวิตที่ 4, น.ส.กมนเกด ฮัคอาด อายุ 25 ปี อาชีพพยาบาลอาสา ผู้เสียชีวิตที่ 5, และนายอัครเดช ขันแก้ว อาชีพรับจ้าง ผู้เสียชีวิตที่ 6 โดยทั้ง 6 ศพ ถูกยิงเสียชีวิตที่วัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม ของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายก รัฐมนตรี

ศาลสั่งว่าผู้ตายที่ 1,3-6 ถึงแก่ความตายเนื่องจากกระสุนปืน .223 จากทหารกองพันจู่โจมพิเศษที่ 3 ค่ายเอรวัญ จ.ลพบุรี ที่ประจำอยู่บริเวณรางรถไฟฟ้า BTS หน้าวัดปทุมฯ ขณะเกิดเหตุ

ส่วนผู้ตายที่ 2 ตายจากกระสุน .223 จากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ที่ประจำการอยู่บริเวณถนนพระราม 1 ช่วงเกิดเหตุ

ภายใต้คำสั่งของ ศอฉ. 

และผลการตรวจจากสถรบันนิติวิทยาศาสตรไม่พบร่องรอยการยิงปืนที่มือของทั้ง 6 ศพ จึงเชื่อว่าทั้ง 6 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้อาวุธปืน รวมทั้งขณะเกิดเหตุมีด่านเจ้าหน้าที่ตรวจค้นอาวุธแน่นหน้า 

นอกจากนี้ศาลยังระบุด้วยว่าไม่มีชายชุดดำในที่เกิดเหตุ
สั่งให้ส่งคำสั่งไปยังพนังงานอัยการเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ที่มา: ประชาไท

[Continue reading...]

รายการ คมชัดลึก บก.ลายจุด VS ผู้กองปูเค็ม จันทร์ ที่ 5 สิงหาคม 2556 ทางช่อง Nation Channel

เนื่องมาจากการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ยืนหยัด จะต่อสู้ ชุมนุมยืดเยื้อ หรือไม่

ก็ฟังจากความคิดเห็น จากคน 2 คนที่ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชุมนุม

ฝ่ายแรกร้อยเอกทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม

อึกฝ่าย สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือผู้กองลายจุด

[Continue reading...]

คลิป รายการฟันธง นิรโทษฯ ควรเดินหน้าต่อ หรือถอยกันแน่ โดย จาตุรนต์ ฉายแสง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ให้ความคิดเห็นว่า แม้ว่า ถอน พ.ร.บ.นิรโทษฯออกจากสภา ก็ใช้ว่า ประชาธิปัตย์จะยุติ

เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะขัดขวาง กฏหมาย ถึง 2-3 ฉบับ เช่น พ.ร.บ. บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โรงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน ที่จะเข้ามาหลังจาก การพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ

ความจริงเรากำลังนิรโทษคนที่กำลังถูกฆ่า จำนวนเป็นพันคน ทั้ง 2 ฝ่าย

เราจะเห็นฝ่ายที่ยึดอำนาจ คนที่เป็นกบฏ นิรโทษให้ตัวเองได้ง่าย ๆ การนิรโทษก็ไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก

[Continue reading...]

"ธาริต" เอาจริง! บุกกองปราบ แจ้งจับ "บัญญัติและพวก"

ธาริต บุกกองปราบแจ้งจับ บัญญัติ และ สส. 14 คนฐานหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ แจ้งความเท็จ คดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อเวลา 14.00 น.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. และพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการที่ปรึกษาพรรค และสส.พรรคประชาธิปัตย์อีก 14 คน ทั้งในความผิดต่อส่วนตัวและในฐานะเจ้าพนักงาน ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาท ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 , 138, 173 และ326

 

นายธาริต กล่าวว่า เดินทางมาแจ้งความทั้งในฐานะส่วนตัว และฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดีกับ นายบัญญัติ และพวก รวมทั้งหมด 15 คน กรณีที่นายบัญญัติยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ให้ดำเนินคดีกับตน และ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์เป็นคดีพิเศษ

 

นายธาริต กล่าวต่อว่า ในคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือแจ้งไปยังนายบัญญัติเพื่อเข้าให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าวถึง 7 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยมาเข้าพบ แล้วกลับไปยื่นเรื่องต่อ ปปช. ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 “การกระทำของนายบัญญัติซึ่งเป็นผู้ทรงเกียรติในบ้านเมืองและเคยอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติแต่การกระทำดังกล่าวเป็นแบบอย่างที่ไม่ถูกต้อง เพราะกฎหมายบ้านเราเป็นระบบกล่าวหา เมื่อมีการออกหมายเรียกแต่ไม่มาพบพนักงานสอบสวนแล้วไปยื่นเรื่องต่อ ปปช. ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน ด้วยเหตุนี้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องแจ้งความดำเนินคดี” นายธาริต กล่าว

 

เบื้องต้น พล.ต.ต.สุพิศาล ได้รับเรื่องและมอบหมายให้ พ.ต.ท.ศิววงศ์ ดำรงค์สัจจศิริ พนักงานสอบสวน บก.ป. สอบปากคำผู้ร้องไว้ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับ

ที่มา :คมชัดลึก

[Continue reading...]

คลิป เจาะข่าวเด่น ณัฐวุฒิ ปะทะ นิพิฎฐ์ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 5ส.ค.56 ช่อง 3

เริ่มต้น ด้วย นายนิพิฎฐ์ อ้างว่า ต้นตอของความขัดแย้ง ซึ่งอ้างว่า พ.ร.บ. นี้จะนิรโทษให้กับคน ที่ยิงวัดพระแก้ว คนเผาศาลากลาง คดีก่อการร้าย  อ้างเฉพาะ คนต้องขังที่เป็นเสื้อแดง แต่ไม่ได้พูดถึง คนกลุ่มอื่น ๆ

ซึ่ง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายนิพิฎฐ์ เลือกที่จะไม่เชื่อ ก็ป่วยการที่จะพูด แต่ยังคุยกันไม่จบวันนี้ ติดตามตอนต่อไป

สามารถดูได้ใน Youtube

[Continue reading...]

“มาร์ค” สวน “แม้ว” ไม่เคยอยู่ในสายตา แขวะมีเงินมากซื้อสติปัญญาไม่ได้

5ส.ค.2556  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ทวิตเตอร์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ระบุเป็นคนพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอยกลับไปกลับมาไม่มีหลักการอุดมการณ์พร้อมแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์  บนเวที"ผ่าความจริง" ใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ว่า ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณด่าทอตนมีปัญหาสุขภาพจิต ลามไปถึงพ่อแม่ของตน และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเห็นใจจริงๆและตนจะไม่ตอบโต้ แต่อยากเตือนความจำว่า เคยมีคดีที่ตนฟ้องหมิ่นประมาทไว้รอให้มาขึ้นศาลแก้ต่างคดี

"ส่วนการกล่าวหาว่าผมยังมีโลภ โกรธ หลง นั้น ใครจะโลภได้เท่าคนที่ถูกยึดทรัพย์ไป 4.6 หมื่นล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามมีเงินมาก็ใช่ว่าจะซื้อสติปัญญาได้ ขณะที่เรื่องโกรธมีคนไหนที่ฆ่าตัดตอนคนได้เป็นร้อยเป็นพัน ส่วนที่บอกว่าผมหลับตาก็เห็นแต่ทักษิณ ลืมตาก็เห็นแต่ทักษิณนั้น ผมไม่เคยเห็นทักษิณอยู่ในสายตา ดังนั้นไม่ต้องมาเป็นห่วง ห่วงก็แต่คนที่สุขภาพจิต สุขภาพกายไม่ดี อายุปูนนี้แล้วยังมาชกกระสอบทราย เก่งแต่ต่อยกับสิ่งที่ต่อยกลับไม่ได้" นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรตั้งเงื่อนไขว่าต้องถอนร่างนิรโทษออกมาก่อนจึงเจรจา ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่านายกฯเข้าใจคำว่าเงื่อนไขหรือไม่ เพราะเงื่อนไขที่ต้องแก้ไข คือความขัดแย้งทางสังคมที่เกิดขึ้น ซึ่งมาจากการเสนอร่างนิรโทษกรรมล้างผิด ดังนั้นสิ่งใดเป็นเงื่อนไข ก็ควรเอาออกไปก่อน

ที่มา : คมชัดลึก

[Continue reading...]

"การประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่กลับยิ่งสร้างปัญหาความขัดแย้งมากขึ้น" นพ.นิรันดร์ กรรมการสิทธิ์ฯ

กสม. ลงพื้นที่ตรวจการชุมนุมม็อบกองทัพประชาชน ก่อนแจ้งหน่วยงานรัฐร่วมอำนวยความสะดวก
นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เพราะทางแกนนำได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนไว้ว่าอยากให้ กสม. เข้ามาดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุม ตามมาตรา257 ของรัฐธรรมนูญ จึงได้เดินทางมาดูว่าหน่วยงานของรัฐอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนหรือไม่ ซึ่งโดยรวมแล้วขณะนี้ยังเรียบร้อยดี
ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่า การประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่ในทางกลับกันยิ่งสร้างปัญหาให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของการเมือง ก็ต้องแก้ด้วยการเมือง

อย่างไรก็ตามได้เชิญแกนนำผู้ชุมนุมไปชี้แจงว่ามีปัญหาอุปสรรคอย่างไรเกิดขึ้นบ้าง เพื่อที่ กสม. จะดำเนินการนำข้อร้องเรียนไปแจ้งต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงที่อาจขยายวงกว้างออกไป

 นพ.นิรันดร์ น่าจะไปดู ภาพและคลิปนี้ "ปูเค็ม" บุกพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่มี พ.ร.บ. ม็อบกองทัพประชาชน อาจจะบุกยึด สภา ยึดทำเนียบรัฐบาล กรรมการสิทธิ์ จะว่าอย่างไร  ซึ่งเขาใช้หลักการเดียวกับที่ศาลปกครองใช้คือ "หลักการป้องกันล่วงหน้า"

 

[Continue reading...]

มุข ที่ "ประชาธิปัตย์" และฝ่ายโค่นล้มใช้มาตลอด....สถาบัน

การเคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือที่เราเรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตย ข้อหาที่ใช้กันประจำ คือการบริหารงานล้มเหลว ทำให้เกิดการทุจริต โกงกิน

สมัยรัฐบาลไทยรักไทย มีข้อหาเพิ่ม การทุจริตเชิงนโยบาย และเผด็จการทางรัฐสภา

ข้อหาแรกไม่สามารถที่จะหาหลักฐานมากล่าวหาได้ ก็เลยบอกว่า ทุจริตเชิงนโยบาย

สำหรับคำว่าเผด็จการทางรัฐสภา ก็เกิดขึ้นในยุคสมัยเดียวกัน ข้ออ้างของประชาธิปัตย์ คือ ฝ่ายค้านไม่สามารถตรวจสอบฝ่ายบริหารได้ คือไม่สามารถ อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีได้ เพราะเสียงไม่พอ ที่จะใช้ตามต้องใช้ ส.ส. ไม่น้อยกว่า 2 ใน 5 ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่  ซึ่งจำนวน สส.ของประชาธิปัตย์ที่มีอยู่ในขณะนั้นมีจำนวน ไม่เพียงพอ

สำหรับข้อกล่าวหาที่ใช้กันมาทุกยุค ทุกสมัย คือ การแอบอ้างสถาบัน เริ่มต้นจากให้คนไปตะโกนในโรงหนัง สมัยท่าน ปรีดี พนมยงค์  ผลปรากฏว่าศาลตัดสินให้ชนะทุกคดี และยังได้รับความรับรองจากทางราชการตลอดจนเงินบำนาญและหนังสือเดินทางของไทย

ในสมัย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ทางพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็มีการตั้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกรณี ทำบุญในวัดพระแก้ว และ ข้อกล่าวหา ล้มสถาบัน เพื่อสถาปนาตัวเอง เป็นประธานาธิบดี สำหรับข้อกล่าวหานี้ ประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอ้าง บนเวทีปราศรัย ในการหาเสียงเลือกตั้งในหลาย ๆ ครั้ง เช่น การหาเสียงสมัครเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯมหานคร (นาทีที่ 30 .00 เป็นต้นไป)

ในการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ก็มีข่าวแพร่สะพัด ในช่วงวัน 2 วันนี้  ของกลุ่มคนที่ สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะมีการ ล้มสถาบันของคนเสื้อแดง และฝากฝ่ายรัฐบาล

การกระทำของ ประชาธิปัตย์มีเป้าหมายเดียวเพื่อ ยุยงกลุ่มคนออกมาได้มากที่สุด เพราะ สถาบันเป็นสิ่งที่เทอดทูนเคารพของประชาชนไทยทุกคน

นี่คือสิ่งที่พรรคนี้กล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ โดยไม่คำนึงวิธีการ

กล่าวหาว่าผู้อื่นไม่จงรักภักดี แล้วจริง ๆ ตัวเอง มีความจงรักภักดี หรือเปล่า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิด

ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นเช่น นายฐนโรจน์ โรจนกุลเศรษฐ์ ส.ส.ชลบุรี ไม่ยืนระหว่างเพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลง นี่คือคนของพรรคที่ อ้างว่าจงรักภักดี

ก็คงมีแต่คนที่ หน้ามืด ตาบอด ที่ยังคงหลงเชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และกลายเป็นเครื่องมือ ของพรรคนี้ไปทำร้ายคนอื่น ทำร้ายประเทศไทย

[Continue reading...]