Thursday, August 15, 2013

"กระชับพื้นที่ ในอียิปต์ กับข้ออ้าง "ผู้ชุมนุมมีอาวุธ" เหมือน "ไทย" เป๊ะ (มีคลิป)

- 0 comments
หลังจากรัฐบาลอียิปต์ส่งกำลังเข้าสลายการชุมนุมของผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี จนมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน รายงานชิ้นนี้จะพาย้อนกลับไปดูการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุม กับเจ้าหน้าที่รัฐของอียิปต์ตั้งแต่หลังรัฐประหารเป็นต้นมา กับข้ออ้างคลาสสิกของรัฐบาลที่ว่า "ผู้ชุมนุมมีอาวุธ"
 
 หลังจากกองทัพก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี แล้วตั้งนายอัดลี มันซูร์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานาธิบดีรักษาการณ์ ผู้สนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิมของนายมอร์ซี ก็ออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาล
 
 5 วันหลังจากรัฐประหาร ผู้ประท้วงสนับสนุนนายมอร์ซี เดินขบวนไปที่หน้าค่ายทหารองค์รักษ์ กลางกรุงไคโร ซึ่งผู้ประท้วงเชื่อว่าเป็นที่ที่นายมอร์ซีถูกจับขังอยู่  การปะทะกันระหว่างทหารกับผู้ชุมนุมทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 ราย ในจำนวนนี้เกือบทั้งหมดเป็นผู้ชุมนุม และมีเด็กรวมอยู่ด้วย  กองทัพอียิปต์อ้างว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธยิงใส่ทหาร แต่ภาพที่เผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นว่ามีผู้ชุมนุมเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีปืน
 
 อีก 3 สัปดาห์ต่อมา เจ้าหน้าที่รัฐปะทะกับผู้ประท้วงสนับสนุนนายมอร์ซี ที่ชุมนุมหน้ามัสยิดราบาห์ อัล-อะดาวิยา  รัฐบาลอียิปต์แถลงว่ามีผู้เสียชีวิต 65 ราย แต่แพทย์หลายคนประมาณว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตเกิน 100 ราย  รัฐบาลอียิปต์อ้างอีกเช่นเคยว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธ
 
 หลังจากเหตุการณ์นี้ ผู้ชุมนุมสนับสนุนนายมอร์ซี ยังคงปักหลักอยู่ที่ 2 จุดใหญ่คือด้านหน้ามัสยิดราบาห์ อัล-อะดาวิยา และใกล้มหาวิทยาลัยไคโร
 
ในวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามโน้มน้าวให้ผู้ชุมนุมบางส่วนออกจากจุดชุมนุม โดยประกาศว่าจะสลายการชุมนุมทั้ง 2 จุด ในขณะเดียวกันก็จัดบริการขนส่งให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ชุมนุมได้ฟรี  แต่คำประกาศของรัฐบาลว่าจะสลายการชุมนุมกลับยิ่งทำให้มีผู้ชุมนุมออกมาสมทบทั้ง 2 จุดเพิ่มขึ้นกว่าเดิม  และผู้ชุมนุมก็นำวัสดุที่หาได้มาก่อเป็นแนวป้องกันการบุกของเจ้าหน้าที่
 เช้าวันที่ 14 สิงหาคม รัฐบาลส่งกองกำลังเข้าสลายการชุมนุมทั้ง 2 จุด ค่ายผู้ชุมนุมที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยไคโรนั้นเล็กกว่า และถูกสลายได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
 
ส่วนที่ค่ายผู้ชุมนุมหน้ามัสยิดราบาห์ อัล-อะดาวิยา มีเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องจนถึงบ่าย // กระทั่งช่วงเที่ยงวัน รัฐบาลกล่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ใช้กระสุนจริง แต่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศยืนยันว่าผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากมีบาดแผลจากกระสุนจริง
 และแน่นอน รัฐบาลก็ต้องใช้ข้ออ้างคลาสสิกอีกเช่นเคย ว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธ 
 
แม้ว่ากลุ่มภราดรภาพมุสลิม จะแถลงว่าผู้ชุมนุมต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐด้วยก้อนหินและอาวุธเท่าที่หาได้  แต่ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนกล่าวว่าพบเห็นผู้ชุมนุมที่มีปืนอยู่จริง และมีผู้ชุมนุมหยิบมือหนึ่งที่มีอาวุธร้ายแรงด้วย
 
ในบ่ายวันเดียวกัน ข่าวการสลายการชุมนุมและผู้เสียชีวิตในกรุงไคโร ทำให้ผู้สนับสนุนนายมอร์ซีในเมืองใหญ่ๆ ทั่วอียิปต์ ออกมาตอบโต้ด้วยการเผาทำลายสถานที่ราชการ สถานีตำรวจ และโบสถ์คริสต์หลายแห่ง
 
ในช่วงเย็น รัฐบาลแถลงว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 278 ราย เป็นพลเรือน 235 คน และเจ้าหน้าที่รัฐ 43 นาย  ส่วนกลุ่มภราดรภาพมุสลิมกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,000 คน  ตัวเลขจริงเป็นเท่าใดนั้นยังไม่ปรากฏแน่ชัด
 
แน่นอนว่า รัฐบาลย่อมอ้างว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้อาวุธหนักจนมีผู้เสียชีวิต เพราะผู้ชุมนุมมีอาวุธ  และข้ออ้างนี้ก็คงใช้ได้อยู่ร่ำไป เพราะในการใช้กำลังสลายการชุมนุมขนาดใหญ่แทบทุกกรณี ย่อมมีผู้ชุมนุมขัดขืนแล้วต่อสู้ด้วยอาวุธเสมอ 
 
แต่คำถามคือ ผู้ชุมนุมที่มีอาวุธนั้น มีจำนวนมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับผู้ชุมนุมทั้งหมด และเจ้าหน้าที่รัฐใช้อาวุธและแนวทางปฏิบัติงานสอดคล้องกับจำนวนผู้ชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงหรือไม่
 
การดูแลไม่ให้ผู้ชุมนุมมีอาวุธในที่ชุมนุมนั้น เป็นภาระหน้าที่หนึ่งของแกนนำ  แต่ในขณะเดียวกัน การที่มีผู้ชุมนุมจำนวนหยิบมือหนึ่งมีอาวุธนั้น ก็ไม่ใช่ใบอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถสังหารผู้ชุมนุมได้โดยไม่เลือกหน้าเช่นกัน
[Continue reading...]

"มาร์ค" โวยดีเอสไอ รับสอบคดี "มัลลิกา" โพสตัดต่อภาพแตะ "ตระกูลชิน"

- 0 comments
"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โวยดีเอสไอรับลูกสอบคดี "มัลลิกา" โพสต์รูป "ยิ่งลักษณ์" ลงเฟซบุ๊ก อัดแตะต้องบางตระกูลไม่ได้ ตั้งข้อสงสัยอ้างประชาธิปไตยได้อย่างไร...

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย ชาแนล ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดี น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ภาพตัดต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยแพร่ในเฟซบุ๊กเป็นคดีพิเศษ ว่า ตนสงสัยว่าเข้าข่ายฐานความผิดคดีพิเศษอย่างไร แปลกใจว่าตอนนี้ใครแตะต้องบางตระกูลไม่ได้เลย ใครวิจารณ์นายกรัฐมนตรี หรือพี่ชายนายกรัฐมนตรี จะโดนดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอ
ขณะที่รัฐบาลกำลังผลักดันกฎหมายล้างความผิดให้คนหมิ่นสถาบันฯ รวมทั้งคนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชุมนุม จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรเกิดขึ้นในบ้านเมือง และเป็นประชาธิปไตยตามที่กล่าวอ้างได้อย่างไร.
ที่มา : ไทยรัฐ

นี่คือการไม่รู้จักแยกแยะ ผิด ชอบ ชั่ว ดี  ว่าการกระทำของ "มัลลิกา"  ควร หรือไม่

ความเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ไปละเมิดสิทธิ์ ของใครก็ได้

การเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น นั่นคือประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น

ทำคนอื่นได้ พอถูกกระทำบ้างรับไม่ได้ เขาเรียกว่า "อันธพาล"

พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำพาของนายอภิสิทธิ์ นับวันจะตกต่ำลง ก็เพราะเหตุนี้



[Continue reading...]

รถไฟก็ไม่มี" 2 มาตรฐาน" รมต.นั่ง ก็สายเหมือนกัน

- 0 comments
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงพื้นที่ตรวจงานที่จังหวัดสุรินทร์ เลยถือโอกาส นั่งรถไฟ ขึ้นรถไฟ ที่สถานีบางซื่อ แต่ได้เจอประสบการณ์จริง รถไฟตอนนี้ช้ากว่ากำหนดเป็นครึ่งชั่วโมงตามปกติ

ท่านรัฐมนตรี ก็เลยได้มานั่งคุยกับพนักงานขับรถไฟและตำรวจรถไฟ เรื่องกระบวนการเดินรถ การสื่อสารภายในรถหากเกิดปัญหาขึ้น และการพัฒนาตัวรถไฟ สอบถามความเห็นของเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ในการวางนโยบายต่อไป

ที่มา :เฟสชัชชาติ สิทธิพันธุ์
[Continue reading...]

เห็น "อียิปต์" มามอง "รัฐ" ไทยปี 53 โหด ไม่แพ้กัน

- 0 comments
เห็นรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เผยยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการในจุดสำคัญต่างๆในกรุงไคโร อาทิ บริเวณใกล้มัสยิดราบา อัล-อาดาวิยา 137 คน จัตุรัสนาห์ดา 57 คน เขตเฮลวาน 29 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในจังหวัดอื่นๆอยู่ที่ 198 คน โดยมีเจ้าหน้าที่รวมอยู่ด้วย 43 คน และบาดเจ็บกว่า 3,572 คน

อย่างไรก็ดี เชื่อกันว่ากลุ่มภราดรภาพมุสลิมจะยังคงไม่ยอมแพ้และเดินหน้าประท้วงต่อไป เนื่องจากกลุ่มต้องใช้เวลากว่า 80 ปี จึงได้ปกครองอียิปต์ และกลุ่มเชื่อว่าถูกขโมยอำนาจไปอย่างไม่ชอบธรรม กลุ่มภราดรภาพมุสลิมอ้างว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2,200 คน บาดเจ็บกว่า 10,000 คน

นี่คืออเหตุการณ์ของผู้ประท้วงที่เรียกร้อง "ประชาธิปไตย" รัฐบาลที่มาจากเผด็จการมักจะเลือกใช้ วิธีการนี้

คิดว่าสามารถ กำหราบผู้ที่คิดต่างได้

การฆ่าประชาชนอย่างมากมายแบบนี้ ในที่สุด ผู้ที่สั่งการก็ถูกลงโทษในที่สุดในฐานะ "ฆาตรกร"

แต่ก็แปลกเหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นในประเทศไทย ที่มักจะอ้างว่าเป็นเมือง "พุทธ" กลับมีการสั่งทหาร ออกมาฆ่าประชาชน ตายอย่างเลือดเย็น ร่วม 100 ศพ

ฆาตรกร "ผู้สั่งฆ่า" ยังลอยนวล

แทนที่ "รัฐบาล" ที่ล้อมปราบประชาชนจะมีความผิด

กลับมีองค์กร ที่อ้างว่าเป็นองค์กร "ทางด้านสิทธิมนุษย์ชน" เห็นประชาชนที่ออกมาประท้วงเพียงขอให้รัฐบาลในขณะนั้นยุบสภา มีความผิด

เห็นว่า "รัฐบาล" ที่ใช้อำนาจในขณะนั้น "ชอบ" ด้วยกฏหมาย

หาว่าผู้ประท้วงมีอาวุธก่อให้เกิดความรุนแรง

แต่ทำเป็นมองไม่เห็นว่า รัฐบาลในขณะนั้น เบิกใช้กระสุนนับแสนนัด

กระสุนเหล่านั้นใช้ยิงอะไร

มีผบ.เหล่าทัพคนหนึ่งบอกว่า ใช้ "ยิงนก" แต่ผู้ที่ตายกลับเป็นประชาชน

ก่อนหน้าที่ รัฐบาลขณะนั้นประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงและประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง

ผู้ประท้วงก็อยู่กันอย่างสงบ

อาจจะทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้ที่สัญจรไปมาบ้าง

แต่ความผิดของพวกเขาไม่น่าถึงขนาดต้องเสียชีวิต
[Continue reading...]

สลดคุณยายตายในคุก สู้คดีไม่ยอมรื้อบ้าน

- 0 comments
เมื่อ 15 ส.ค. พ.ต.ท.สุขสันต์ ผาสุก สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สามโคก ได้รับแจ้งจากเรือนจำปทุมธานี ว่ามีนักโทษหญิงวัย 72 ปี เสียชีวิตให้มาสอบสวนด้วย







เมื่อไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอัยการจังหวัด แพทย์ รพ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง พบว่า น.ญ.พิมพ์ใจ แก้วศรี อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.5 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เสียชีวิตขณะถูกควบคุมขังอยู่ในเรือนจำในข้อหาบุกรุกอยู่อาศัยในที่ดินคนอื่น ซึ่งศาลลงโทษจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน และติดอยู่ในเรือนจำได้เดือนเศษ ทว่าคุณยายพิมพ์ใจ มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว จึงเสียชีวิตในที่สุด ด้านญาติไม่ติดใจ เจ้าหน้าตำรวจจึงได้มอบศพให้นำไปดำเนินการทางศาสนา

 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจาก วัดสุวรรณจินดาราม ถนนปทุมธานี ลาดหลุมแก้ว ม.5 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยทางญาติผู้ตายให้ข้อมูลว่า ยายพิมพ์ใจ ต่อสู้คดีบุกรุกที่ดินอยู่อาศัย เป็นบ้านชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง ซึ่งอยู่มากว่า 20 ปี โดยมีลูกชายชื่อนายสุทัศน์ อายุ 36 ปี ส่วนสามี เลิกกันไปหลายสิบปีแล้ว และอยู่ๆ ได้มีเจ้าของมาบอกว่าให้รื้อบ้านไปเพราะถือเป็นการบุกรุก แต่ยายไม่ยอมรื้อเนื่องจากอยู่มานาน และทางอำเภอได้ออกเลขบ้านให้ตั้งแต่ต้น ซึ่งตอนนั้นที่ดินตรงนี้ไม่มีบ้านใครอยู่เลย 

 
จากนั้นมีหมายศาลมาแจ้งว่าให้ยายรื้อบ้านออกไป แต่ยายก็ไม่ยอมรื้อและว่าจะขอต่อสู้จนตาย และยายก็ต่อสู้มาเรื่อยๆจนแพ้คดีความ ศาลจังหวัดปทุมธานี ตัดสินจำคุก 6 เดือน พร้อมกับนางสละ ชุ่มดี อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวที่ได้มาพักอาศัยอยู่ด้วยถูกคุมขังอยู่เรือนจำปทุมธานี และต่อมา นายสุทัศน์มาแจ้งศาลว่าป้ามาขออาศัยอยู่เท่านั้น ศาลจึงให้ปล่อยตัวไป จึงขังยายคนเดียว
[Continue reading...]

"ฆ่าประชาชน ซ้ำ 2" สนนท. จี้ กสม.ลาออก ระบุรายงานสลายแดงบิดเบือน

- 0 comments
สนนท. ประท้วงรายงานสลายการชุมนุมแดงปี 53 ของคณะกรรมการสิทธิฯ ระบุบิดเบือนไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง จี้รับผิดชอบลาออกทั้งคณะ พร้อมปฏิรูปที่มาโดยให้เป็นการเลือกตั้งจากประชาชน

15 ส.ค.56 เวลา 12.00 น. ที่อาคารบี ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) นำโดยนายสุพัฒน์ อาษาศรี เลขาธิการ สนนท. เดินทางมายื่นข้อเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ลาออกจากตำแหน่ง และปฏิรูปกระบวนการสรรหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยให้เป็นการเลือกตั้งจากประชาชน ระบุว่ารายงานผลการตรวจสอบเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม เสื้อแดงปี 53 นั้น บิดเบือนไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ในรายการ คม ชัด ลึก ทางช่องเนชั่นทีวี ศ.อมรา พงศาพิชญ์ ประธาน กสม. ก็ไม่สามารถให้ความกระจ่างต่อการสอบถามได้
โดยมีนายขรรค์ชัย คงเสน่ห์ รองเลขาธิการ กสม. เป็นตัวแทนลงมารับหนังสือของ สนนท.

นอกจากการอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องแล้ว สนนท. มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการฉีกรายงานผลสรุปเหตุการณ์การชุมนุม ปี 53 พร้อมแสดงละครล้อเลียน สะท้อนว่า รายงานของ กสม. ฉบับนี้ เป็นการฆ่าผู้ที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมให้ตายซ้ำ 2 อีกด้วย รวมทั้งมีการถือป้ายประท้วง เช่น “ตายซ้ำ 2” “คณะกรรมการคุ้มครองอภิสิทธิ์ชนแห่งชาติ” เป็นต้น

แถลงการณ์: กรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกรายงานผลการตรวจสอบเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.
            ในกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกรายงานดังกล่าวในเชิงนโยบาย ซึ่งรายงานนี้เป็นรายงานที่บิดเบือนไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ในรายการ คม ชัด ลึก ทางช่องเนชั่นทีวี ศาสตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ก็ไม่สามารถให้ความกระจ่างต่อการสอบถามได้ซึ่งทั้ง 2 ประการที่เกิดขึ้นทั้งรายงานและการให้สัมภาษณ์พยายามบ่งบอกได้ว่ารัฐสามารถที่จะใช้กำลังทหารและกำลังอาวุธสงครามเข้าทำร้ายและสังหารผู้มาชุมนุมได้
            คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นองค์กรที่มีบทบาทชัดเจนภายหลังการรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 และมีอำนาจมากยิ่งขึ้นภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ถือได้ว่าเป็นอีกองค์กรที่เป็นอุปสรรคและขัดขวางต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งคณะกรรมการก็เป็นบุคคลที่สืบทอดอำนาจเผด็จการจากคณะรัฐประหาร
            อุปสรรคต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยเห็นได้จากที่มาของคณะการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมาจากการสรรหาซึ่งไม่สอดคล้องต่อบริบทในสังคมไทยที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งคณะกรรมการสรรหาก็ไม่ได้ยึดโยงกับอำนาจประชาชนแต่อย่างใด ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ล้วนย้อนแย้งกับทิศทางที่ประชาชนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ผ่านมาไม่ได้เป็นที่ยอมรับของประชาชนและการปฏิบัติงานก็มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือที่รู้จักกันในวลีที่ว่า “2 มาตรฐาน” ทำให้ความเป็นอิสระกลับกลายเป็นองค์กรที่เลือกจะอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรที่มีรากเง้าเก่าแก่ในสังคมไทย
            ด้วยพฤติการณ์ของ กสม.  สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) จึงเสนอทางออกแก่ กสม.ดังนี้
1.ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติลาออกจากตำแหน่ง
2.ให้ปฏิรูปกระบวนการสรรหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยให้เป็นการเลือกตั้งจากประชาชน
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
                                                                                                       15 สิงหาคม 2556
 
ที่มา :ประชาไท
[Continue reading...]

ดูคลิป "ชัชชาติ" ทดลองใช้บริการสาย 8 หลังจาก "ชนะ" โหวตสุดยอดแย่

- 0 comments
หลังจากที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนว่ารถเมล์สายใด บริการแย่ที่สุด โดยผลปรากฎออกมาว่าเป็นสาย 8 แฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ

ล่าสุดรัฐมนตรีชัชชาติ ลงทุนสลัดคราบผู้บริหาร นั่งรถเมล์สาย8ด้วยตัวเอง และโพสขึ้นเฟซบุ๊คว่า

วันนี้มาลองขึ้นรถเมล์สาย 8 ทั้งขาออก และขาเข้าเมือง รถที่ผมได้นั่งทั้งสองคันไม่ซิ่งมากนัก (สงสัยเพราะว่ารถติด) คุยกับกระเป๋า น้องเขาบอกว่าคนขับกับกระเป๋าไม่มีเงินเดือนครับ ต้องแบ่งรายได้จากค่าตั๋ว เลยต้องพยายามรับผู้โดยสารให้ได้เยอะๆ น้องกระเป๋าเริ่มงานตี 5 ถึง 5 ทุ่ม

ส่วนรายได้พออยู่ได้ แต่ต่างจาก ขสมก. ที่พนักงานมีเงินเดือนประจำ และแบ่งจากค่าตั๋วนิดหน่อย เพราะฉะนั้นสาย 8 เป็นปัญหาของการบริหารจัดการรถร่วมในภาพรวม เรามีรถร่วมให้บริการประมาณครึ่งหนึ่ง และรถ ขสมก. อีกครึ่ง ซึ่งปัญหานี้สะท้อนให้เห็นปัญหาในระดับของการบริหารจัดการรถร่วมครับ ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ให้อยู่ร่วมกันได้ และมีคุณภาพที่ดีด้วย

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่า รมต.ชัชชาติสั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยชะลอการขึ้นค่าโดยสารรถไฟชั้น3 และให้ส่งรายงานคุณภาพมาตรฐานการให้บริการด้วย เนื่องจากเห็นว่ารถไฟชั้น3 เป็นชั้นที่คนมีรายได้น้อยใช้ในการเดินทางหากขึ้นราคาแต่คุณภาพเท่าเดิมก็ไม่สมควรขึ้น

ที่มา : เพส "ชัชชาติ" / วีดีโอ : เนชั่นแชนแนลสถานีข่าว 24 ชม
 
[Continue reading...]

 "บอล” ยันฆ่า “เอกยุทธ” ชิงทรัพย์ ไร้คนจ้าง วอนอย่าใช้ตนเป็นเครื่องมือ

- 0 comments
ตำรวจสวนกลับข่าวมั่ว-รุดสอบ "บอล" ยันไม่เคยเจอทีมทนายพันธมิตร
เมื่อ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ได้แถลงกรณีที่นายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง พร้อมพวก ก่อเหตุฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังเพิ่มเติม โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า  ที่เป็นข่าวนั้น ยืนยันว่าผู้ที่พูดอะไรทั้งหมด อยากให้มาให้การ เพื่อให้เป็นไปตามพยานหลักฐานในสำนวนที่ถูกต้อง ไม่ใช่พูดเพราะอยากเป็นข่าว ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายบอล กลับคำให้การ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ให้ พล.ต.ต.อนุชัย ซึ่งดูแลสำนวน ชี้แจงว่านายบอลให้การอย่างไรบ้าง มีใครไปจ้าง หรือเยี่ยมบ้างไหม ไม่มี อย่าดีแต่พูด

พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ ผบช.น.ได้ให้พนักงานสอบสวน เข้าไปในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบปากคำนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง ตามประเด็นที่มีการกล่าวอ้าง  โดยขอตอบเป็นข้อๆ ข้อแรกนายบอล ยืนยันว่า ตั้งแต่ถูกจับกุม ควบคุมและฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีแต่พ่อ แม่ และทายของเขาเข้าไปเยี่ยม ส่วนทนายหรือผู้แทนของนายสุวัตร อภัยภักดิ์ (อดีตทนายความนายเอกยุทธ) ไม่เคยมาเยี่ยม พบหรือพูดคุยกับนายบอลแต่อย่างใด กล่าวโดยสรุปคือ

1.ไม่เคยมีผู้แทนของนายสุวัตรมาพบ

2. นายบอลยืนยันว่าไม่เคยพูด ว่ามีคนมาจ้างให้ฆ่าผู้ตาย โดยจะให้ค่าจ้าง 3 ล้านบาทตามที่ว่า ทั้งพูดจริงและพูดเล่น ไม่เคย

3.ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทางพนักงานสอบสวนได้ไปอ่านให้ฟังว่า ที่มีญาติของผู้ต้องหาคนอื่นมาเยี่ยม คือมาเยี่ยมผู้ต้องหาคนอื่น ซึ่งนายบอลได้ฝากไปบอกญาติว่าให้ไปบอกทนายความว่าอยากพบนายสุวัตร หรือผู้แทน ว่าจะรับสารภาพว่ามีคนจ้างฆ่านายเอกยุทธ จากกลุ่มคนมีสี ด้วยเงินประมาณ 3 ล้านบาท นายบอลตอบว่า “ขอยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด และไม่เคยพูดข้อความดังกล่าว และเนื้อความในหนังสือพิมพ์ที่ให้อ่านนั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง”

พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า ได้ตรวจสอบแล้วเขายืนยันว่ารายชื่อบุคคลที่จะเข้าไปในเรือนจำนั้น ต้องมีหลักฐาน ซึ่งเมื่อตรวจสอบไม่มีรายชื่อผู้แทนหรือนายสุวัตร เข้าไปเยี่ยม สุดท้ายนายบอลได้ขอว่า ขอยืนยันคำให้การเดิมทุกประการ และได้กระทำผิดจริงตามที่ให้การกับพนักงานสอบสวน พร้อมได้นำชี้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้ว เพื่อประโยชน์ของการสอบสวน ใช้ในการพิจารณาของศาล เพื่อประโยชน์ในการบรรเทาโทษ จึงขอให้อย่ามาถามในเรื่องต่างๆเหล่านี้อีก ขอให้ผู้ที่หาประโยชน์กับเขาอย่าไปรบกวนเขาอีก อยู่ในนั้นเขาจะได้กลับตัวกลับใจสำนึกผิด และหากมีโอกาสได้ลดหย่อนบ้างก็อาจจะได้กลับมาเป็นพลเมืองดี เพราะฉะนั้นก็ขอร้องว่า ใครก็ตามอย่าไปหาประโยชน์จากเขาอีกเลย เขาได้ขอร้องมามีการเซ็นชื่อต่างๆไว้เรียบร้อย ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เรือนจำ

เมื่อถามว่าจะสรุปสำนวนภายในสัปดาห์นี้จะเสร็จวันใด พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ทางผบช.น.ก็เร่งรัด ให้สรุปให้ได้ในสัปดาห์นี้ การสอบสวนจะเรื่อยเปื่อยไม่ได้ เพราะต้องมีระยะเวลาการฝากขัง ขณะนี้ฝากขังครั้งที่ 6 แล้ว และเราต้องสรุปส่งอัยการ อย่างไรก็ดี ระหว่างนี้หากพบมีพยาน หลักฐานเพิ่มเติม ก่อนมีคำพิพากษาก็เพิ่มเติมได้

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า สรุปว่าถึงส่งสำนวนไปแล้ว หากมีหลักฐานเพิ่มเติมมา ก็จะสอบทุกประเด็นและเพิ่มเติมได้ ไม่ใช้ว่าสรุปสำนวนแล้วส่งไม่ได้ เพราะฉะนั้นอยากให้มาให้การ หากมีหลักฐาน

เมื่อถามว่ายืนยันว่าไม่ได้รับหนังสือของกรรมการสิทธิฯ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ไม่มี ทราบจากทางหนังสือพิมพ์ ที่ผ่านมาตนก็ได้ให้รายละเอียดไปแล้ว ว่าพร้อมรับพยาน หลักฐานต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน เราพร้อมตลอดเวลา เรื่องนี้ก็อยู่ที่ความตั้งใจว่าจะร่วมมือกับเราหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราทำไปตามระบบที่ทำงานกันมา รวบรวมหลักฐาน เพื่อนำคนผิดได้รับโทษ ตนไม่อยากเป็นประเด็นไปตามที่ชักนำกันไป มันไม่เกี่ยวกับพนักงานสอบสวน เราว่าไปตามกฎหมาย ว่าไปตามระเบียบ ว่าไปตามพยานหลักฐาน ที่พูดกันมา เป็นประเด็นที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ขอให้ตำรวจได้ทำหน้าที่ไปตามกระบวนการยุติธรรม เดี๋ยวจะมีอัยการ มีศาลมาร่วมพิสูจน์อีก เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งไปพิพากษาตอนนี้เลย

เมื่อถามว่านายสุวัตร ไม่ได้เป็นทนายความนายเอกยุทธแล้ว เพราะยุติบทบาทแล้ว แต่กลับมาพูดว่านายบอลกลับคำให้การ จะเป็นการโยงเรื่องการเมือง หรือดิสเครดิตเจ้าหน้าที่หรือไม่ หรือมีเหตุผลอื่นแฝงหรือไม่ จึงออกมาพูด พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า คงต้องไปถามนายสุวัตร เมื่อตั้งข้อสังเกตมา มีความคลางแคลงสงสัย ทาง ผบช.น.ก็สั่งการให้ทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนเหตุผลที่จะพูดอย่างไร ก็ต้องไปถามคนที่พูด

เมื่อถามว่าเมื่อตรวจสอบความจริงจนขณะนี้ จะมีการพูดคุยกับนายสุวัตรหรือไม่ที่ออกมาพูด พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ไม่ครับ เพราะทางนายสุวัตร จะพูดอย่างไรก็เป็นเรื่องของท่าน เพิ่งทราบจากสื่อมวลชนว่าไม่ยุ่งเกี่ยวถอนตัวจากคดีนี้แล้ว เพราะฉะนั้นคงไม่ติดต่อไป แต่เมื่อออกตามสื่อ ก็ให้ไปสอบปากคำนายบอลใหม่ และนายบอลก็ยืนยันเช่นเดิม เพราะหลักฐานมันชัดเจน ไม่จำเป็นต้องประสานให้นายสุวัตรทราบ ก็ทำสำนวนไป

เมื่อถามว่านายสุวัตรบอกว่ามีคนโทรศัพท์มาข่มขู่ ได้ขอกำลังตำรวจดุแลหรือประสานมาหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ไม่มีเลย ไม่ได้ประสานมา แต่นายสุวัตร เคยโทรศัพท์มาหาเมื่ออาทิตย์กว่าๆ ว่าถอนตัวจากคดีนี้แล้ว ก็ไม่ได้คุยเรื่องอื่น

ที่มา : ข่าวสด /วอยซ์ทีวี
[Continue reading...]

กรรมการสิทธิ์ 99 ศพ ม็อบผิด - เอกยุทธ รัฐผิด ตำรวจทำคดีไม่ถูกต้อง

- 0 comments

วงค์ ตาวัน :ข่าวสด
เข้า ใจว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คงกลัวประชาชนจะมองไม่เห็นธาตุแท้ของคณะตนเองอย่างถึงแก่นดีพอ หลังจากการสรุปเหตุการณ์ 99 ศพจนผู้คนตะลึงไปทั้งเมือง ล่าสุดเลยแถลงผลการตรวจสอบคดีเอกยุทธ อัญชันบุตร ออกมาอีกคดี

99 ศพ เหตุเกิดในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ปรากฏว่า ม็อบผิดทุกเรื่อง

มาในคดีเอกยุทธ เหตุเกิดในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ฝ่ายรัฐผิดไปหมด ตำรวจทำคดีไม่ถูกต้อง

เสมือนนายเอกยุทธประดุจฮีโร่ของกรรมการสิทธิ์ จึงไม่ควรตายเพราะคนขับรถ ต้องมีเบื้องหลังใหญ่โตกว่า 

ต้องเป็นฝีมือของนักฆ่าผู้เชี่ยวชาญ จะตายเพราะเด็กหนุ่มจากพัทลุงไม่ได้เป็นอันขาด

หมอนิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ออกหน้าในคดีนี้เอง ร่วมกับหมอพรทิพย์ ผมหลากสี

เต็มไปด้วยข้อสังเกตหยุมหยิม แล้วเอามาขยายใส่จินตนาการเข้าไป!

ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะทุกสังคม ย่อมมีคนช่างคิดสติเฟื่องในทุกๆ เรื่อง

แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นคดีความต้องส่งขึ้นศาลก็น่าปวดหัวอยู่ไม่น้อย

ประเด็น มีอยู่นิดเดียวคือ คดีนี้มีการฆ่าคนตาย มีการจับกุมคนขับรถที่อยู่กับคนตายก่อนเกิดเหตุได้ และให้การรับสารภาพ จากนั้นซัดทอดผู้ร่วมก่อเหตุ นำชี้จุดทิ้งศพได้ชัด ขุดพบ คำให้การส่วนใหญ่ก็ตรงกับความเป็นจริง

จะให้ตำรวจไปทำอะไรได้มากกว่านี้ พยายามหาด้วยซ้ำแล้วก็ได้เท่านี้

จู่ๆ มีคนลุกขึ้นมาตะโกนว่า พวกนี้ไม่ได้ฆ่า ต้องไปจับคนอื่นมาให้ได้ 

กรุณาอย่าพูดลอยๆ ต้องไปหาอะไรมารองรับด้วย

กรุณาอย่าดีแต่พูด โดยไม่รับผิดชอบ

ข้อโต้แย้งที่หยิบมาแถลงนั้น นักเขียนนวนิยาย เขียนได้สนุกกว่าที่หมอนิรันดร์ควงหมอพรทิพย์มาพูดเสียอีก

สำคัญสุด ไอ้นักฆ่าผู้เชี่ยวชาญนั้น ต้องมีหลักฐานรองรับ ต้องมีเบาะแสอะไรมาสักหน่อย

จนป่านนี้ คนรู้เรื่องไปทั้งเมือง

แต่ยังไม่มีเบาะแสอื่นโผล่ออกมาอีกเลย

มีแต่กลุ่มเดียวตะโกนโหวกเหวกไม่เลิก

เอาง่ายๆ ในสายตากรรมการสิทธิ์ รัฐบาลอภิสิทธิ์ถูกไปหมด

แต่รัฐบาลนี้ผิดไปหมด คดีนายเอกยุทธต่อให้ได้ ผู้ต้องหา รับสารภาพและพยานหลักฐานเพียบ ก็ยังไม่ถูกต้องอีก

เสร็จจากนี้ อย่าลืมรีบไปตรวจสอบการละเมิดสิทธิ์ม็อบสวนลุมฯอย่างรุนแรง เป็นผลงานชิ้นต่อไป!
 
[Continue reading...]

163 ส.ส.ปชป.ตบเท้ายื่นแปรญัตติขวางนิรโทษ

- 0 comments
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่รัฐสภา นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า วันเดียวกันนี้ ส.ส.ของพรรคทุกคนจำนวน 163 คน ได้ยื่นคำแปรญัตต่อคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อแสดงจุดยืนว่าพรรคจะคัดค้านกฎหมายฉบับนี้อย่างเข้มข้น จะชี้ให้เห็นถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของการนิรโทษกรรม ที่ผ่านมาหลายองค์กรทั้งในและต่างประเทศ ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม แต่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กลับออกมาบอกหลังการพบกับผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน ว่า องค์กรดังกล่าวไม่คัดค้านการนิรโทษกรรมให้ประชาชน แต่คัดค้านการนิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้สั่งการ ทำให้สังคมเข้าใจว่าองค์กรดังกล่าวเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะก่อนหน้านี้องค์กรดังกล่าวออกแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ จึงไม่อยากให้นายสุรพงษ์ บิดเบือน เพราะจะสร้างความเสียหายให้กับเกียรติภูมิของประเทศได้

ทั้งนี้ในวันที่ 15 ส.ค.56 พรรคจะส่งจดหมายเปิดผนึกถึงหน่วยงานต่างๆทั้งภาคเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ สื่อมวชนต่างประเทศ รวมถึงบุคคลที่รัฐบาลจะเชิญมาร่วมเวทีเสวนาปฏิรูปประเทศไทย เพื่อให้รับรู้ว่าพรรคได้ต่อสู้เรื่องการนิรโทษกรรม แต่ไม่ได้ขัดขวางการปรองดอง

ที่มา : เดลินิวส์

นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่รัฐบาลจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยโดยเชิญผู้นำจากต่างประเทศเข้าร่วมนั้น เชื่อว่าจะไม่ได้ผล เพราะไม่มีความจำเป็นต้องเชิญมา เนื่องจากไม่มีใครรู้รากเหง้าของปัญหาได้ดีกว่าคนในประเทศ ทั้งนี้พรรคเห็นว่าการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปโครงสร้างของประเทศ เป็นเรื่องที่ควรทำแต่การที่รัฐบาลเชิญผู้ที่เห็นด้วยกับรัฐบาล หรือผู้ที่เคยมีตำแหน่งในรัฐบาลเข้าร่วมเพียงฝ่ายเดียวจะไม่ใช่ความหวังของประเทศ แต่เป็นเพียงละครที่กลบเกลื่อนการนิรโทษกรรม เป็นตุ๊กตาหลอกในการปรับโครงสร้างตามความต้องการของตนเอง ปรับองค์กรอิสระไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามของรัฐบาล หากรัฐบาลจริงใจควรจะนำผลการศึกษาของ คอป.มาใช้

นอกจากนี้รัฐบาลยังมีพฤติกรรมปิดโอกาสประชาชน ดูได้จากการจัดงบประมาณปี 57 ที่มีการเขียนในยุทธศาสตร์แผนงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่จะตั้งธนาคารที่ดินเพื่อกระจายการถือครองที่ดินให้ประชาชนอย่างเป็นธรรม แต่ปรากฎว่าคณะกรรมาธิการฯได้ตัดงบประมาณที่ธนาคารที่ดินขอมาทั้งหมด17.6 ล้านบาท ซึ่งล้วนแต่เป็นงบจ่ายเงินเดือนให้เจ้าหน้าที่ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเขียนไว้ในยุทธศาสตร์ในงบประมาณด้วย ถือเป็นการสร้างกฎหมายให้คนมีอำนาจได้เปรียบ ให้คนรวยยิ่งรวยยิ่งขึ้น.
[Continue reading...]

ปชป. ”หาข้ออ้าง” ร่วมประท้วงกับม็อบสวนยาง

- 0 comments
50 ส.ส.ปชป. ชักธงรบประกาศร่วมขบวนชาวสวนยางบุกศาลากลางจังหวัด 19 ส.ค.นี้ ประท้วงรัฐบาลเมินแก้ราคาตก ทำจนทั้งแผ่นดิน ลั่น แพ้แนวรบในสภาจึงต้องสู้นอกกรอบ “อาคม” ซัด ยางเกลื่อนประเทศแต่ผู้บริหารไร้ยางอาย งง “ปู” บินรอบโลกแต่ไม่เจรจาขายยาง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่รัฐสภา 10 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ นายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช รมว.เกษตรและสหกรณ์เงา นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงข่าวประกาศจุดยืนของส.ส.กว่า 50 คนในพื้นที่ปลูกยางพารา ว่า จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และจะมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ

นายถาวร กล่าวว่า ที่ผ่านมาส.ส.และกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราได้ยื่นหนังสือให้รัฐบาลแก้ปัญหายางพาราตกต่ำ โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในสมัยที่เป็นรมช.เกษตรฯ ประกาศว่าจะทำให้ราคายางพาราอยู่ที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม แต่วันนี้ราคากลับตกมาเกือบ 1 เท่าตัว คือ อยู่ที่ 71-72 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แต่รัฐบาลยังเพิกเฉย ดังนั้นเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารา จะนัดหารือกันเพื่อกำหนดท่าทีในการยกระดับการเรียกร้องที่โรงแรมรอยัล ซิตี้ ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยผลสรุปออกมาอย่างไร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมร่วมต่อสู้ โดยทราบมาว่ากลุ่มเกษตรกรจะรวมตัวกันไปที่ศาลกลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาในวันที่ 19 ส.ค.นี้

ขณะที่ นายวิทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาพวกตนพยายามต่อสู้ในระบบรัฐสภาด้วยการตั้งกระทู้ถาม เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉยถือว่าเราแพ้ในสภาแล้ว จึงไม่อาจใช้แนวทางการต่อสู้แบบปกติกับรัฐบาลนี้ได้ ดังนั้ นส.ส.50 กว่าคน ขอประกาศว่าจะไม่อยู่เบื้องหลังการชุมนุม แต่จะเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มเกษตรกรที่ศาลากลางจังหวัด หากจะเคลื่อนไปที่ทำเนียบรัฐบาลก็จะไปด้วย และหากจะยกระดับเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับมติของเกษตรกร และพร้อมร่วมขบวน ขอรัฐบาลอย่าใช้กำลังในการสลายการชุมนุม ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะประเทศนี้ไม่มีนายกฯ เนื่องจากประชาชนรู้สึกว่านายกฯไม่แก้ปัญหา

ด้าน นายอาคม กล่าวว่า ปัญหาราคายางพาราตกต่ำไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะของภาคใต้ เพราะขณะนี้มีการกระจายปลูกยางพาราไปถึง 60 จังหวัดทั่วประเทศ ประเทศไทยมียางมากแต่ผู้บริหารประเทศกลับไม่มียางอาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปทั่วโลก 37 ประเทศ แต่ไม่คุยเรื่องการขายยางพาราให้กับต่างประเทศ จึงอยากเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหา
ดังนี้ 1.คณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ ควรประกาศว่าจะไม่ขายยางพาราในสต๊อกที่รัฐบาลแทรกแซงรับซื้อมา 2.1 แสนตัน เพื่อส่งสัญญาณในการลดจำนวนยางพาราในตลาดลง เพื่อให้ตลาดเป็นของเกษตรกรไม่ใช่ของประเทศผู้รับซื้อ 2.นำยางพารา 2.1 แสนตัด มาแปรรูป เช่น ผสมกับยางมะตอยมาราดถนน 3.เจรจากับบริษัทร่วมทุนยางที่มีสมาชิกเป็นผู้ผลิตยางพารา 3 ประเทศ ว่าอย่าขายยางพาราตัดราคากัน และต้องขายไม่ต่ำกว่า 120 บาทต่อกิโลกรัม
             
“รัฐบาลต้องเลิกยางอายอย่าคิดว่าเป็นข้อเสนอของฝ่ายค้านแล้วจะไม่รับไปดำเนินการ เพราะวันนี้เราจนกันหมดทั้งแผ่นดินแล้ว ขณะนี้เรามียางในสต๊อก 8 แสนกว่าตัน หากเก็บไว้นานจะเสื่อมสภาพ ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานคงเกิดปรากฏการณ์ไฟไห้มโรงเก็บยาง เพื่อทำลายหลักฐานการบริหารที่ล้มเหลว” นายอาคม กล่าว.

ที่มา :เดลินิวส์
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger