Wednesday, July 24, 2013

เมื่อศาลปกครองกลางใช้ “หลักการป้องกันล่วงหน้า” พิพากษา ให้รัฐนำ “แผนน้ำ" ใช้เงินกู้ 3.5 แสนล้าน กลับไปรับฟังความเห็นจาก ปชช.

- 0 comments
จากคำสั่ง ศาลปกครองฯ ให้รัฐ  นำ “แผนน้ำ" ใช้เงินกู้ 3.5 แสนล้าน กลับไปรับฟังความเห็นจาก ปชช. โดยการยื่น ฟ้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดความสงสัยจากประชาชน ถ้ากรณี "น้ำท่วม" อีกจะทำอย่างไร

แม้ว่าโครงการ บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ของรัฐบาล ยังไม่ได้เริ่ม เพียงอยู่ในขั้นการดำเนินการจัดหาผู้ที่จะรับเหมาทำโครงการ แต่ศาลปกครองใช้  "หลักการป้องกันล่วงหน้า" ในการพิจารณาคดี ซึ่ง มีคำถามว่า "ศาลปกครอง" ทราบได้อย่างไร ว่า "การดำเนินการของรัฐบาล จะก่อนิติสัมพันธ์จนสร้างความเสียหายต่อประเทศในอนาคตอันใกล้ "

โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านของรัฐบาล ก็เป็นการ "ป้องกันล่วงหน้า" ที่จะเกิดขึ้นจริง จะเห็นได้จากความเสียหายของน้ำท่วม ปี 54 นั้นประเมินมิได้

และถ้าหาก "น้ำ" เกิดท่วมอีก เมื่อ "ศาล" สามารถใช้ "หลักการป้องกันล่วงหน้า" ศาลจะป้องกันน้ำท่วมอย่างไร

ตั้งแต่ต้นเดือน กรกฎาคม จนถึง วันที่ 23 กรกฎาคม 2556  มีฝนตก และเกิดน้ำท่วม หลายจังหวัด นี่ขนาด เบาะ ๆ

ถ้าหาก เจอ มรสุมขนาดใหญ่ ซึ่งประเทศไทยอยู่ในร่องมรสุม มีฝนตกทั่วไปจนไม่สามารถ ระบายน้ำได้ "ศาล" จะมีวิธีการป้องกันอย่างไร จะสั่งให้ "ฝนหยุดตก น้ำหยุดท่วม" ได้มั๊ย

ความเสียหายที่ทางศาลคาดคะเนย์ ล่วงหน้าว่าจะเกิด จากโครงการนี้ ตามพรรคฝ่ายค้านออกมาบอกว่าจะมีการโกงกินกันอย่างมโหฬาร จนสมาคมสภาวะโลกร้อนออกมาต้าน "เพราะกลัวโลกจะร้อน" เลยอยากให้น้ำท่วม  กับความเสียหาย "ถ้าน้ำท่วม" อย่างปี 54 อย่างไรมากกว่ากัน

การทุจริต สามารถป้องกันได้ แต่"น้ำท่วม" จะป้องกันอย่างไร เพราะภาวะการณ์จากอดีตถึงปัจจุบัน "ไม่สามารถ" ป้องกันน้ำท่วมได้

หรือจะให้ "น้ำท่วม" อีกครั้งจึงจะพอใจ
[Continue reading...]

DSI เผย"พีซีซีฯ"ปลอมลายเซ็นนายตำรวจ 1,500 รายทั่วประเทศ เบิกเงินจากธนาคาร

- 0 comments
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่กรมสอบสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ถวัล มั่งคัง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงินธนาคารออมสินของ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นต์ แอนด์ คอนตรัคชั่น จำกัด โดยการปลอมแปลงเอกสารการตรวจการจ้างการสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ว่า เบื้องต้นพบว่ามีนายตำรวจระดับนายพลตำรวจ และผู้กำกับ ถูกปลอมลายเซ็นประมาณ 1,500 นาย จากทั่วประเทศ มีการปลอมเอกสารกว่า 2,800 ครั้ง 

ดีเอสไอลงพื้นที่สอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วกว่า 200 ปาก ทั้งหมดได้แจ้งความร้องทุกข์เป็นผู้เสียหาย เนื่องจากถูกปลอมลายเซ็นในเอกสารราชการ ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงเป็นความผิดตามประมวกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 266 และ 341 มีอัตราโทษขั้นสูง จำคุกตั้งแต่ 1 ปี 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000

โดยการกระทำผิดครั้งนี้เป็นความผิดต่างวัน ต่างเวลา ต่างสถานที่เกิดเหตุ และต่างผู้เสียหายกัน การปลอมลายมือชื่อเจ้าพนักงานตำรวจได้นำเอกสารปลอมไปใช้อ้างในแต่ละงวดงาน โดยผู้กระทำมีเจตนาทำเอกสารที่ปลอมขึ้นไปหลอกลวงแก่ธนาคารเป็นรายฉบับ เป็นความผิดแยกออกจากกัน จึงเป็นความผิดสำเร็จในตัวต่างกรรมต่างวาระกัน  ผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษทุกๆ กรรม เป็นรายกระทงความผิดไป รวมทั้งสิ้น 2,800 กระทง
[Continue reading...]

ปชป. ฟันธง 7 ส.ค. เปิดประชุมสภาไม่ได้ เหตุเจอม็อบต้าน ปิดล้อม หวั่นปะทะแรง

- 0 comments
ปชป. ฟันธง 7 ส.ค. เปิดประชุมสภา ไม่ได้ เหตุเจอม็อบต้าน ปิดล้อม หวั่นปะทะแรง “เฉลิมชัย” เขย่าขวัญ รัฐบาล เชื่อ คนไทยฮือต้านอื้อ ลั่น กรอบส.ส.ปิดกั้นร่วมแสดงออกไม่ได้ ไล่ถอนร่างนิรโทษฯ ออกจากสภา เผยกล่อม “อลงกรณ์” เข้าใจจุดยืน ปชป. ด้าน กก.บห.ปชป. นัดประชุมด่วน ถกปม “จ้อน” ชงร่างนิรโทษฯ เจ้าตัว เผยพร้อมฟังมติพรรค

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคกลาง เตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ที่ประชุมส.ส.พรรคพิจารณา ในวันที่ 31 ก.ค.ว่า ในวันที่ 25 ส.ค.จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เวลา 13.30 น. เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ตนได้หารือกับนายอลงกรณ์ แล้ว และได้แจ้งจุดยืนของพรรคว่า รัฐบาลจะต้องถอนร่างที่เกี่ยวข้องออกจากวาระการประชุมสภา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และต้องไม่ฟังคำสั่งของใคร ซึ่งนายอลงกรณ์ ก็รับฟัง และเชื่อว่า มีวินัยพอที่จะไม่ขัดมติพรรค แต่สิ่งที่นายอลงกรณ์ นำเสนอเป็นแนวคิดที่ต้องการเปิดให้สังคมได้รับรู้เท่านั้น
ส่วนที่วิปรัฐบาลมีมติให้สภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 7 ส.ค. นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่าไม่เห็นด้วย เพราะจะพาประเทศไปสู่วิกฤติ รัฐบาลทำตัวเหมือนเผด็จการ ไม่จริงใจในการแก้ปัญหา และเหิมเกริมในอำนาจ เชื่อว่าจะมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้าน จึงอยากเตือนไปยังรัฐบาลว่า จะมีคนออกมาต่อต้านมากกว่าที่เคยเห็น เพราะแรงดูถูกประชาชนของรัฐบาลเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเขาออกมา โดยรัฐบาลเป็นคนทำเอง และอย่ามาปฏิเสธความรับผิดชอบหรือโยนบาปให้คนอื่น ซึ่งคนไทยทุกคนมีสิทธิยับยั้ง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินหน้าคัดค้านตามกรอบ แต่ถ้าไม่สามารถยับยั้งได้ ส.ส.ก็เป็นคนไทย ที่สามารถออกมายับยั้งความเสียหายของประเทศได้ จึงขออย่าใช้กรอบของส.ส.มากีดกันการแสดงออก
ด้านนายอลงกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ร่างกฎหมายใกล้เสร็จแล้ว เหลือเพียงแก้ไขในรายละเอียดเล็กน้อย ซึ่งในการประชุมกรรมการบริหารพรรค ตนจะชี้แจงในรายละเอียดว่า ร่างของตนน่าจะเป็นประโยชน์ในการคลี่คลายปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็จะรับฟังมติพรรค ส่วนจะมีการใช้เอกสิทธิ์ส.ส.รวบรวมรายชื่อส.ส.เสนอร่างเองหรือไม่นั้น ตนคิดว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ตลอด โดยตนเห็นด้วยกับแนวทางของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอให้รัฐบาลถอนร่างที่เกี่ยวข้องออกไปแล้วตั้งโต๊ะเจรจา หาทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับ ดังนั้นรัฐบาลควรรับฟังและร่วมกันปลดชนวนวิกฤติทางการเมือง
ส่วนที่วิปรัฐบาลมีมติให้สภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 7 ส.ค.นั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า น่าวิตก เพราะจะมีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้าน เนื่องจากไม่มีความไว้วางใจในตัวรัฐบาล ตนอยากเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยเสนอร่างของพรรคอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสอดแทรก ประเด็นที่เป็นปมขัดแย้งเข้ามา อย่างไรก็ตามตนเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา จะต่อสู้ในสภา เพื่อเสนอทางออกที่ดีกว่า จะแพ้หรือชนะก็ต้องสู้ เพราะร่างที่มีอยู่ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ส่วนที่ใครจะมองว่า ตนรับงานใครมานั้น ก็แล้วแต่จะมอง แต่ตนวิเคราะห์ไว้แล้วว่า ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์หรือใครจะเสนอร่างนิรโทษกรรมขึ้นมารัฐบาลก็ไม่สนใจ จะเดินหน้าผลักดันร่างของนายวรชัย อยู่แล้ว
แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่า ในการประชุมสภา วันที่ 7 ส.ค. จะไม่สามารถเปิดประชุมสภาได้ เพราะเชื่อว่า จะมีมวลชนที่คัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกมาชุมนุมปิดล้อมทางเข้าออกรัฐสภา เพื่อไม่ให้ส.ส.เข้าประชุมสภาได้ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่า จะเกิดการปะทะกันกับกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาลที่มาจองพื้นที่ชุมนุมอยู่หน้าสภา ตั้งแต่วันที่เปิดประชุมสภา แล้ว.

ที่มา : เดลินิวส์
[Continue reading...]

มั่นใจข้าวสารไทย ซื้อกินได้ซื้อขายก็ดี

- 0 comments
 
ถามกันตรงๆ...พุ่งเป้าไปที่ประเด็น ผลการตรวจ

วิเคราะห์ข้าวสารบรรจุถุงและข้าวสารบรรจุกระสอบกับเจ้ากระทรวงกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ ได้รับคำตอบว่า  ผลการตรวจวิเคราะห์ข้าวสารบรรจุถุง และข้าวสารบรรจุกระสอบแล้วชั่งแบ่งขาย ที่กระทรวงสุ่มเก็บตัวอย่างฯ จากร้านค้าปลีกและซุปเปอร์มาร์เกต ในเขต กทม. และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2556 ได้ผลการตรวจวิเคราะห์ 164 ตัวอย่าง ยังไม่พบสารที่ทำให้เกิดมะเร็ง ความชื้น หรือเชื้อราต่างๆ

มีตัวอย่างเดียว ที่ตรวจพบว่า...มีสารโบรไมด์อิออน ซึ่งมาจากการสลายตัวของสารเมทิลโบรไมด์...ตกค้างสูงเกินมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศหรือโคเด็กซ์ ซึ่งอยู่ที่ 94.2 พีพีเอ็ม ส่วนข้าวที่เหลืออีก 25 ตัวอย่างยังอยู่ระหว่างการรอผล ผู้บริโภคตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th

การตรวจข้าวบรรจุถุงข้าวขาวพิมพา ตรา โคโค่ ในรุ่น “วันที่ผลิต 11/04/56” ที่มีการตรวจพบสารโบรไมด์อิออน 94.2 พีพีเอ็ม ซึ่งถือว่าเกินมาตรฐาน จะดำเนินการต่ออย่างไรบ้าง เพื่อความมั่นใจผู้บริโภค?

กรณีข้าวสารที่มูลนิธิชีววิถีเพื่อผู้บริโภคและศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ ตรวจพบว่ามีสารเมทิลโบรไมด์ ตกค้างสูงเกินมาตรฐานของโคเด็กซ์ ตอนนี้กระทรวงฯได้สั่ง อย.ให้ระงับการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงที่ตรวจพบสารโบรไมด์อิออนตกค้างเกินค่ามาตรฐานอาหารระหว่างประเทศชั่วคราว

“การดำเนินงานจะให้บริษัทเก็บคืนข้าวจากท้องตลาด พร้อมเก็บตัวอย่างตรวจยืนยันซ้ำอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและให้ความมั่นใจแก่ผู้บริโภค”

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือภาคประชาชน แจ้งกระทรวงสาธารณสุข หากพบข้าวสารที่สงสัยว่าไม่ปลอดภัย เพื่อร่วมกันเก็บตัวอย่างตรวจตามขั้นตอนมาตรฐาน ให้ผลตรวจเป็นที่ยอมรับ ลดความสับสนแก่ประชาชน และไม่มีการปิดบังข้อมูลผลการตรวจ

นพ. ประดิษฐ
นพ. ประดิษฐ
นายแพทย์ประดิษฐ ย้ำว่า มาตรการระยะสั้นในช่วงนี้ จะสุ่มตรวจตัวอย่างทั้งแหล่งผลิต แหล่งที่เก็บ โกดัง สถานที่จำหน่ายต่างๆที่กระจายทั่วประเทศ ภูมิภาค นำมาตรวจคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความอุ่นใจ เพื่อความโปร่งใส ความสบายใจของทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้

ใครที่ยังมีข้อสงสัยว่า “ข้าวสาร” อาจไม่ปลอดภัย ขอให้แจ้งกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้าไปตรวจสอบเก็บตัวอย่างข้าวพร้อมกัน และส่งตรวจโดยภาคราชการ เพื่อความน่าเชื่อถือ

สิ่งที่ต้องเน้นย้ำ...นโยบายรัฐบาลชัดเจนว่ายึดสุขภาพประชาชนเป็นหลัก จะไม่มีการปิดบังข้อมูลใดๆ ซึ่งการตรวจสารบางชนิด เช่น เมทิลโบรไมด์ หรือฟอสฟีน มีอยู่ที่เดียวคือห้องปฏิบัติการมาตรฐานของเอกชน

อีกประเด็นสำคัญ มาตรการทางกฎหมาย...กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการให้สำเร็จภายในปีนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น โดยบังคับใช้กฎหมายเร่งให้ผู้ประกอบการข้าวสารบรรจุถุงทุกราย ปรับกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานจีเอ็มพีภายในปีนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ประกอบการ

คาดว่า 1 มกราคม 2557 จะดำเนินการได้ทั้งหมด

หลักใหญ่ๆในการกำกับดูแลสถานที่ผลิต กำหนดให้สถานที่ผลิตข้าวสารที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายต้องมี อย. ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2555 สำหรับผู้ประกอบการรายเก่ามีผลบังคับใช้ 7 พ.ย. 2558

มาตรการทั้งหมดเหล่านี้ก็เพื่อยกระดับข้าวสารบรรจุถุงสำเร็จที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ให้เป็นสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ กรณีพบการฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ตามมาตรา 26 (1) ผู้ฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับสถานที่ผลิตข้าวบรรจุถุงดังกล่าวจะถูกสั่งให้งดผลิต และผลิตภัณฑ์จะเรียกคืนเพื่ออายัดไว้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายหรือดำเนินการทำลายต่อไป

นพ. บุญชัย
นพ. บุญชัย
นายแพทย์บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เสริมว่า ที่ผ่านมาข่าวเรื่องข้าวสร้างความเสียหายมาก...จากการส่งต่อข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย และจากทางสื่อหนังสือพิมพ์

ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่ารัฐบาลปล่อยข้าวในโครงการรับจำนำข้าว โดยอัดฉีดยากันรากันมอด ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แล้วขายให้ผู้ค้าข้าวรายใหญ่ของประเทศหลายแห่ง เพื่อนำมาทำข้าวบรรจุถุงขาย สารเคมีที่ใช้ในการรักษาข้าวสารที่อยู่ในโกดังเก็บข้าวเป็นสารฆ่าแมลงชนิดรม (Fumigant) มี 2 ชนิด คือ Methyl Bromide และ Phosphine (Hydrogen phosphide)

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้สารรม เป็นวิธีการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูผลิตผลเกษตรที่มีประสิทธิภาพและนิยมมากวิธีหนึ่ง สามารถป้องกันกำจัดแมลงศัตรูได้ทุกชนิด และทุกระยะการเจริญเติบโต นับรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เป็นศัตรู ได้แก่ นก หนู ไร เชื้อรา โดยไม่มีพิษตกค้างเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้สารฆ่าแมลง

ประเทศไทยมีการใช้สารรมนานกว่า 40 ปี สารรมที่นำมาใช้มีอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่นิยมอย่างกว้างขวาง คือ สารรมเมทิลโบรไมด์ (methyl bromide) และฟอสฟีน (phosphine)

การรมผลิตผลเกษตร เช่น ข้าว ผู้รมต้องผ่านการอบรมเพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการรม ได้แก่ คุณสมบัติของสารที่ใช้รม ชนิดของผลิตผลเกษตร ชนิดของแมลงศัตรู ระยะเวลาในการสลายตัว สถานที่ซึ่งจะดำเนินการรม ตลอดจนสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น

ข้อกังวลเรื่องสารเมทิลโบรไมด์ที่ใช้รมข้าวก่อนบรรจุถุง ซึ่งใช้ฆ่าแมลงและมอดมานานกว่า 40 ปีแล้ว จะมีการยกเลิกใช้ในปี 2558 ซึ่งสาเหตุที่ยกเลิกมาจากสารนี้ไปทำลายบรรยากาศชั้นโอโซน ไม่ได้เกิดจากปัญหาสุขภาพ แต่คนที่ทำงานจะมีความเสี่ยง...หากเข้าไปในห้องระหว่างกำลังรมข้าว

“ดังนั้น ผู้ที่จะรมข้าวต้องผ่านการอบรม แต่ที่ผ่านมายังไม่มีรายงานว่า ผู้บริโภคได้รับอันตรายมีพิษระยะเฉียบพลัน หรือมีพิษระยะยาวที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง จากข้าวสารที่มีสารรมตกค้าง”

คำถามมีว่า วันนี้เมื่อมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว...สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยามีมาตรการเพิ่มเติมในการควบคุมการใช้หรือปริมาณสารตกค้างของสารฆ่าแมลงชนิดรมในข้าวอย่างไร?

ประเด็นแรก...การกำกับดูแลสถานที่ผลิต ประเด็นที่สอง...การกำกับดูแลข้าวบรรจุถุง

ประเด็นที่สาม...การทบทวนปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องอาหารที่มีสารพิษตกค้าง โดยในการประชุมคณะกรรมการอาหาร ครั้งล่าสุด ได้พิจารณาเห็นชอบร่างประกาศเพื่อกำหนดค่าปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่ยอมให้พบได้ของสารรมในข้าวสารที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย ดังนี้  Methyl Bromide ในรูป Methyl Bromide...ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัม/กิโลกรัม, Bromide Ion ในรูป Bromide Ion...ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม, Phosphine ในรูป Hydrogen Phosphide...ไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม

อีกประเด็นที่ถามกันเข้ามามาก “ข้าว...ต้องขอ อย.หรือเปล่า?” คุณหมอบุญชัย บอกว่า สถานที่ผลิตต้องได้รับอนุญาตจาก อย. เมื่อได้แล้ว ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอเลขสารบบอาหารได้

เพื่อลดความวิตกกังวลแนะนำให้ซื้อข้าวที่มีฉลาก อย. และก่อนที่จะนำไปหุงให้นำข้าวมาซาวน้ำ 1-2 ครั้ง เมื่อหุงต้มความร้อนจะทำให้สารตกค้างระเหยออกไปตามธรรมชาติ สารรมจะระเหยไปไม่ต่ำกว่า 80%

ทั้งหมดนี้น่าจะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าข้าวสารไทย บริโภคได้...ปลอดภัยแน่นอน

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
[Continue reading...]

สาธิต "เบรก" อลงกรณ์ อย่าฝืนมติพรรค "ไม่ได้ขู่" ไม่เชื่อ ต้องจัดการ

- 0 comments
สาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง ปชป. สวน อลงกรณ์ ฝืนมติฯพรรค เสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษฯเข้าสภาฯ โดยอ้างว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้ ขู่ ไม่เชื่อ ต้องจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง ย้ำ จุดยืนรัฐต้องถอนร่างฯทุกฉบับออกจากสภาฯก่อน   

วันที่ 24 ก.ค. ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคกลาง เสนอแนวคิดที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของสภาว่า เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ที่สามารถนำเสนอได้ และมีเนื้อหา ตรงกับจุดยืนของพรรค แต่วิธีการที่จะเสนอนั้น ไม่ตรงกับมติพรรค ที่มีไปก่อนหน้านี้ ว่า ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะใช้ชื่อใดก็ตามที่ค้างในสภาอยู่นั้น รัฐบาลต้องถอนร่างทุกฉบับ ออกจากสภาก่อน จึงจะมีการพูดคุยว่า ควรจะร่างกฎหมายมีเนื้อหาอย่างไรเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับ ที่พรรคเคยแถลงไปแล้ว 

ทั้งนี้ หาก นายอลงกรณ์ จะมีการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ต้องทำตามธรรมเนียมพรรค คือ ต้องผ่านที่ประชุมส.ส. และคณะทำงานด้านกฎหมาย ที่มีนายวิรัตน์ กัลยาศิริ เป็นประธาน ซึ่งหากไม่ผ่านกระบวนการของพรรค แต่จะไปเสนอต่อประชุมสภา ในนามส่วนตัวไม่ได้ เพราะขัดมติพรรค 

แม้ว่า การเสนอกฎหมายจะเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า การเสนอกฎหมายจะอ้างว่า เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เนื่องจากส.ส.ทุกคนสังกัดพรรค และมติพรรคก็ชัดเจน มาแต่ต้นแล้ว และหากมีการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อมติพรรค ก็ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์
[Continue reading...]

ข้าวถุงพร้อมจ่าย "20ล้าน" หากกินแล้วตาย

- 0 comments
 
สมาคมข้าวถุงฯ ประกาศจ่าย 20 ล้านหากผู้บริโภคข้าวถุงยี่ห้อที่เป็นสมาชิกของสมาคมแล้วเสียชีวิตด้วยสารเมทิลโบรไมด์

นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคม ผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้จัดแคมเปญเรียกความเชื่อมั่นคนไทยที่มีต่อข้าวไทยคืนมา หากผู้บริโภคท่านใดรับประทานข้าวสารบรรจุถุงของบริษัทที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ แล้วเกิดเสียชีวิตด้วยสารเมทิลโบรไมด์ สมาคมฯ ยินดีจ่ายค่าชดเชยให้ 20 ล้านบาท ต่อคน กรณีพิสูจน์ได้ว่า เสียชีวิตเพราะสารเมทิลโบรไมด์อย่างเดียว ซึ่งแคมเปญนี้มีระยะเวลา 1 ปี ครอบคลุมสมาชิกสมาคมฯ 128 บริษัท รวมข้าวถุงกว่า 800 ยี่ห้อ คิดเป็น 95% ของยี่ห้อทั้งหมดที่วางจำหน่ายในตลาด ในจำนวนนี้รวมข้าวโค-โค่แล้ว 

สำหรับแนวทางสร้างความเชื่อมั่นอื่นที่เตรียมไว้คือ จะนำตัวอย่างข้าวของสมาชิกให้บริษัทชั้นนำที่มีห้องทดสอบ ห้องปฏิบัิติการระดับมาตรฐานสากล ได้แก่ SGS , OMIC, Cental lab โดยสมาคมจะออกค่าใช้จ่ายตัวอย่างแรกนำร่องโครงการ รวมทั้งสุ่มตรวจสารเมทิลโบรไมด์สม่ำเสมอ 3 เ้ดือนแรกจะตรวจสารตกค้างทุกเดือน พร้อมเผยแพร่ข้อมูลตรวจสอบทางเว็บไซต์สมาคมฯ www.thairicepackers.or.th กรณีพบผลตรวจไม่ผ่านเกณฑ์จะประสานงานบริษัทแก้ไข ชี้แจงปัญหาและแนวทางแก้ไข เพื่อยกระดับคุณภาพข้าวถุงที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ

นอกจากนี้ยินดีร่วมมือหน่วยงานภาครัฐทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นข้าวไทย เพราะจุดยืนสมาคมฯ คือ มุ่งแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่กระทบ ยอมรับว่าข่าวข้าวที่เกิดขึ้นกระทบความเชื่อมั่นคนในประเทศมาก ส่งผลต่อยอดขายข้าวในอนาคตแน่นอน จากที่ปกติคนไทยมีแนวโน้มบริโภคข้าวลดลงอยู่แล้ว แต่ยังเชื่อว่าครึ่งปีหลังจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นกลับมาได้ และทำให้ทำตามเป้าหมายยอดขายข้าวในประเทศทั้งปีได้เหมือนเดิมคือ เติบโต 5% จากปีที่แล้ว อยู่้ที่ 3 หมื่นล้านบาท

กรณีข้าวยี่ห้อโค-โค่ นั้นขอชื่นชมผู้ผลิตที่เรียกสินค้าคืนทันทีที่มีปัญหา เป็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งทราบมาว่า ทางโคโค่ ได้รับผลยืนยันการตรวจล่าสุด ว่า ข้าวที่ส่งไปตรวจสอบไม่มีสารตกค้างแล้ว หากส่งตรวจเพิ่มเติมอีกและไม่พบสารตกค้าง ก็น่าจะกลับมาขายได้ตามปกติ

ด้าน นายวัลลภ มานะธัญญา อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ในอดีตสมาชิกสมาคมฯ ใช้สารเมทิลโบรไมด์ มากว่า 50 ปี ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร และเมื่อรัฐขอให้เลิกใช้สารนี้มาระยะหนึ่ง สมาชิกก็เลิกนานแล้ว อยู่ดีๆ มีข่้าวปรากฎขึ้นเรื่องสารเมทิลโบรไมด์ จึงรู้สึกว่าเป็นการเปิดประเ้ด็นที่ไม่ยุติธรรมกับสมาชิกสมาคมฯ เพราะทุกรายต่างเน้นเรื่องมาตรฐาน และพร้อมยกระดับมาตรฐานให้ดีขึ้น หากรัฐออกมาตรฐานเพิ่่มเติมก็พร้อมปฏิบัติ หรือหากตรวจสอบแล้วมีปัญหาก็แจ้งให้แก้ไข ทุกบริษัทพร้อมแก้ไข เพราะไม่มีบริษัทใดอยากมีปัญหา หรืออยากทุบหม้อข้าวตัวเอง
ที่มา : โพสทูเดย์
[Continue reading...]

โกตี๋นำญาติแดงบุกสภาหนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษฉบับ "วรชัย" ชี้ร่าง "พะเยาว์" ทิ้งนักโทษแดงไว้เบื้องหลัง

- 0 comments

เมื่อเวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานีนำญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 10 เม.ย.และ 19 พ.ค.2553 กว่า 10 คนเข้ายื่นหนังสือต่อนายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ น.พ.เหวง โตจิราการ สส.บัญชีรายชื่อ และ น.พ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยเพื่อสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนักโทษการเมืองฉบับนายวรชัยที่จะเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของสภาวันที่ 7 ส.ค.นี้

ทั้งนี้เนื้อหาตามหนังสือระบุว่า นางพะเยาว์ อัคฮาด แกนนำกลุ่มญาติวีรชน 10 เม.ย. –พ.ค.53 ที่ยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนโดยอ้างว่าเป็นความเห็นของญาติวีรชนนั้น ขอยืนยันว่าทางญาติอีกกลุ่มไม่ได้ทราบเรื่องและไม่เคยปรึกษาหารือกัน ดังนั้นจึงขอย้ำจุดยืนขอสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัยเท่านั้น เพราะยืนยันว่าได้รับความช่วยเหลือดูแลเป็นอย่างดีจากรัฐบาลชุดนี้

อย่างไรก็ตามตามหนังสือสนับสนุนมีญาติผู้เสียชีวิต ลงนามสนับสนุนจำนวน 10 คน อาทิ นายบรรเจิด ฟุ้งกลิ่นจันทร์ นายกลิ่น และนางเพลิน เทียนยิ้ม นางนวล ฉายแม้น นางปรางทอง สุดสวาท เป็นต้น

ด้าน น.พ.เหวง กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้มีมติให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นวาระแรกแล้ว ขอยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนักโทษการเมืองฉบับนายวรชัยไม่มีเนื้อหาในมาตราใดที่ระบุว่านิรโทษให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ แต่เป็นการสื่อสารและเข้าใจผิดจากการให้สัมภาษณ์ของนายวรชัยก่อนหน้านี้

น.พ.เหวง กล่าวด้วยว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับญาติวีรชนของนางพะเยาว์ อัคฮาด ยังมีบางมาตราที่ระบุว่า ไม่นิรโทษให้ผู้ที่กระทำการวางเพลิงเผาทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ลักทรัพย์ อันเป็นของเอกชนนั้นอาจทำให้นักโทษเสื้อเเดงหลายคนไม่ได้รับสิทธินิรโทษ อาทิ นายสายชล แพบัว และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ ผู้ต้องหาที่ตกเป็นจำเลยคดีวางเพลิงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ลอาจไม่เข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรม เท่ากับเป็นการปล่อยนักโทษเสื้อแดงหลายคนไว้เบื้องหลัง ต่างจากร่างพ.ร.บ.ฉบับนายวรชัยที่นิรโทษความผิดอาญาของคดีการเมือง       

ที่มา :โพสทูเดย์

[Continue reading...]

กลุ่มญาติ "เมิน" มติเพื่อไทยหนุนร่างวรชัย เล็งขอเสียง สส.ชาติไทยพัฒนาหนุนร่างต่อ

- 0 comments
ภาพข่าว โพสทูเดย์
เมื่อเวลา 11.30 น.ที่บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในเหตุสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553  และนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดานายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ น้องเฌอ ผู้เสียชีวิตในเหตุสลายการชุมนุม พร้อมด้วยกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตกว่า 10 คน ได้เดินทางเข้ายื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อขอให้ สส.ลงชื่อสนับสนุนร่าง โดยมีนายศุภชัย ใจสมุทร สส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการ พรรคภูมิใจไทยมาเป็นตัวแทนรับหนังสือ

นางพะเยาว์ กล่าวว่า ทางกลุ่มญาติยังยืนยันเจตนารมณ์เดิม คือ ไม่ต้องการนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติการสลายการชุมนุม จึงต้องการขอเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านในการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้  ทั้งนี้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคที่มีส่วนได้ส่วนเสียในเนื้อหาตามร่าง พ.ร.บ.ทางกลุ่มญาติจึงต้องการเสียง สส.ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อให้เป็นร่างกฎหมายที่เป็นฉบับประชาชนมากที่สุด อย่างไรก็ตามพรรคร่วมถัดไป ทางกลุ่มญาติจะเดินทางไปยังพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อขอความสนับสนุนจากนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคให้สนับสนุนร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วย

นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กังวลต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีมติไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะทางกลุ่มญาติต้องการรายชื่อ สส.เพียง 20 คนเพื่อนำเสนอร่างเข้าสู่สภา โดยทางกลุ่มญาติยืนยันว่าจะเดินหน้าขอเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลเเละพรรคร่วมฝ่ายค้านตามเดิม อีกทั้งทางพรรคประชาธิปัตย์ยังมีจุดยืนนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้  โดยหากทางประชาธิปัตย์จะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยยึดร่างฉบับของกลุ่มญาติก็มีความยินดี เพราะร่างพ.ร.บ.ของฉบับญาติก็ร่างโดยยึดร่าง พ.ร.บ.ของนักวิชาการหลากหลายกลุ่มเช่นกัน  

อย่างไรก็ตามทางกลุ่มญาติขอยืนยันว่าเจตนารมณ์ของร่างกฎหมายต้องการช่วยเหลือนักโทษทุกสีเสื้อ รวมถึงร่างเนื้อหาโดยคำนึงถึงกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทั้งญาติผู้ชุมนุม ญาติเจ้าหน้าที่ทหาร รวมถึงญาติของข้าราชการที่เสียชีวิต เพื่อเป็นหลักประกันว่าในอนาคตจะไม่มีการเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมอีก

ด้านนายศุภชัย กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะถือเป็นการลดความขัดแย้งในสังคม และเห็นว่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ควรได้รับสิทธิในการนิรโทษกรรม  อย่างไรก็ตามจะเตรียมนำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ทางญาติผู้เสียชีวิตเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร และสส.พรรคในวันที่ 30 ก.ค.นี้     

[Continue reading...]

ปชป. "อัด" ตร.แจ้งความหน้ากากขาวเติมเชื้อไฟ

- 0 comments
 

ภาพข่าว โพสทูเดย์
ชวนนท์ชี้ตำรวจแจ้งความหน้ากากขาว เลือกปฏิบัติเติมเชื้อไฟ โวยเสื้อแดงตั้งหมู่บ้านในสวนสาธารณะกลับไม่ถูกดำเนินการ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6  (ผบก.น.6) ให้ตำรวจไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมหน้ากากขาว ที่เกิดเหตุกระทบกระทั่งกับตำรวจเมื่อวันที่21 ก.ค.  ที่ผ่านมาซึ่ง ตนเองยืนยันว่าใครทำผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมาย แต่สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำเป็นการบังคับใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐาน เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งความประชาชนฐานทำร้ายร่างกาย แต่ประชาชนถูกทำร้ายและมีการคุกคามในการจัดเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ กลับไม่เคยดำเนินการ ทำให้ประชาชนสงสัยในการทำหน้าที่ของตำรวจ

อย่างไรก็ตาม อยากให้พิจารณาให้ดีว่าสิ่งที่ทำเป็นการเติมฟืนในกองไฟหรือไม่ เพราะหากจะดำเนินการต้องทำในมาตรฐานเดียวกัน โดยต้องดำเนินคดีกับคนเสื้อแดงที่ข่มขู่ประชาชน ศาล ฝ่ายที่เห็นต่างจากรัฐบาลด้วย พร้อมกันนี้ยังตั้งคำถามถึงการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงที่วงเวียนบางเขนซึ่งตั้งอยู่ในสถานที่สาธารณะบริเวณวงเวียนหลักสี่ที่คนเสื้อแดงยึดอยู่ในขณะนี้กลับมีอภิสิทธิ์ไม่ถูกดำเนินการใด ๆ ไม่ต้องปฏิบัติภายใต้กฎหมายเหมือนคนอื่น แต่ผู้ชุมนุมหน้ากากขาวจะใช้ฟุตบาธถูกตำรวจขัดขวางจนเกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน จึงอยากถามว่าตำรวจได้ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมหรือไม่
[Continue reading...]

มติ พท. "ยืนยัน" เปิดสภาฯหนุนถกนิรโทษฯ "ฉบับวรชัย"

- 0 comments
พรรคเพื่อไทย ยืนยัน มติเดิม หนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรค พท. อ้างสภาฯ บรรจุแล้วเป็นวาระแรก ขณะวิปรัฐ ประชุมถกเครียด จ่อ เคาะกฎหมายเข้าสภาฯ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ก.ค. 56 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นำโดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคฯ และนายอุดมเดช รัตนเสถียร ที่ปรึกษาวิปรัฐบาล ร่วมแถลงข่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมติดตามสถานการณ์ทางการเมืองกรณีที่กลุ่มต่างๆออกมาแสดงความเห็น เรื่องการพิจารณากฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร รวมไปถึงการพิจารณาดูว่าร่างกฎหมายต่างๆ ที่ยังคงค้างในสภาฯ มีร่างฉบับใดบ้าง และมีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขความสับสน ขอชี้แจงว่าการจัดวาระการประชุมของสภานั้น ที่ประชุมสภาฯ ได้จัดวาระไว้เรียบร้อยก่อนหน้านี้แล้ว


นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ขอยืนยันตามมติเดิมที่เคยมีมติไว้ที่มีการเลื่อนวาระของ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นวาระแรก ซึ่งในร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนั้น มุ่งลดความขัดแย้งในสังคมไทยคลี่คลายตัวลง การนิรโทษกรรมและกฎหมายฉบับนี้ ให้ประชาชนทุกฝ่ายไม่ว่าสีไหน สีเสื้อใด โดยที่ไม่ได้มุ่งนิรโทษฯ เฉพาะแกนนำเท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้ความขัดแย้งคลี่คลาย ทุกอย่างจะดำเนินการตามวาระปกติที่สภาฯ ได้กำหนดไว้แล้ว ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่เคยสำรวจเอาไว้ ไม่ว่าผลโพล หรือการที่กระทรวงมหาดไทย จัดสานเสวนา

“การดำเนินการตามวาระปกติของ ส.ส. เป็นกระบวนการพิจารณากฎมายตามปกติ ตามอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ที่ประชุมมอบหมายให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงตามที่สภาฯ เคยมีมติเอาไว้ และเพื่อไทยมีความคิดเห็นเสนอ คาดว่าในส่วนของพรรคจะมีการชี้แจงกับ ส.ส. และยืนยันตามมติเดิมที่เคยมีไว้ ซึ่งเรามีการประสานงานกับพรรคร่วม คาดว่าถ้าไม่มีปัญหาในสภาฯ วาระแรก 7-8 นิรโทษกรรม"

ทางด้าน นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ที่มาของการขับเคลื่อนครั้งนี้ไม่ใช่ของใหม่ ซึ่งทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้งทางบ้านเมือง ก็มีการใช้กระบวนการรัฐสภา ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้สำรวจความเห็นประชาชนจำนวน 75,000 คน กับคำถาม 9 หัวข้อ เกี่ยวกับความขัดแย้งและการนริโทษกรรมในเวทีสานเสวนาทั่วประเทศ รวมถึงการศึกษาของสถาบันการศึกษา 3 สถาบัน ภาพรวมเห็นสมควรให้นิรโทษกรรม นี่จึงเป็นที่มาของการขับเคลื่อน
ขณะด้าน นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล ได้เรียกประชุม วิปรัฐบาล เพื่อหารือถึงข้อยุติการนำกฎหมายสำคัญ เข้าสู่การ พิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เป็นวาระแรกในวันที่ 7 ส.ค.นี้
โดยมี นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมเพื่อชี้แจงถึงความคืบหน้าของร่างกฎหมายสำคัญต่างๆ อาทิ พรบ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการจัดทำรายงาน / พรบ.งบประมาณรายจ่ายจ่ายประจำปีงบประมาณรายจ่าย 2557
ทั้งนี้ ก่อนเข้าร่วมประชุม นายพีระพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เปิดเผยว่า มี ความเป็นได้ ที่จะหยิบยก พรบ.นิรโทษกรรม ขึ้นพิจารณาเป็นวาระแรก เนื่องจากขณะนี้ พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ยังอยู่ในชันการพิจารณาของกรรมาธิการ
ซึ่งคาดว่า จะพิจารณาแล้วเสร็จ ประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งหลังจากนั้นก็จะพิจารณา พรบ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เป็นลำดับต่อไป และหากมีความเป็นไปได้ ก็จะพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเริ่มจาก มาตรา190 รัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ ส.ว. และปิดท้ายด้วยมาตรา68 ซึ่งเชื่อว่าจะมีแรงต่อต้านมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมติของวิปรัฐบาลว่าจะเสนอเรื่องใดเข้าสภา ก่อนหลัง ซึ่งต้องดูบรรยากาศทางการเมืองด้วย

ที่มา: ไทยรัฐ
[Continue reading...]

เสื้อแดง "ป้อง" สภา ให้ สส. รัฐบาลทำงานได้ จนกว่าจะเสร็จสิ้น

- 0 comments
 
นปช.หวั่นม็อบ อพส.ล้อมสภา เตรียมส่งมวลชนยึดพื้นที่ อ้างให้รัฐบาล สส. ทำงานได้

นายชินวัฒน์ หาบุญพาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไป กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ต่ำกว่าหมื่นคน จากชมรมคนรักแท็กซี่ ภาคีพลังประชาชน (ภปช.) และเสื้อแดงทั่วประเทศมารวมตัวบริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อปกป้องรัฐบาล สส. ให้สามารถทำงานและออกกฎหมายได้

ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ประกาศจะชุมนุมหน้ารัฐสภาในวันที่ 4 ส.ค. โดยเรียกร้องให้รัฐบาลทำตาม 6 ข้อเรียกร้องถือว่าไม่ชอบธรรม

“การออกกฎหมายหรือกู้เงินใดๆ เป็นหน้าที่ของ สส.และเสียงส่วนใหญ่ในสภา ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี จึงยอมรับไม่ได้ ซึ่งคนเสื้อแดงจะชุมนุมยืดเยื้อไปจนกว่าสภาจะพิจารณาทุกอย่างเสร็จสิ้น” นายชินวัฒน์ กล่าว

ด้านนายไทกร พลสุวรรณ เสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนฯ กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่ทำตามข้อเสนอภายในวันที่ 27 ก.ค. ก็จะแถลงถึงแนวทางเคลื่อนไหวในวันที่ 4 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ดี วันที่ 25 ส.ค. จะเปิดตัวแนวร่วมทั้งทหารและตำรวจนอกราชการกว่า 30 คน ซึ่งจะมาเป็นกองกำลังปกป้องประชาชน และขอยืนยันว่าไม่เคยมีเงินทุน 3,000 ล้านบาท ตามที่บางฝ่ายระบุ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยใช้เงินจ้างใครเข้าร่วมชุมนุม

ที่มา :โพสทูเดย์
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger