Saturday, August 3, 2013

ของขวัญ “สนธิ ลิ้ม” มอบให้ ป.ช.ป. คำต่อคำ พร้อมคลิปเสียง

- 0 comments





คลิปเสียง

วันที่ 2 ส.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ช่วงหนึ่งว่า จะหาว่าตนไม่รู้จักประชาธิปัตย์ดี ตนกับพรรคประชาธิปัตย์ลึกซึ้งกันมาก นายชวน หลีกภัย สนิทกับ คุณป๋าสุด ช่องดารากุล พ่อภรรยาของตน คุณป๋าเป็นทนายความใหญ่อยู่ จ.ตรัง เป็นคนสนับสนุน นายชวน ให้เล่นการเมือง นายชวนกับภรรยาตน รู้จักกันดี น้องชายนายชวน ตอนที่ไปเรียนเมืองนอกก็เคยมาพักด้วยกัน ตนกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ก็เหมือนญาติกัน พ่อเขากับพ่อตนเป็นเพื่อนสนิทกัน รู้จักกันดีมาก สมัยที่ตนกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ ตนก็เป็นผู้จัดการฝ่ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่กรุงเทพมหานคร ตนรู้จักกับคนเก่าแก่ของพรรคหมด แล้ว ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ก็เป็นประธานงานแต่งงานของตนด้วย ถามว่าตนไม่รู้จักพรรคประชาธิปัตย์หรือ ตนรู้จักถึงขี้ถึงไส้ รู้จักมาก่อนพวกสาวกหลายคนที่มาเที่ยวด่าตนอย่างทุกวันนี้ ตนรู้ดีว่าดีเอ็นเอของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร ไม่เคยเปลี่ยน 
       
ถามต่อว่าอะไรทำให้มันผันแปรมาเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่า เมื่อประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล คิดว่าบ้านเมืองจะดีขึ้น อุตส่าห์เตือนเขาหลายเรื่อง แต่เขาก็พริ้วไปเรื่อย จนกระทั่งเขาพริ้วไม่ออกในกรณีของ นายวีระ สมความคิด และ MOU 2543 ที่ตนรับเขาไม่ได้คือไปทำให้คนอย่าง นายวีระ และ น.ส.ราตรี ต้องติดคุก ทั้งที่ยืนอยู่ในแผ่นดินไทย หรือสมมติจะยืนอยู่บนแผ่นดินเขมรก็ต้องสู้ให้คนไทย แล้วที่เจ็บปวดหัวใจที่สุดคือปล่อยให้จับ แต่ไปวิ่งเต้นให้ปล่อย นายพนิช ออกมา มันเห็นชัดเจนเลย
       
และเหตุการณ์อีกอย่างที่รับไม่ได้เลย คือพี่น้องเราตายไปวันที่ 7 ตุลา ปรากฏว่าวันที่ ป.ป.ช. ชี้มูลว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ผิด โดยอำนาจหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งรับมอบอำนาจเป็นตัวแทนนายกฯ ใน ก.ตร. ต้องปลด พล.ต.อ.พัชรวาท แต่ไม่ยอมปลด ทั้งที่มีอำนาจ แล้วการเปลี่ยนหัวหน้าพนักงานสอบสวนจาก พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส ที่ยืนยันชัดเจนว่าพันธมิตรฯไม่ผิด มาเป็นพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ขอถามว่าการเมืองสั่งให้เปลี่ยนใช่ไหม ก็เพราะเขาต้องการจับพันธมิตรฯแขวนคอไว้ เพราะคิดว่าตัวเองจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกจะได้ไม่มีใครมาขวาง แต่พอแพ้เลือกตั้ง แล้วพันธมิตรฯไม่ยอมออกไปล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็หาเรื่องใส่ร้ายมาตลอด จนกระทั่งหาว่าสนธิรับเงินทักษิณ
       
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ ประกาศพร้อมนำมวลชนต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษฯ หากผ่านวาระ 3 ว่า ตนอยากให้นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ทุกคนในพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจาก ส.ส. ทั้งหมด และมาร่วมกับประชาชน แล้วนั่นคือการเปลี่ยนแปลงประเทศที่แท้จริง อย่างที่บอกตนรู้จักพรรคประชาธิปัตย์ดี ว่าไม่เคยเปลี่ยน ใช้ชุดภาษาเดิมๆว่ายังไงก็ดีกว่าเพื่อไทย แต่ดูนายทักษิณ กับ นายสุเทพ ไม่ต่างกันเลย ทั้งนิสัยใจคอ ลักษณะการพูดจา จุดยืน นายทักษิณบอกว่าเสียงปืนแตกจะนำหน้าพี่น้องประชาชนเอง แล้วพอตัวเองเป็นรัฐบาลบอกพี่้น้องส่งตัวเองถึงฝั่งแล้วไม่ต้องตามมาแล้ว ส่วนนายสุเทพ บอกว่าพร้อมลงมาสู้กับพี่น้องต้านพ.ร.บ.นิรโทษฯ เป่านกหวีดสู้เลย ผ่านไป 3 วัน บอกว่าเดี๋ยวผ่านวาระ 3 ก่อน ทั้งที่รู้ว่าอย่างไรก็แพ้ 3 วาระ แล้วจะสู้ไปทำไม ต้องหาวิธีสู้ใหม่ ซึ่งมี 2 ทาง คือนิ่งเฉยไปเลย หรือว่าลาออกจาก ส.ส. แล้วมาสู้กับภาคประชาชน ขอเปรียบกับไดโนเสาร์ ที่ต้องสูญพันธุ์ก็เพราะว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองตามกาลเวลาได้ ประชาธิปัตย์กำลังจะเป็นไดโนเสาร์
       
นายสนธิ กล่าวอีกว่า จนวันนี้ยังไม่เห็นนายสุเทพ หรือพรรคประชาธิปัตย์พูดเลยว่า ที่ชวนประชาชนออกมาโค่นพรรคเพื่อไทย วัตถุประสงค์มันอยู่ที่ไหน เพื่ออะไร ถ้าบอกว่าเพื่อที่จะปฏิรูปทางการเมือง พวกคุณต้องลาออกทั้งหมดแล้วมาเคลื่อนไหวทั้งประเทศเพื่อเปลี่ยนการเมือง ถ้าไม่ทำแสดงว่าวัตถุประสงค์ที่พยายามยุยงส่งเสริมให้พันธมิตรฯออกมาก็เพียงแต่ต้องการสลับขั้วเท่านั้น
       
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า ประชาธิปัตย์มีตั้ง 12 ล้านเสียง จะกลัวอะไร ไม่ต้องแอบอีกต่อไป ออกมาเป็นแนวหน้าเลย และพันธมิตรฯจะอยู่ข้างเวทีแล้วให้กำลังใจเต็มที่ เชียร์สุดฤทธิ์สุดเดชเลยรับรอง จะเชื่อมสัญณาณถ่ายทอดสดทางเอเอสทีวีด้วย อีกทั้งคนของประชาธิปัตย์หลายคนมีศักยภาพสูง อย่าประมาทเลย ไม่ว่าจะเป็นนายชวนนท์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายเทพไท ออกมาเลย มีทีวีตั้ง 2 ช่อง บลูสกาย ทีนิวส์ หนังสือพิมพ์ที่เชียร์พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีแนวหน้า พิธีกรบนเวทีก็มีเยอะ แล้วถ้า นางกาญจนี วัลยะเสวี นำพวกไฮโซแถวสุขุมวิทออกมานำข้างหน้าเลย มันจะเป็นภาพเดินขบวนที่สง่าผ่าเผยมาก อย่ามาเป็นนักเลงคีย์บอร์ด ตนรับรองว่าชนะ
       
 แล้วมีอะไรพร้อมให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะการตั้งโรงอาหาร การดูแลความปลอดภัย การถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมง การหลบระเบิด เอ็ม-79 มีวิธีทำส้วมให้ อย่าตัดสินใจนาน เดี๋ยวโอกาสมันจะผ่านไป ไม่ต้องรอถึงวาระ 3 มันนานเกินเพราะอย่างไรก็แพ้ หากโดนล้อม ตนจะสั่งนายอมร อมรรัตนานนท์ ให้พาคนไปช่วยเหมือนคราวที่แล้ว แต่อยากให้ออก
คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 2 ส.ค. 2556       
       รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2556 เวลา 20.00-22.30 น. ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ นางสาวกมลพร วรกุล ร่วมดำเนินรายการ
              
       สนธิ - ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของทักษิณ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของสนธิ วันนี้ผมคือตอนนี้บรรดาสาวกพรรคประชาธิปัตย์ หรือที่พวกเราเรียกว่า แมลงสาบพุ่งเป้ามาที่ผมคนเดียว เขาไม่ได้พุ่งเป้ามาที่พี่ลอง พี่พิภพ น่าสนใจอย่างนึง วันนี้ผมพยายามพูดด้วยเหตุด้วยผล และด้วยข้อเท็จจริง ผมคิดว่าคนที่มีจิตใจที่เป็นธรรมและมีปัญญาจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด
       คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อกี้กล่าวหาว่า เสื้อแดงกับเสื้อเหลืองเป็นตัวปัญหา แล้วก็บอกเสื้อแดงก็มีวิทยุชุมชน มีสถานีโทรทัศน์ของตัวเองมาปลุกระดมคนของตัวเอง เสื้อเหลืองก็มีเอเอสทีวี มีวิทยุชุมชน และมีหนังสือพิมพ์มาปลุกระดมคนของเสื้อเหลือง อยากจะเล่าให้เก๋กับแอนฟังว่า วันนี้ประชาธิปัตย์ก็มีบลูสกายกับทีนิวส์ เหมือนกับตัวเองพูดอะไรไปแล้ว และจำไม่ได้ ทุกอย่างทำเหมือนกันหมด
       เรื่องที่ 2.คือที่สำคัญที่สุดคือว่า เสื้อแดงกับเสื้อเหลืองเป็นปัญหา วันนี้เสื้อเหลืองไม่เป็นปัญหาแล้วนิ กลายเป็นเสื้อแดงกับเสื้อฟ้าใช่ไหม ปรากฏว่าเมื่อกลายเป็นเสื้อแดงเสื้อฟ้า เสื้อฟ้าทำมาบอกว่า ไอ้พวกเสื้อเหลืองนี้มันนั่งเฉยได้อย่างไง
       
       กมลพร - ไม่รักชาติ
       
       สนธิ - ไม่รักชาติ เข้าใจไหม และบอกอ้าว ไหนบอกตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง ผมจะบอกว่า ไอ้ที่ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊งไม่ใช่แกนนำพันธมิตรฯ ตัวผม แอนผมตายไปแล้วนิ 17 เมษายน 2552 โดนไป 200 นัดก็ถือว่า ผมเกิดใหม่แล้ว และโดนในยุคไหนล่ะ ในยุคที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ผมถือว่าผมตายไปล่ะ เจ๊งเป็นเจ๊ง ผมเจ๊งไม่รู้กี่รอบล่ะ จะให้ผมตายอีกกี่ครั้งและเจ๊งกี่ครั้งใช่ไหม
       
       เพราะฉะนั้นแล้ว แอนไม่รู้หรอก ผมกับพรรคประชาธิปัตย์ลึกซึ้งกันมาก เดี๋ยวจะเล่าตำนานให้ฟัง และทำไมมันถึงพัฒนามาอย่างนี้ คุณชวน หลีกภัย พี่ชวน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สนิทกับคุณป๋าสุด ช่องดารากุล พ่ออาจารย์ปุ๊ คุณป๋าเป็นทนายความใหญ่อยู่ จ.ตรัง เป็นคนสนับสนุนคุณชวน ให้ขึ้นเล่นการเมือง คุณชวนกับอาจารย์ปุ๊สนิทกันมาก รู้จักกันดี สนิทสนมเลย เคยครั้งนึงคุณชวนเป็น รู้สึกจะเป็นนายกสภา หรือเป็นกรรมการสภามหาลัย มศว. เจออาจารย์ปุ๊ อาจารย์ปุ๊เป็นอาจารย์อยู่ที่นั่นทักทายดี อ้าวน้องปุ๊ คุยกันดี น้องชายพี่ชวน ระลึก หลีกภัย ตอนที่ไปเรียนเมืองนอกเคยมาพักด้วยกัน และอาจารย์ปุ๊ทำอาหารให้ทาน อยู่มานานพอสมควร ระลึก หลีกภัย
       ผมกับคุณบัญญัติ บรรทัดฐาน เหมือนญาติกัน พี่ญัติพ่อแกกับพ่อผม เพื่อนเป็นญาติกัน สนิทสนมกัน เป็นคนไหหลำด้วยกันรู้จักกันดีมาก นานมาครั้งนึงสมัยผมกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ ฟังแล้วอย่าหัวเราะนะ ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่กรุงเทพมหานคร สมัยคุณดำรง ลัทธพิพัฒน์ ยังมีชีวิตอยู่ ผมเป็นคนออกแบบเขตแต่ละเขต ใช้ป้ายคนละสี สีฟ้าบ้าง สีแดงบ้าง
       
       จินดารัตน์ - โปสเตอร์หรอคะ
       
       สนธิ - โปสเตอร์หาเสียงนานล่ะ กี่ปีแล้วล่ะ 30 ปีแล้ว ผมรู้จักคนพรรคประชาธิปัตย์เก่า พี่ธรรมนูญ คุณลุงธรรมนูญ เทียนเงิน คุณบุญยิ่ง นันทาภิวัฒน์ สาวิตต์ โพธิวิหค ก็รู้จัก รู้จักหมดคนพวกนี้ ทำไมจะไม่รู้จัก ยุคนั้นคุณชวน พี่ชวนยังไม่ใหญ่ เพราะยุคนั้นนายกรัฐมนตรีเสนีย์ ปราโมช และใครเป็นประธานแต่งงานผมกับอาจารย์ปุ๊รู้ไหม ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และคนซึ่งปรากฏแล้วเป็นเหมือนผู้ใหญ่ของผมคนนึงก็คือ คุณดำรง ลัทธพิพัฒน์ ซึ่งฆ่าตัวตายไป
       
       ถามว่าผมไม่รู้จักพรรคประชาธิปัตย์หรอ ผมรู้จักถึงขี้ถึงไส้ รู้จักมาก่อนไอ้พวกสาวกหลายคนที่มาเที่ยวด่าผมอย่างทุกวันนี้ ผมรู้จักดีว่า ดีเอ็นเอพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร ถามต่อว่าอะไรทำให้มันผันแปรมาเป็นแบบนี้ ที่มันผันแปรมาแบบนี้เพราะว่า ประการแรกผมเป็นคนที่เลว ผมรู้ตัวผม แต่ผมเลวน้อยที่สุด และผมยอมรับในส่วนไม่ดีของผม ผมกล้าพูด ถ้าร่วมชุมชนกันครั้งแรกที่สนามหลวง ถ้าจำได้ ถ้าแอนอยู่ เก๋อยู่ ผมก้มลงกราบพ่อแม่พี่น้องบนเวที ผมบอกอดีตเคยเป็นคนเลวมาก่อน แต่จากนี้ไปผมจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง แล้วผมจะเอาชาติเป็นตัวตั้ง 193 วันที่เกิดขึ้น ไม่ได้ถือว่าเป็น 193 วันของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะตอนนั้นพันธมิตรฯ เพิ่งก่อตั้ง มีทั้งพี่พิภพ ธงไชย พี่ลอง อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมศักดิ์ โกศัยสุข สุริยะใส กตะศิลา มีหมดทุกคน มีแม้กระทั่ง เหวง โตจิราการ
       
       จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ จำได้
       
       สนธิ - ทุกคนมากันหมดเลย พิเชฐ พัฒนโชติ มากันหมด ทุกคนรวมหัวกัน แต่ว่าเมื่อเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป ผันแปรไป ประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลปังปั้บ ความที่เราเอาชาติเป็นตัวตั้ง เราก็เลยคิดว่าน่าจะดีขึ้นหลังจากประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เราก็อุตส่าห์เตือนเขาเรื่องที่เขาทำ เรื่องที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 เขาก็พริ้วไป จนกระทั่งเขาพริ้วไม่ออกในกรณีของวีระ สมความคิด และเขาพริ้วไม่ออกในกรณี MOU 2543 ที่ผมรับเขาไม่ได้คือว่า เขาไปทำให้คนอย่างคุณวีระ และคุณราตรีต้องติดคุก ทั้งที่คุณวีระ และคุณราตรี ยืนอยู่ในแผ่นดินไทย สมมติจะยืนอยู่บนแผ่นดินเขมรเขาก็ต้องสู้ให้คนไทย เขาต้องสู้สิ บอกนี่เป็นผืนแผ่นดินไทย คุณจับไปไม่ได้ คุณต้องเอาคืนมา แต่เขายังปล่อยให้จับ แล้วที่เจ็บปวดหัวใจที่สุดคือเขาปล่อยให้จับ แต่เขาเสือกไปวิ่งเต้นให้เขมรปล่อยคุณพนิชออกมา มันเห็นชัดเจนเลย มันเห็นชัดเจน
       
       ทีนี้ถามว่ากรรมตามสนองมั้ย กรรมตามสนองสิ เพราะว่าเขาเป็นคนที่คิดที่จะเอา พ.ร.บ.ความมั่นคง มาเล่นงานพวกเราถูกมั้ย แล้วเขาประกาศภาวะฉุกเฉิน จำได้มั้ย หลายจุด จนกระทั่งผมกับพวกแกนนำโดนดำเนินคดี อยู่ที่อัยการแขวงเหนือ ผมจำได้ เราต้องไปรายงานตัวที่นั่น จากเหตุการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล
       
       ตอนที่เราสู้กับทักษิณ เขาก็มาสู้ด้วย เขาส่งเสี่ยแค็ป เจ้าของที่ดินที่ขายที่บนเขาแพงให้กับลูกชายของสุเทพ เทือกสุบรรณ มาตั้งโรงครัวชาวใต้ เอาคนใต้ขึ้นมา โน่นนี่นั่น แต่พอเขาได้เป็นรัฐบาลปั๊บ เราต่อต้านเขา เราประท้วงเขาในเรื่องของเขมร ประท้วงเขาในเรื่องของเขาพระวิหาร พวกเขา พวกสาวกพรรคประชาธิปัตย์ก็ถอย ถอยออก เพราะฉะนั้นแล้ว สำหรับผมแล้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือ 158 วัน ไม่ใช่ 193 วัน คนที่มาชุมนุมในช่วง 158 วัน และคนที่เฝ้าจอทีวีดูด้วยในช่วง 158 วัน นั่นคือเลือดเนื้อแท้จริงของพันธมิตรฯ
       
       ทีนี้ ผมถามอย่างนี้ ผมถามว่า แล้ววันนี้ทำไมคุณสุเทพถึงพลิกไปพลิกมา ไม่เป็นไร คุณสุเทพอาจจะพลิกเพราะเห็นว่าพันธมิตรฯ ไม่ออก ผมบอกพรรคพวกหลายครั้งแล้วว่า พันธมิตรฯ คือสะพานไฟ ถ้าเราสับสะพานไฟขึ้นปั๊บ ทุกคนเอาเครื่องไฟฟ้ามาเสียบร่วมด้วย ประชาธิปัตย์เอย องค์กรพิทักษ์สยามเอย คนไม่ชอบทักษิณเอย ใครก็ตาม มาร่วมด้วยหมดเลย แต่ว่าแต่ละคนจะมีวาระซ่อนเร้นของตัวเอง
       
       เหตุการณ์ที่ทำให้ผมรับไม่ได้เลย คือพี่น้องเราตายไปวันที่ 7 ตุลาฯ น้องโบว์ตาย คนโน้นคนนี้ตาย ปรากฏว่า วันที่ ป.ป.ช.ชี้มูลว่าใครผิดบ้าง ที่ผมรับไม่ได้สุดๆ เลยก็คือว่า การที่เขาชี้มูลว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ผิด โดยอำนาจหน้าที่นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งรับมอบอำนาจเป็นตัวแทนนายกฯ ใน ก.ตร. ต้องปลดพัชรวาท แต่ไม่ยอมปลด เมื่อไม่ยอมปลดแล้ว ถามว่าสุเทพ มีอำนาจเหนือพัชรวาทมั้ย มี การที่ไม่ปลดแสดงว่า สั่งพัชรวาทได้ใช่มั้ย ยอมตามที่พัชรวาทบอกใช่มั้ย อันนี้แทรกแซงหรือเปล่า แทรกแซง มันก็เลยตรงกันข้ามกับคำพูดของนายสุทิน วรรณบวร เห็นมั้ย นายสุทินนี่ต้องตบปากตัวเอง ที่มาบอกว่า ที่พันธมิตรฯ โดนคดีนี้ก็เพราะว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้แกล้ง เพราะประชาธิปัตย์ไปแทรกแซงตำรวจไม่ได้ ใครบอกคุณว่าแทรกแซงไม่ได้ แล้วที่คุณไม่ปลดพัชรวาทนี่คุณแทรกแซงหรือเปล่า แทรกแซง แล้วทำไมเวลาคุณตั้งตำรวจทุกที ตั้งนายพลคนโน้น ตั้งผู้บัญชาการคนนี้ แล้วทำไมคุณจะต้องถามการเมืองว่า จะต้องการเอาใคร เพราะฉะนั้นคุณแทรกแซงได้อยู่แล้ว แต่เวลาคุณสนับสนุนให้ตำรวจทำชั่ว คุณปล่อยให้เขาทำชั่วได้ ใช่มั้ย
       พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีผู้ก่อการร้าย ยืนยันชัดเจนว่าเราไม่ผิด เราไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เราเป็นผู้ก่อการดี จู่ๆ ก็เปลี่ยนหัวหน้าพนักงานสอบสวน จาก พล.ต.อ.วุฒิ มาเป็นสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผมถามว่าใครสั่งให้เปลี่ยน การเมืองสั่งให้เปลี่ยน ทำไมถึงทำเช่นนั้น แอนกับเก๋รู้มั้ย เพราะเราก็คือหนามตำเท้าเขา เพราะเขามีความรู้สึกว่า ถ้าเขาไม่จับเราแขวนคอไว้ อีกหน่อยเขากลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เราจะขวางเขาอีก เพราะว่าเขาฝันเฟื่องเมืองแมน เขาฝันว่าถ้าเขายุบสภาฯ แล้วเขาจะได้กลับเข้ามา เมื่อกลับเข้ามาแล้ว เราโดนข้อหาผู้ก่อการร้ายหมด เราขึ้นไป ขึ้นศาล เหมือนกับที่เราจะต้องโดนคำสั่งศาลห้ามทำโน่นนี่นั่น เขาจะได้อยู่สบาย แต่คำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต เขาสอบไม่ได้ พอเขาสอบไม่ได้แล้ว เขาทำยังไงล่ะ เขาไม่รู้จะทำยังไง เขาก็ต้องยุให้เราออกเขายุเราออกกี่ครั้งละ วิธีการยุมีหลายวิธีปล่อยข่าวตลอดเวลาๆ ปล่อยจนกระทั่ง ปล่อยหนักว่าสนธิรับเงินทักษิณ แล้วใช้วิธีปล่อยข่าวหลายคน สนธิรับเงินทักษิณมาจากกรณ์ จาติกวณิช ในที่สุดกรณ์ก็ยอมรับ ขอโทษผมแต่มันปล่อยไปแล้ว ปล่อยเข้ามาในสำนักงานเรา อัญชลีพร กุสุมภ์ ก็เอาเรื่องนี้มาพูด จนผมต้องเลือกอัญชลีพร ว่าอัญพูดอย่างนี้จริงไหม เขาบอกเขาได้ยินมา ผมบอกเออคุณได้ยินมาแล้วคุณเชื่อใช่ไหมถ้าคุณเชื่อคุณตัดสินใจเองว่า คุณจะอยู่กับผมหรือไม่อยู่กับผม
       
       อัญชลีพรก็ไป ในที่สุดก็สุทิน วรรณบวร ก็ทำให้สุทินต้องไปละเพราะจัดรายการคู่กับแอน คู่กับเพชร คู่กับดีน ก็ปรากฏว่าทุกคนยกเว้นสุทินไม่เอาประชาธิปัตย์ สุทินเลยกลายเป็นตัวเดียว หัวเดียวกระเทียมลีบทนไม่ไหวเลยต้องลาออกไป แล้วปรากฎว่าข้อเท็จจริงทำไมสุทินถึงชอบประชาธิปัตย์เพราะว่าคุณชวน หลีกภัย ไปช่วยแม่ยายคุณสุทิน ตรงชุมพร เพราะเขาเล่าให้คุณชัชวาลย์ ฟังเองนี่คือข้อเท็จจริง และเป็นประธานงานแต่งงานลูกด้วย เอาละผมไม่ว่ากัน เรื่องพวกนี้ผมไม่ว่าแต่ว่าคุณกรณ์ว่าผมรับเงินทักษิณผมเงียบผมไม่พูด ผมต้องใช้เวลา 2 ปีกว่า ตั้งแต่เราโหวตโนมา ว่าคนจะรู้ความจริงว่าไม่ใช่แล้วคุณกรณ์ไปอยู่โรงแรมเดียวกับนักโทษชายทักษิณที่โรงแรมอินเตอร์คอนแค่นั้นเอง โซเชียลเน็ตเวิร์กออกมากระหน่ำคุณกรณ์ จนต้องออกมาแก้ตัวกันพัลวันเลยกรรมใดใครก่อ เจ็บไหมละโดนเข้าตัวเองถึงจะรู้ไหมละ ผมโดนมา 2 ปีกว่าผมรู้สึกยังไง เอ๊ะ อะ อะไรก็แป๊ะลิ้มเอ๊ะ อะ อะไรเจ๊กลิ้ม ผมถามคำหนึ่งว่า ประชาธิปัตย์มีเสียงอยู่ 12 ล้านเสียงพวกเราถ้านับคะแนนโหวตโนแล้วมีเกือบๆ 2 ล้านเสียง ยังไม่ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ของเราเลย เพราะฉะนั้นเมื่อประชาธิปัตย์มี 12 ล้านเสียง เขาแค่ออกมาแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ของเขาแค่ 1.2 ล้านคนเต็มถนน และทำไมไม่ทำล่ะ ที่ไม่ทำเพราะต้องการให้เราออกแล้วคอยตีกิน ทำไมผมจะอ่านเกมส์นี้ไม่ออก จุดแรก 2 ปีกว่าที่ผ่านมาเราไม่เอาเราไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์ และเราไม่เอาพรรคเพื่อไทย และเราไม่เอาพรรคการเมืองทุกพรรค เพราะเราเห็นว่า ระบบนี้เป็นระบบเจียมตัว ระบบนี้มันใช้ไม่ได้ เมื่อมันใช้ไม่ได้แล้วเราไม่เอาใครทั้งสิ้น เราต้องการให้เขาปฏิรูปคุณสุเทพบอกแล้วว่า วาระ 3 ถึงจะออก ผมดีใจแอน เพราะเรามีเจ้าภาพและ เราต้องปล่อยเขาออก เราไม่แย่งเขา เพราะคุณอภิสิทธิ์เคยพูดบอกว่า เราอย่าไปผูกขาดการรักชาติ กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งผูกขาดความรักชาติไม่ได้ ไม่ดี งั้นเราไม่ผูก เราถอย เราขอมอบตำแหน่งเจ้าภาพนี้ให้คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคุณสุเทพพูดแล้วไง วาระ3 จะออก ถูกไม่ถูก เมื่อคุณสุเทพพูดวาระ 3 จะออก ก็ให้คุณสุเทพออกไป เราจะให้กำลังใจ ความจริงแล้วพรรคประชาธิปัตย์มีมากกว่าเรา มีทีวีตั้ง 2 ช่อง บลูสกาย ทีนิวส์ หนังสือพิมพ์ที่เชียร์พรรคประชาธิปัตย์ แนวหน้า ต้องเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ มีหนังสือพิมพ์ก็มี ทีวีก็มีตั้ง 2 ช่อง มีเหมือนกันหมด คุณสุเทพด่าผมที่ชุมพรว่า ผมมีทีวี ตอนนี้คุณสุเทพก็มีแล้ว 2 ทีวี ใช่ไหม มีเงิน เราทุกวันนี้เรายังต้องขายกะปิ น้ำปลา ข้าว เครื่องทำน้ำด่าง เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูเรา
       
       3. มีแกนนำเยอะเลย พิธีกรบนเวทีอัญชลีพร กุสุมภ์ อัญชะลี ไพรีรัก อาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง จิตกร บุษบา มีชวนนท์ โน้นนี่นั่น แล้วยังมีพวกไฮโซ พวกที่สมัย 193 วันชุมชน ที่จะต้องไปนั่งพร้อมกับตะกร้าปิกนิก และมีปลาแซลมอน และขนมปัง และเนย และมีคนใช้ไปอยู่ด้วย คุณกาญจนี วัลยะเสวี แกเป็นศักดินา ไอ้ผมมันแป๊ะลิ้ม อย่าเอาผมเข้าไปนำ พวกผมนำไม่ได้ เพราะผมมันลูกเจ๊ก ผมถูกเรียกว่า แป๊ะลิ้ม ศักดินาวัลยะเสวีนามสกุลเก่า ต่อสู้เพื่อนามสกุลดั่งเดิมของตัวเองไป ผมให้กำลังใจ ไม่ต้องกังวล ผมสั่งอมร อมรรัตนานนท์ไว้แล้ว ถ้าคุณโดนล้อมตรงไหน ผมจะให้อมรพาคนไปช่วยคุณ เหมือนคราวที่แล้ว ที่รัฐสภาที่ผมไปช่วยคุณกับหมอตุลย์ แต่ผมอยากให้ออก อยากเป็นนักเลงคีย์บอร์ด อย่า ออกไปเลย ทีนี้ผมก็มองอย่างนี้ มนุษย์นี่นะแอน ตามหลักแล้ว มนุษย์มันเจริญเติบโตแนวดิ่งเข้าใจใช่ไหม สัตว์เดรัจฉาน มันเจริญเติบโตแนวขวาง ด้วยเหตุนี้เขาถึงบอกอย่าขวางโลกไง ถ้าขวางโลกหรือทำตัวเป็นเดรัจฉาน
       ทีนี้มนุษย์เวลามันทำ มันตัดสินใจทำเนี้ยะ มันทำบนพื้นฐานเหตุผลใช่ไหม สัตว์มันทำบนพื้นฐานของสัญชาติญาณ กูอยากได้ กูอยากมี กูอยากเป็น
       
       จินดารัตน์ - ตามอารมณ์
       
       สนธิ - ตามอารมณ์ ถูกไม่ถูก เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุนี้ ผมเลยอยากจะฝากข้อคิดให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าถ้าคุณดูตัวคุณเอง ดูพวกนักการเมืองอยู่ในสภาฯ พวกคุณคือเดรัจฉานทางการเมืองคำว่าพวกคุณไม่ใช่เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์นะ พรรคเพื่อไทย พรรคคุณบรรหาร พรรคสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นี้คือเดรัจฉานทางการเมืองทั้งสิ้น ผมอยากให้คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ ทุกคนในพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากพรรค ลาออกจาก ส.ส.ทั้งหมด และมาร่วมกับประชาชน ร่วมกับประชาชนแล้วนั้นคือ การเปลี่ยนแปลงประเทศที่แท้จริง แต่ถ้าคุณความเป็นเดรัจฉานอยู่อยากติดอยู่ในสัญชาตญาณความอยากได้อยากมีเมื่อไหร่มึงจะไป มึงไปกูขึ้นแล้วกูก็เล่นเกมส์อำนาจต่อไป
       
       เหมือนพวกเสื้อแดงทำไมเขาถึงเจรจากับเสื้อแดง เขาต้องการให้เสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์ที่ขู่คนกรุงเทพฯ เพื่อให้รู้ถ้าไม่เอาเสื้อแดงต้องเลือกเขา แต่เผอิญเขาตัดสินใจยุบสภาฯเพราะเขาไปเชื่อพรรคภูมิใจไทย เชื่อว่าเลือกตั้งงวดหน้าได้แน่นอนขนาดเลือกตั้งแล้วเขารู้ผลน่าจะแพ้เขาก็ยังหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ไม่ถึงครึ่งถ้าได้ไม่ถึงครึ่ง เขาจะได้จัดรัฐบาลในกองทัพในค่ายทหารต่อไปเหมือนเดิม ถูกไม่ถูกแต่เผอิญเพื่อไทยมันได้เกินครึ่ง พอมันได้เกินครึ่งแล้วทั้งบรรหาร ทั้งพวกไอ้เตี้ยหมาหอนแถวสุพรรณ เทไปทางโน้นหมด เขาเลยโดดเดี่ยวเหลืออยู่ร้อยกว่าคนพอเหลือร้อยกว่าคนไม่รู้จะทำไงมองไปมองมา อ้าวไอ้แป๊ะลิ้ม นี้คือเหตุผลว่าทำไมช่วงหลังไม่ค่อยด่าผม แต่พอผมไม่ออกก็เริ่มด่าผมๆ ปรากฏว่า ไอ้แป๊ะลิ้มไม่ออก เพราะวันนี้มันรับเงินทักษิณอีกละ และที่ถามว่าสุเทพมันบอกมันจะออกแล้วมันไม่ออกมันรอวาระ 3 นี้ มันรับเงินหรือเปล่า เข้าใจไหม ตรรกะตรงนี้ผมอยากให้สาวกพรรคประชาธิปัตย์ฟังให้ดีๆ ถามหน่อยว่าพวกพรรคประช่ธิปัตย์มันผิดไม่เป็นหรือ ขอโทษใครไม่เป็นหรือ ทำไมต้องถูกตลอดเวลา ใช่ไหมแอน
       
       เพราะฉะนั้นด้วยเหตุผลตรงนี้ผมนี้รู้จักเขาดีรู้จักมาตั้งแต่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นประธานงานแต่งงานผมทำไมผลจะไม่รู้จักมาถึงพี่ชวน มาถึงทุกคนตลอดเวลา เขาไม่เคยเปลี่ยน เพราะงั้นชุดภาษาของเขาก็เป็นชุดภาษาเดิมๆ เขา ยังไงก็ดีกว่าเพื่อไทย คุณดูทักษิณคุณดูสุเทพเหมือนกันเป๊ะต่างที่คนหนึ่งขาวอยู่ทางเหนือ คนหนึ่งดำอยู่ทางใต้ แต่ว่านิสัยใจคอลักษณะการพูดจาจุดยืนพี่น้องฝาแฝดกันเลย ไอ้คนหนึ่งวันหนึ่งก็บอกว่า เสียงปืนแตกจะกลับมาปะทะกับทหารเมื่อไหร่ ผมจะนำหน้าพี่น้องประชาชนเอง แล้วพอตัวเองเป็นรัฐบาล พอน้องสาวตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็บอกว่า พี่้น้องส่งผมถึงฝั่งแล้วไม่ต้องตามผมแล้ว ผมไปขึ้นเขาเองเหมือนกัน พี่น้องผมพร้อมจะลงมาสู้พร้อมพี่น้อง เป่านกหวีดสู้เลย ผ่านไป 3 วัน บอก เดี๋ยวผมเข้าสภาฯ ก่อน ค่อยผ่านวาระ 3 ก่อน นี่คือปัญหาใหญ่ ปัญหาตรงที่ว่า ปลาว่ายตามน้ำไม่ได้ต้องว่ายทวนน้ำ ถูกไม่ถูก
       
       เพราะฉะนั้นแล้วคนเราถ้าจะทำอะไร ถ้ารู้ว่าสู้ในสภาฯ อย่างไรก็แพ้ 3 วาระ แล้วคุณจะสู้ไปทำไม ต้องหาวิธีสู้ใหม่ใช่ไหมคะ วิธีสู้ใหม่สู้อย่างไร 2 ทาง นิ่งเฉยไปเลย หรือว่าลาออก ลาออกจาก ส.ส.เลยแล้วมาสู้กับภาคประชาชน นั่นคือวิธีที่ปลาเอาตัวรอดจากการว่ายทวนน้ำ ไดโนเสาร์ทำไมตาย เพราะว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองตามกาลเวลาได้ มันถึงตาย ถึงสูญพันธุ์ไง ประชาธิปัตย์กำลังจะเป็นไดโนเสาร์นะ เหมือนกับเรายืนอยู่ รถไฟยืนอยู่ พอรถไฟออก เรายังอยู่ที่เก่า รถไฟไปแล้ว ตามไม่ทัน วิธีคือเราต้องกระโดดเกาะรถไฟไปด้วย คนก็ถามว่า แล้วสิ่งแวดล้อมมันทำให้เราชั่วได้ไหม ระหว่างกาลเวลามันเปลี่ยนไป ใช้สติ สัมมาทิฐิ ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ใช้หลักพุทธ เข้าใจยังแอน ใช้หลักพุทธเราก็จะไม่เลวไปตามสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เราเลวได้ แต่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วคนที่รักพรรคประชาธิปัตย์อีกไม่น้อย ทำตัวเหมือนไดโนเสาร์ คุณว่าผมไม่รักพรรคประชาธิปัตย์ยังไง ผมเนี้ยะร่วมกับเขามาตั้งแต่ต้น แล้วคุณดูคนที่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเนี้ยะ ลวดลายเต็มตัวไปหมดเลย
       
       จินดารัตน์ - เฉลิมอย่างงี้
       
       สนธิ - เฉลิมอย่างงี้ ยงยุทธ ติยะไพรัชอย่างนี้ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุลอย่างนี้ เอ่ยชื่อมาสิ ใช่ไหม เพราะฉะนั้นแล้ว และพรรคประชาธิปัตย์เนี้ยะ ทำผิดหลักธรรมมาเยอะ ผมไม่ได้ปล้น แต่เก๋ไปปล้น ผมรู้ว่าเก๋ไปปล้นเงินคนมา และผมใช้เงินเก๋ผมผิดไหม ผิด ทำไมจะไม่ผิด คุณอภิสิทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย อาจ แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์ใช้เงินของพรรคภูมิใจไทย ไม่ผิดได้ไง พายเรือให้โจรนั่งไม่ผิดได้ไง พายเรือให้คนเขาปล้นบ้านไม่ผิดได้ไง ผิดทั้งนั้นผิดหลักธรรมด้วยเหตุนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาอย่างนึงคือ ไม่ซื่อสัตย์กับตัวเอง ต้องจำไว้นะ เขาเรียกว่า ตถาการีกับยถาวาที คือคนเราพูดอะไรต้องทำอย่างนั้น ถ้าซื่อสัตย์กับคนอื่นเนี้ยะ คนอื่นเห็นว่าตัวซื่อสัตย์ แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองก็ขี้โกงเหมือนกัน ซื่อสัตย์กับคนอื่น เพื่อให้คนอื่นเห็นว่า เราซื่อสัตย์กับคนอื่น แต่เราไม่ซื่อสัตย์กับตัวเราเองก็คือว่า เราแอบมาวาระซ่อนเร้น ถูกไม่ถูก
       
       เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะซื่อสัตย์กับคนอื่น เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเราเองก่อน เพราะฉะนั้นแล้วผมถึงบอก ประชาธิปัตย์ถ้ายังไม่แก้สันดานตรงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองประชาธิปัตย์ และสาวกพรรคประชาธิปัตย์ ถ้ายังไม่เริ่มใช้ปัญญาตัวเองคิดให้เป็น ตัวเองจะไม่ได้ต่างกว่าพวกเสื้อแดง หรือพวกฝ่ายแดงเลย เหมือนกันหมดทุกคน ด่าผมในเฟซบุ๊ก ด่าโน้นด่านี่ ผมไม่รู้สึกหรอก ด่าผมไอ้แป๊ะลิ้มบ้าง รับเงินเขามาโน้นนี่นั่น เอาตามสบาย เอาให้ตามสบาย จนวันนี้พวกคุณไม่รู้สึก คุณไม่เคยโดนยิง 200 นัด คุณไม่รู้สึก ผมโดนยิง 200 นัด ผมยังไม่รู้เลยว่า วันนี้เรื่องของผมทำไมถึงเงียบไปเลย และผมโดนยิงในยุคของพรรคประชาธิปัตย์ และเหตุการณ์ก็ยุติลง เมื่อมันจะสาวไปจนถึงคนที่อยู่ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทำไมผมจะไม่รู้สึก ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง
       เก๋ผมตายไปแล้วรอบนึง เจ๊งไปแล้วหลายรอบ จะให้ตายอีกกี่รอบ เข้าใจไหม และคุณก็พูดถูก ผมแป๊ะลิ้ม ผมลูกเจ๊ก คุณจะให้ผมทำอะไรมากกว่านี้ แอน ทำไมภาระของชาติบ้านเมืองมันตกอยู่ที่ตกล่ะ ผมลูกเจ๊กอ่ะ
       
       จินดารัตน์ - ในพรรคประชาธิปัตย์ลูกผู้ดี
       
       สนธิ - ลูกผู้ดีทั้งนั้น ลูกอำมาตย์ทั้งนั้น นามสกุลใหญ่ๆ โตๆ วัลยะเสวี เวชชาชีวะ โสณกุล ภัททิยกุล ลูกของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล โอ๊ย ไฮโซ อำมาตย์ ศักดินา ก็สมกับที่ไอ้พวกเสื้อแดงมันว่าไง ที่มันสู้กับอำมาตย์ มันก็สู้กับพวกคุณจริง ผมลูกเจ๊ก มาสู้อะไรกัน
       
       จินดารัตน์ - ดูเหมือนมีคนหนึ่งที่ไม่เคยอยู่ประชาธิปัตย์ แต่จะรู้ใจพรรคประชาธิปัตย์พอๆ กับพวกเรานะคะ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ค่ะ แอนเพิ่งเห็นด้วยกับเรื่องนี้เรื่องแรกกับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ณัฐวุฒิบอกว่า อยากขอให้พรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวเป็นแกนนำในการชุมนุม เพื่อแสดงความจริงต่อสังคม เพราะที่ผ่านพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยออกมาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการกินแรงประชาชน ใช่หรือไม่
       
       กมลพร - นานๆ ทีจะเห็นอย่างนี้นะ
       
       สนธิ - จนวันนี้ ผมยังไม่เห็นคุณสุเทพพูด หรือพรรคประชาธิปัตย์พูดเลยว่า ที่คุณชวนประชาชนออกมาโค่นพรรคเพื่อไทย วัตถุประสงค์มันอยู่ที่ไหน
       
       จินดารัตน์ - เพื่ออะไรใช่มั้ยคะ
       
       สนธิ - เพื่ออะไร เพื่ออะไรคุณตอบผมซิ เพื่ออะไร ถ้าคุณบอกว่า เพื่อที่จะปฏิรูปทางการเมืองใหม่หมด เพราะระบบการเมืองทุกวันนี้มันเป็นระบบที่สร้างให้ ส.ส.กลายเป็นเดรัจฉาน ถ้าคุณพูดอย่างนี้ ผมเห็นด้วย แต่คุณต้องทำนะ คุณทำยังไง คุณต้องลาออกหมด ทั้งหมดเลยนะ ลาออกไปเลย แล้วมาเคลื่อนไหวทั้งประเทศเพื่อเปลี่ยนการเมือง ถ้าคุณไม่ทำ แสดงว่าวัตถุประสงค์ที่คุณพยายามยุยงส่งเสริมให้ไอ้แป๊ะลิ้มชักสะพานไฟขึ้นไป แล้วคุณมาต่อ เพราะคุณต้องการที่จะล้มมันเพื่อคุณต้องการจะสลับขั้ว และตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีกใช่มั้ย
       
       กมลพร - กลับมาเสวยสุขอีกครั้ง
       
       สนธิ - กลับมาเสวยสุขอีกครั้งใช่มั้ย ชาตินี้คุณอย่าหวัง ผมไม่มีวันที่จะตกหลุมพรางคุณอีก ผมเจ็บครั้งเดียวพอแล้ว ที่เจ็บไม่ได้เจ็บอย่างเดียวนะ แค้นใจด้วย คุณบอกว่า เวลาคุณโดนธาริต เพ็งดิษฐ์ ดำเนินคดีทั้งสองคน ข้อหามีคำสั่งฆ่าประชาชน ใช้ทหารฆ่าประชาชน คุณโวยวายว่ายังไง คุณบอกการเมืองสั่ง ใช่มั้ย แล้วคุณคิดดูสิ ผมโดนคดีผู้ก่อการร้าย ทำไมผมไม่มีสิทธิ์คิดบ้างล่ะว่าเป็นฝีมือพวกคุณเหมือนกัน เอ๊ะ ทำไมเวลาคุณโดน คุณบอกว่าเพื่อไทยสั่ง ทำไมผมโดนผมบอกประชาธิปัตย์สั่งไม่ได้เหรอ ทำไมคุณต้องวิเศษกว่าเขา คุณกินข้าว แล้วเขากินขี้หรือไง นี่คือสันดานคนที่ดูถูกคนไง กูต้องถูก กูต้องดี กูต้องแน่ กูขอโทษใครไม่เป็น กูทำอะไรก็ตามกูไม่มีวันผิด วันนี้ขอบคุณมาก ที่คุณพูดที่สกายวอล์ก อย่างน้อยที่สุดคุณประกาศตัวเป็นเจ้าภาพแล้ว คุณเชิญเลย คุณมีตั้ง 12 ล้านเสียง แอน กลัวอะไร มีทีวีตั้ง 2 ช่อง บลูสกายถ่ายทอดสด แล้วคุณมีสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ก็เป็นพวกคุณ ไม่ต้องแอบอีกต่อไป ออกมาเลย ออกมาแนวหน้าเลย พวกผมนี่เปิดตัวหมดแล้ว ตั้งนานแล้ว พวกคุณออกมาแนวหน้ากันบ้าง เปิดหน้าชกกับเพื่อไทยเลย ผม พี่พิภพ พี่ลอง อ.สมเกียรติ และพันธมิตรฯพันธุ์แท้ที่ 158 วัน จะอยู่ข้างเวทีแล้วให้กำลังใจคุณเต็มที่ เชียร์สุดฤทธิ์สุดเดชเลยรับรอง
       
       กมลพร - แต่ได้ยินมาอย่างนี้นะคะ ว่าบลูสกายคงทำไม่ได้หรอก เพราะว่าเพิ่งได้ใบอนุญาติประกอบกิจการทีวีดิจิตอลมา เพราะฉะนั้นบลูสกายคงต้องยกหน้าที่ให้ทีนิวส์ ก็เขาพูดเอง
       
       สนธิ - ไม่เป็นไรเราเชื่อมสัญญาณ เราฮุกสัญญาณมาให้ ออกไปเลย ทีนิวส์ออกไป บลูสกายออกไป เราเชื่อมให้
       
       จินดารัตน์ - ร้ายขายของชำตรงข้ามออฟฟิศบอกว่าเดี๋ยวจะซื้อนกหวีดแจก
       
       สนธิ - คุณสุเทพทำนกหวีดหายใช่ไหม ทำตกใช่ไหม
       
       จินดารัตน์ - ป้าก็เลยบอกว่า เดี๋ยวรอผ่านวาระ 3 ก่อนค่อยให้
       
       กมลพร - แต่คุณสุเทพพูดอย่างนี้นะ ตอนที่พูดบนเวทีว่า แต่ระหว่างประชาชนก็ต้องออกมาแสดงพลังให้มากพอ รัฐบาลจะได้รู้ ก่อนจะถึงวาระ 3 ก็ต้องออกมาพูดเหมือนกัน
       
       สนธิ - นี่ไง ก็เป็นประเด็นรูปการ์ตูนชัดเจนเลย
       
       จินดารัตน์ - ถ้าพี่น้องจำได้ก็คือเราพยายามผลักดันคนที่ยืนแอบอยู่หลังเสาข้างเวทีพวกเรามาโดยตลอดมาเป็นหน่วยหน้า
       
       สนธิ - คนพวกนี้มีศักยภาพสูง อย่าไปประมาทเขา
       
       จินดารัตน์ - เฉลิมรู้ดีมากเรื่องนี้
       
       สนธิ - อย่าไปประมาทเลย ไม่ว่าจะเป็นคุณชวนนท์ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย เทพไท เสนเนียม ออกมาเลย ผมเชื่อเลย ถ้าคุณกาญจนี วัลยะเสวี นำพวกไฮโซแถวสุขุมวิทออกมา ทั้ง ม.ร.ว. ม.ล.อะไรพามาเลย ผมว่านำข้างหน้าเลย มันจะเป็นภาพเดินขบวนที่สง่าผ่าเผยมากถึงจะหิ้วตะกร้าปิกนิกมีแซลมอนอยู่ข้างในก็ไม่เป็นไรมีคนใช้เดินตามก็ได้ อย่ามาเป็นนักเลงคีย์บอร์ด เที่ยวกระแนะกระแหนคุณโน้นนี่นั่นเดินออกไปเลย ผมรับรองว่าจะชนะ
       
       จินดารัตน์ - พวกคุณมีศักยภาพ เราเชื่อ
       
       กมลพร - แต่ตรงเวลานิดหนึ่งนะ ประเภทนัด 7 โมงเช้าแต่ปล่อยคนอื่นถูกล้อมจนถึง 10 โมง แล้วต้องให้พี่อมรไปช่วย แล้วมา 10 โมงกว่ามาถ่ายรูปอันนี้อย่านะ
       
       จินดารัตน์ - อันนี้เพิ่งเริ่มต้นไง อันนี้ได้ทำเต็มศักยภาพ
       
       สนธิ - คือเลิกคิดได้แล้วว่าสนธิจะออก สนธิ แป๊ะลิ้มไม่ออก แป๊ะลิ้มโดนคดีล็อกคอไว้แป๊ะลิ้มไม่ออกหรอก แป๊ะลิ้มเหนื่อยแล้ว และแป๊ะลิ้มเป็นลูกเจ๊กธรรมดา ไม่ได้เป็นสะใภ้ หรือลูกเขยของตระกูลใหญ่โตมโหฬารที่ไหน ถูกไหม ไม่เคยร้องเพลง ประพันธ์ คูณมี มีอยู่วันหนึ่งมาบอกผม บอกว่า พี่ คุณหญิงเขาบอกว่า สุเทพ เขาบอกว่า ถ้าผมจำเป็นต้องมาไหว้สนธิแล้วเลิกกันไป ลืมเรื่องเก่าๆผมจะมา คุณไม่ต้องมาไหว้ผม ไม่มีประโยชน์ ถ้าคุณจะขอโทษคุณขอโทษประชาชนทั้งหมดเลย ว่าคุณทำผิดอะไรไปบ้าง อย่างนั้นถึงคุยกันได้ นี่คือสิ่งที่ประพันธ์ คูณมี พูดนะ ถ้าจะมาเล่นงานหาว่าผมพูด ไปเล่นงานประพันธ์ คูณมี ประพันธ์ คูณมี บอกว่าคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช บอกมา
       
       กมลพร - ของขวัญชิ้นที่ 2
       
       สนธิ - เราต้องให้กำลังใจ สู้ๆ นะ จุ๊บๆ สู้ๆ อย่าถอย
       
       จินดารัตน์ - อย่าท้อนะจ๊ะ
       
       สนธิ - รักนะจ๊ะ จุ๊บๆ ออกเลยๆ อย่าพูดแต่ปาก ไม่ดี เดี๋ยวเขาจะหาว่าพวกคุณเก่งแต่ปาก เก่งแต่บนคีย์บอร์ด ถึงเวลาเดินเลย อย่าหลบ อย่าหลบข้างเสา ใครที่เคยชอบนัก ชอบกัน เป็นพวกเดียวกัน แต่ไม่ยอมโผล่หน้า งวดนี้ต้องโผล่หน้าแล้ว หลังชนกำแพงแล้ว ต้องเอาประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลให้ได้ เพราะประชาธิปัตย์มันเลวน้อยลง เลวน้อยกว่าเท่านั้นเอง
       
       จินดารัตน์ - ถ้าไม่ออกมาเที่ยวนี้เดี๋ยวจะลำบากนะ จะแย่ เพราะว่าเดี๋ยวจะเป็นฝ่ายค้านไปตลอดชีวิต
       
       กมลพร - ไม่เป็นไร ซื้อเครื่องทำน้ำด่าง
       
       จินดารัตน์ - สุขภาพจะได้แข็งแรง
       
       กมลพร - เพราะเราไม่ค่อยมั่นใจว่าเครื่องทำน้ำด่างที่คุณขายอยู่ มี ...
       
       จินดารัตน์ - 8 เพลตเหมือนเราหรือเปล่า
       
       กมลพร - มี 8 เพลตเหมือนเราหรือเปล่า แต่นี่ อ.ปานเทพ บอกแล้วของเรามี 8 เพลต
       
       สนธิ - 8 เพลต ของเราคุณภาพดีกว่าเยอะ
       
       จินดารัตน์ - หายสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงเรียกคุณว่าแมลงสาบ อย่ามัวมุดท่ออย่างเดียวค่ะ ขึ้นมาข้างบนแล้วจะรู้ว่าอากาศข้างบนบริสุทธิ์
       
       สนธิ - บริสุทธิ์
       
       จินดารัตน์ - และน่าเดินนำขนาดไหน
       
       สนธิ - น่าเดินนำ เดินนำไปเลย โธ่ ช่วงนี้ฝนเริ่มตกแล้ว อากาศเย็นสบาย เปียกนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่มันจะชุ่มฉ่ำ
       
       จินดารัตน์ - ให้เตรียมเสื้อกันฝนไว้นิดหนึ่ง อยากได้คำแนะนำอะไร โทรมาถาม เดี๋ยวบอกให้
       
       สนธิ - จริงๆ แล้วคนซึ่งจัดม็อบได้เก่งที่สุดคือพวกเรา และพวกเราพร้อมจะให้คำแนะนำ พร้อมจริงๆ นะ ไม่ได้พูดเล่น ว่าจะตั้งโรงอาหารยังไง จะดูแลความปลอดภัยยังไง และการถ่ายทอดสดนั้นพวกเราชำนาญมาก ทั้งทีนิวส์ ซึ่งบลูสกาย มาถามเด็กของเราได้ว่าใช้วิธีใดถึงจะอยู่ได้ 24 ชั่วโมง ระเบิด เอ็ม-79 ตกมาก็ไม่กังวล
       
       จินดารัตน์ - หลบยังไง
       
       สนธิ - หลบยังไง
       
       กมลพร - เราให้คำปรึกษาวิธีทำส้วมซึมด้วยนะ
       
       สนธิ - มีวิธีทำส้วมได้ เราให้คำปรึกษาได้ เรื่องเงินเรื่องทอง คุณสบายอยู่แล้ว คุณมีเงินมีทอง มีเป็นถุงเป็นถัง ปัดโธ่เอ๊ย
       
       จินดารัตน์ - อย่ากังวล อย่าตัดสินใจนาน
       
       สนธิ - อย่าตัดสินใจนาน
       
       จินดารัตน์ - เดี๋ยวโอกาสมันจะผ่านไป
       
       สนธิ - เออ โอกาสมันจะผ่านไปจริงๆ
       
       จินดารัตน์ - ต้องรอถึงวาระ 3 มันนานเกินไปนะคุณสุเทพ
       
       สนธิ - นานเกินไป ออกเลยดีกว่าคุณสุเทพ อย่าเลย รต้องออกเลย
       
       จินดารัตน์ - เพราะยังไงก็แพ้ รู้อยู่แล้วว่าแพ้
       
       สนธิ - รู้อยู่แล้ว แพ้ ต้องออก แล้วคุณสุเทพก็เป็นคนมีสัจจะอยู่แล้ว เคยพูดอยู่แล้วที่สวนเบญจา ก็น่าจะออกมาเลย ปัดโธ่ผมเชียร์สุดฤทธิ์สุดเดช ผมรับประกันพรรคพวกผมเอเอสทีวีจะเกี่ยวสัญญาณมา เกี่ยวสัญญาณบลูสกายกับทีนิวส์ออก
       
       กมลพร - ออกทุกวัน ไม่เหน็บ
       
       สนธิ - ไม่เหน็บทุกอย่าง เชียร์ทุกวันเลย เผลอๆ ตีกลองให้ด้วยตุ้มๆ
       
       จินดารัตน์ - สัญญา ทำให้อย่างสวยเลย ก็อย่ามัวแต่คิดนานอย่างที่บอกแหละ กล้าๆ กันนิดนึง ใช้ความกล้าหาญนิดเดียวเองเนอะ
       
       กมลพร - นั่นแหละปัจจัยสำคัญ สำคัญที่สุดตรงนั้นแหละ
       
       จินดารัตน์ - สบายใจและ นอนหลับฝันดี
       
       สนธิ - วันนี้นอนหลับ
       
       จินดารัตน์ - ดีใจที่ใส่เสื้อสีฟ้าบ้างเนอะ
       
       กมลพร - ก่อนนอนก็ไปเขียนคำนี้ กล้าเขียนอย่างนี้นะคะ กล้า ไม่ใช้ กลัว
       
       สนธิ - และพวกเชียร์พรรคประชาธิปัตย์อยู่หน้าคีย์บอร์ด เฟซบุ๊กนี่ ถึงเวลาแล้วต้องเปิดตัว อย่ามาเป็นนักเลงหน้าคีย์บอร์ด คุณจะว่าผมขี้ขลาดก็ว่าไป อ่ะผมยอมรับ ผมโดนคดี ผมโดนศาลล็อกอยู่ ผมยังเป็นห่วงพวกนี้ เด็กๆ ยังต้องมาทำให้ปัญญาคนอยู่ ให้ผมทำหน้าที่ผมนี่ เพราะผมลูกเจ๊กอ่ะ ผมเป็นแป๊ะลิ้ม
       
       จินดารัตน์ - สู้ๆ นะตัวเอง
       
       สนธิ - สู้ๆ นะ จุ๊บๆ นะ


ที่มา : Thai E-News
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger