นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร
ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
ทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ทบทวนการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57
เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ใช้งบประมาณ 3,885 ล้านบาทโดยเปล่าประโยชน์ว่าแม้
สตง.จะมีหน้าที่การตรวจสอบการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณของแผ่นดิน
แต่การออกหนังสือของ กกต.ครั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นศิษย์เก่า
สตง.มองว่าผิดที่ผิดทาง เนื่องจากงบประมาณ 3,885 ล้านบาท
ที่ใช้ในการจัดการเลือกตั้ง ก็เป็นผลมาจากพระราชกฤษฎีกา ยุบสภาเมื่อวันที่ 9
ธ.ค.56 ซึ่งต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้นหน้าที่ของ กกต.
คือการดำเนินการอย่างไรให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์มากที่สุด
“สตง.ควรทักท้วง กกต. ว่าทำอย่างไรให้ใช้งบประมาณ 3,885 ล้านบาท ให้มีประสิทธิภาพ และให้สามารถมีสภาผู้แทนราษฎรได้ ไม่ควรแสดงท่าทีในลักษณะขัดขวางกระบวนการทางประชาธิปไตยเช่นนี้ ซึ่งไม่ใช่กิจของ สตง. หากห่วงใยในการใช้จ่ายภาษีของประชาชนจริงก็มีเรื่องอื่นอีกมากมาย ที่ให้ไปตรวจสอบ
[Continue reading...]
สำหรับเหตุผลที่ สตง.แนะนำไปในหนังสือนั้น
ทั้งในเรื่องเมื่อเลือกตั้งแล้วอาจจะต้องมีการยุบสภาโดยเร็วและมีการเลือกตั้งใหม่
ก็แสดงให้เห็นว่า สตง.เข้าใจดีว่าหลังจากเลือกตั้งแล้วจะต้องจัดตั้งรัฐบาล
และสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นอาจจะมีขบวนการปฏิรูปโดยกำหนดระยะเวลาหนึ่ง
เช่นปฏิรูปให้เสร็จภายใน 1 ปี ก่อนยุบสภา และมีการเลือกตั้งใหม่
นั่นหมายถึงว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 อย่างไรก็ต้องเกิด และ
กกต.ก็ต้องทำหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งอยากให้
สตง.เข้าใจตัวบทกฎหมายและบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
รวมไปถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง
แต่เป็นการปลุกระดมก่อม็อบ และแกนนำก็ถูกออกหมายจับในฐานะกบฏ
“สตง.ควรทักท้วง กกต. ว่าทำอย่างไรให้ใช้งบประมาณ 3,885 ล้านบาท ให้มีประสิทธิภาพ และให้สามารถมีสภาผู้แทนราษฎรได้ ไม่ควรแสดงท่าทีในลักษณะขัดขวางกระบวนการทางประชาธิปไตยเช่นนี้ ซึ่งไม่ใช่กิจของ สตง. หากห่วงใยในการใช้จ่ายภาษีของประชาชนจริงก็มีเรื่องอื่นอีกมากมาย ที่ให้ไปตรวจสอบ
จาก : พรรคเพื่อไทย