Friday, September 13, 2013

คอลัมน์ "ประสงค์ สุ่นสิริ" มีกะโหลก ดังกะลา ให้หมาเยี่ยว

- 0 comments
หนังสือพิมพ์แนวหน้า คอลัมน์ น.ต.ประสงค์พูด ประจำวันเสาร์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556 ได้พูดถึง 6 เรื่อง ของ “ระบอบทักษิณ”  เป็นต้นเหตุสำคัญ  นำมาซึ่งความวิกฤติเดือดร้อนแก่บ้านเมืองมากกว่ายุคใดๆที่ผ่านมา

คลิกดูรายละเอียดทั้งหมด จาก นสพ.แนวหน้า

ฟังดูแล้วเป็นระบอบที่น่ากลัว เป็นอย่างมาก

เป็นระบอบเลวร้ายที่สุด

แต่ก็แปลก เป็นที่พออกพอใจ ของคนค่อนประเทศ ร่วม ๆ 20 ล้านคน (เฉพาะคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง) เกือบครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ ทั้งหมด

ตั้งแต่ปี 48 เป็นต้นมาที่ฝ่ายล้มรัฐบาล ไทยรักไทย อ้างถึงเหตุผลเหล่านี้

ช่วงแรก ๆ ก็มีคนเชื่อตามมากพอสมควร

หลังจากผ่านมา 7 ปีเศษ

คำกล่าวหายังเหมือนเดิม

กลุ่มที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทยเก่า จนมาเป็นเพื่อไทย ยังคงเหนียวแน่น

และยังได้สมาชิกมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ก็มาจากฟากฝั่งที่ไม่ชอบ ที่กลัวระบอบทักษิณ

ถ้าเลวร้ายอย่างที่พูดจริง

กลุ่มคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย

คงไม่ลุกลามไปถึงภาคใต้ กลุ่มที่นับว่าต่อต้านระบอบทักษิณมากที่สุด

นั่นเพราะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

ว่าในความเป็นจริงแล้ว

เป็นเพียงข้อกล่าวหาเท่านั้น

เอาเข้าจริง คำว่า  "กะโหลกกะลา" น่าจะเป็นของผู้พูดเอง







[Continue reading...]

นายกใส่เสื้อสีตก "ฟังไม่ได้ศัพท์" จับไปกระเดียด

- 0 comments
มีข่าวแพร่กระจายในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการแต่งตัวของ นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะในการเดินทาง ไปเยือนเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทางไปเยือนทวีปยุโรป

ซึ่งในเพจ   Yingluck Shinawatra ได้โพสข้อความ "ตอนนี้เดินทางถึงนครมิลาน มีโอกาสใส่เสื้อที่ตัดมาจากผ้าไหมของศูนย์ศิลปาชีพ ที่โดนน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ทำให้ผ้าสีอื่นตกใส่จนเกิดเป็นลายผ้าแบบใหม่ที่ใส่มาในวันนี้ค่ะ"

คลิกอ่านรายละเอียดของข่าวทั้งหมด จากโพสทูเดย์

จากการโพส ข้อความดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ ทั้งในแง่ บวก และแง่ลบ เนื่องจากนายกฯยิ่งลักษณ์ ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่มีรสนิยมในการแต่งกายทีดี

บ้างก็ว่าสวย บ้างก็บอกว่าทำให้เสียภาพลักษณ์ ที่คนระดับยานกรัฐมนตรีใส่เสื้อผ้าเก่า

โดยมากเวลาอ่านหนังสือจะกวาดตามองโดยไม่ได้นึกถึงความหมายของข้อความเหล่านั้นอย่างถ่องแท้

ย้อนดูความหมาย จากข้อความดังกล่าว คือ ผ้าไหมที่ท่านนายกใส่ เป็นผ้าจากศูนย์ศิลปาชีพที่ถูกน้ำท่วม ปี 54 ความหมายก็คือ เป็นผ้าทั้งผืน ที่อยู่รวมกับผ้าสีอื่น เมื่อถูกน้ำสีเลยตกใส่

การที่ผ้าถูกสีตกใส่เลยเกิดเป็นลายผ้าขึ้นมาใหม่จากเดิม

นั่นหมายถึง เป็นผ้าทั้งผืน ที่ยังไม่ได้นำมาตัดเป็นตัวเสื้อ 

นายกยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเก่า

แต่ผ่านการดีไซด์ ผ่านการออกแบบ  ถ้าดูจากตัวเสื้อ นำส่วนที่เป็นสีตกใส่ ไว้ตรงกระเป๋า และให้รับกับสีตกที่แขนเสื้ออีกข้างหนึ่ง

รู้จักเอาของที่เสียมาให้เป็นประโยชน์  ทำให้เกิดมูลค่า

นี่คือการนำสินค้าในประเทศไปนำเสนอผ่านสายตาของชาวโลก อย่างชาญฉลาดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย

คนโง่คิดอย่างนี้ไม่เป็น

และคน ๆ นั้นคงไม่ใช่คนที่ชื่อว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร


[Continue reading...]

คลิป ชูวิทย์บุกเดี่ยวบ่อนกิ่งเพชร จนถูกเจ้าหน้าที่ฟ้องหมิ่นประมาท

- 0 comments
วันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสข้อความลงเฟส ชูวิทย์ I'm No.5 ว่า วันนี้ "ศาลอุทธรณ์" ได้พิจารณา "ยกฟ้อง" คดี พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ อดีตผู้การฯ น.1 ฟ้องผม ข้อหา "หมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน" จากเหตุการณ์ "บ่อนกิ่งเพชร"

คลิกดูคลิปชูวิทย์บุกเดี่ยวบ่อนกิ่งเพชร

ขณะนั้น ผมไปที่ ถ.เพชรบุรี ซอย 5 ย่านกิ่งเพชร ตาม "เรื่องร้องเรียน" ของอาจารย์ท่านหนึ่ง ว่ามี "บ่อนการพนัน" ในซอยดังกล่าว ผมโทรหา "บิ๊กแจ๊ส" (พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.) เพื่อขอให้ส่ง "ตำรวจ" มาตรวจสอบ ก่อนหน้า ผมส่ง "สายลับ" ปลอมตัวเป็นผู้เล่น ถ่าย "คลิป" เป็นหลักฐานเอาไว้ มั่นใจว่ามีการ "ปล่อยปละ ละเลย ให้มีลักลอบเล่นการพนัน" หากเป็นงานบวชงานศพ คนเล่นน้อยยังพอว่า แต่เล่นกันเป็นร้อยคน ตำรวจทำเป็น "ไม่รู้ไม่เห็น" คงไม่ได้

ผมรอตำรวจอยู่ "หนึ่งชั่วโมง" ไม่มีใครมา อย่างที่เขาว่าไว้ "พิซซ่ามาเร็วกว่าตำรวจ ด่านตรวจมีมากกว่าเซเว่น" ทั้งๆที่ สน.พญาไท และ บชน. อยู่ไม่ห่างบริเวณนั้น

ผมไปคนเดียว ลุยเดี่ยวเข้าซอย พบนักเลงคุมบ่อนจำนวนมาก "ล้อมหน้าล้อมหลัง" ไม่ให้เข้าไป ส่วนประชาชน คนสัญจร พ่อค้าแม่ขายก็มีไม่น้อย ที่ยืนรอเป็น "ไทยมุง" ร่วมกับผม 

จนแล้วจนรอด ไม่มีใครมา ในที่สุด พล.ต.ต.พชรฯ ผู้การฯน.1 มาถึง หลังเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง 

นึกในใจ "คราวนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นจะๆ" เพราะมีผู้สื่อข่าวทีวี หนังสือพิมพ์ อยู่เป็นจำนวนมาก

แต่ผู้การฯ อ้างเหตุ "หากผมอยู่ต่อ อาจเกิดอันตราย" ขอให้ผมออกจากซอยนี้ ในเมื่อผมรอตำรวจเป็นชั่วโมง ยังไม่มีแม้ "รอยแมวข่วน" แล้วจู่ๆจะให้ผมกลับได้อย่างไร? (เหตุการณ์หลังจากนั้นปรากฎอยู่ในคลิป) 

ต่อมา ผู้การฯพชร "ตั้งโต๊ะแถลงข่าว" ฟ้องผมข้อหา "หมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน" ผมรับหมายศาล ขึ้น "ซักค้าน" ด้วยตัวเอง โดยไม่ได้ใช้ทนาย 

ศาลชั้นต้น "ยกฟ้อง" และวันนี้ ศาลอุทธรณ์เห็นด้วยกับศาลชั้นต้น "ยกฟ้อง" เนื่องจากไม่มีมูล

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่
เพจ ชูวิทย์ I'm No.5
[Continue reading...]

สวนดุสิตโพล 10 รูปแบบที่ปชช.รับไม่ได้ ทะเลาะในสภามาแรงมาเป็นอันดับ 1

- 0 comments
สวนดุสิตโพล เผย 10 อันดับเกมการเมืองที่คนไทยรับไม่ได้ อันดับต้นทะเลาะในสภา-นำมวลชนประท้วง-มุ่งหวังเอาชนะ

คลิกดูผลสำรวจที่นี่

12 ก.ย.56 สวนดุสิตโพล ได้เผยแพร่ผลสำรวจหัวข้อ "เกมการเมืองแบบไหน ที่คนไทยรับไม่ได้" โดยสำรวจจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,288 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน 2556 สรุปผลดังนี้

อันดับ 1 การทะเลาะเบาะแว้งกันในสภา 88.89% เพราะสภาเป็นสถานที่อันทรงเกียรติที่ทุกคนควรเคารพ รู้สึกเอือมระอาและหมดศรัทธาในตัวนักการเมือง ฯลฯ

อันดับ 2 การนำกำลังมวลชนมาใช้ในการเคลื่อนไหว ชุมนุม ประท้วง 66.98% เพราะ ประชาชนที่มาเข้าร่วมเป็นผู้บริสุทธิ์ที่อาจได้รับความเดือดร้อน แต่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ฯลฯ

อันดับ 3 การมุ่งหวังเอาชนะเพียงอย่างเดียว ดันทุรัง แข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย 62.64% เพราะเป็นการทำเพื่อเอื้อประโยชน์ของฝ่ายตนเองโดยไม่สนใจประชาชน การเมืองปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้น ฯลฯ

อันดับ 4 การใส่ร้ายป้ายสี สาดโคลนเข้าหากัน 58.67% เพราะ เป็นการกระทำที่สกปรก ไม่มีเกียรติและศักดิ์ศรี มุ่งหวังแต่การเอาชนะเพียงอย่างเดียว ฯลฯ

อันดับ 5 เล่นพรรคเล่นพวก แทรกแซงการทำงาน 55.47% เพราะเป็นพฤติกรรมของนักการเมืองที่มีมานาน แก้ไขยาก ทำให้บ้านเมืองไม่พัฒนา ฯลฯ

อันดับ 6 การทุจริต โกงการเลือกตั้ง 53.83% เพราะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวมุ่งหวังแต่อำนาจและผลประโยชน์ เสียงบประมาณจำนวนมาก ฯลฯ
อันดับ 7 นำเรื่องงบประมาณต่างๆ มาโยงกับการทุจริตคอรัปชั่น 48.37% เพราะเงินต่างๆที่นำมาใช้ส่วนหนึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนและอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้ที่ทุกคนต้องเป็นหนี้ ฯลฯ

อันดับ 8 การกุข่าว ปล่อยข่าวเพื่อสร้างกระแส 45.89% เพราะทำให้สังคมวุ่นวาย ประชาชนสับสน อาศัยช่องทางจากสื่อต่างๆอย่างไม่สร้างสรรค์ ฯลฯ

อันดับ 9 ใช้เรื่องความสามัคคีปรองดองมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง 43.41% เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเทศชาติและคนไทยทุกคน อารมณ์ ความรู้สึกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ฯลฯ

อันดับ 10 อยู่เฉยๆ ไม่ให้ความร่วมมือ ใส่เกียร์ว่าง 41.34% เพราะทำให้การทำงานหยุดชะงัก บ้านเมืองไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้เพราะขาดกำลังคน ฯลฯ
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger