Friday, July 12, 2013

สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ มือโพสต์พิษข้าวถุง

- 1 comments

กระเทือนวงการข้าวไทย เมื่อ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ดำเนินรายการ คนค้นฅน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก

อ้างมีข้าวสารบางยี่ห้อมีสารพิษตกค้าง พิษร้ายแรงขนาดทำให้หนูตายภายใน 5 นาที

ส่งผลให้บิ๊กบริษัทข้าวถุงยื่นฟ้องร้องหมิ่นประมาท

เจ้าตัวยืนยันไม่มีเจตนาเรื่องการเมืองหรือดิสเครดิตผู้ประกอบการใดๆ

แต่เป็นห่วงสุขภาพคนไทย

ย้ำว่าเป็นข้อมูลที่ส่งต่อกันมาทางไลน์ เผลอมือไปกดโพสต์

ชื่อเล่น เช็ค เกิด 28 ธ.ค. 2505 ที่จ.ชุมพร

ปริญญาตรีคณะศึกษาศาสตร์ มหา วิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

ได้ทุนโรงเรียนการแสดงสหมงคลฟิล์ม

ทำงานในฐานะนักแสดง ผู้จัดฉากและผู้ช่วยผู้กำกับละครเวทีเรื่องต่างๆ อาทิ สู่ฝันอันสูงสุด, หลังคาแดง

ปี 2532 เขียนบทและกำกับการแสดงละครเวทีเรื่องวิญญาณอลเวง

ทำงานกับบริษัท เจเอสแอล จำกัด ในตำแหน่งครีเอทีฟ ร่วมเขียนบทให้ราย การเกมโชว์

ขึ้นเป็นโปรดิวเซอร์ควบคุมการผลิตรายการ เจาะใจ, สัญญามหาชน

ก่อตั้งบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ในปี 2545 ผลิตรายการ สู้แล้วรวย

ร่วมหุ้นกับเจเอสแอล ผลิตรายการ คนค้นฅน ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ และพิธีกร

รายการประสบความสำเร็จมาก ได้รางวัลผู้ดำเนินรายการดีเด่น รางวัลโทรทัศน์ทองคำประจำปี 2546

เป็นนักเขียนเรื่องสั้น และเจ้าของนิตยสารในเครือทีวีบูรพา

โพสต์เรื่องข้าวจนกระทบเกิดความ ปั่นป่วน เสียหายกับข้าวไทย

ทั้งโรงสี บริษัทข้าวถุงที่ได้รับผลกระทบแจ้งจับและดำเนินคดีแล้ว     

ที่มา : ข่าวสด           
[Continue reading...]

"มาร์ค" ถามย้ำ "นายกปู" ควบกลาโหมเพื่ออะไร

- 0 comments

"อภิสิทธิ์" ถาม "ยิ่งลักษณ์" เป้าหมายนั่ง กห.คืออะไร

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 56 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้ากระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ว่า ขณะนี้มีประเด็นว่าการมาดำรงตำแหน่งครั้งนี้เป้าหมายคืออะไร ซึ่งการแถลงข่าวก็ไม่แตกต่างจากที่คาดการณ์ และยังไม่ได้ให้คำตอบอะไรหลายอย่างที่หลายคนอยากทราบ
ในขณะเดียวกัน นายชวนหลีกภัยได้กล่าวถึงการ "ควบกลาโหม"  ที่สมัยตนเองดำรงตำแหน่งในการการทอร์คโชว์ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ที่โรงหนังสกาล่าว่า "การควบตำแหน่งดังกล่าวไม่ได้เข้าไปเพื่อความโก้ แต่เข้าไปดูเรื่องงบประมาณที่กองทัพต้องใช้ในภารกิจต่างๆ อีกทั้งยังดูเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงกลาโหมให้เป็นไปอย่างเหมาะสม"

นายอภิสิทธิ์ น่าจะถามจากนายชวนมากกว่า..แต่สมัยนั้น ไม่เห็นนายอภิสิทธิ์ สงสัย
[Continue reading...]

โฆษกศาลฯ "ออกตัวแทน" ผู้พิพากษาป่วน "บช.น." แจงเครียดส่วนตัวอย่าโยงสีเสื้อ

- 0 comments
 
นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม ผู้เขียนบทความ “อากงปลงไม่ตก” แจงผู้พิพากษาป่วน "บช.น." เครียดส่วนตัว อย่าโยงลากขัดแย้งเรื่องสีเสื้อ วอนขอความเป็นธรรม
12 ก.ค.56 นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกาและโฆษกศาลยุติธรรม เผยถึงกรณีที่ น.ส.ชิดชนก แผ่นสุวรรณ ผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ช่วยทำงานชั่วคราวผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ บุกกองบัญชาการตำรวจนครบาลก่อเหตุปาข้าวไข่เจียวและน้ำปลาพริกใส่รถประจำตำแหน่งของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น พร้อมด่าทอการทำงานของตำรวจว่าการกระทำของ น.ส.ชิดชนก ในครั้งนี้ น่าจะมาจากความเครียดส่วนตัว จนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจอดรถกีดขวางทางจราจร และขับรถสวนทาง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน จนทำให้คณะกรรมการข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบการกระทำผิดและพิจารณาลงโทษทางวินัย ต่อมาพบว่า น.ส.ชิดชนก มีความเครียดสูงจนไม่สามารถอยู่ในภาวะที่ควบคุมตนเองได้
นายสิทธิศักดิ์ กล่าวต่อด้วยว่า การจะพิจารณาโทษว่าผิดวินัยหรือไม่ ผู้กระทำผิดจะต้องมี สติสัมปชัญญะครบถ้วน จึงได้พิจารณาให้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของศาลยุติธรรมที่ไม่ต้องปฏิบัติ หน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีและติดต่อกับประชาชน รวมทั้งเข้ารับการรักษาอาการดังกล่าว
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เชื่อว่า น.ส.ชิดชนก อาจจะไม่สามารถควบคุมตนเอง จึงได้แสดงออกไปโดยไม่เหมาะสม จึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้ น.ส.ชิดชนก ด้วย โดยไม่อยากให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องสีของฝ่ายต่าง ๆ แต่กรณีของ น.ส. ชิดชนก ยังน่าจะเป็นเพียงการทำอะไรลงไปโดยเข้าใจว่าหลงผิด เนื่องจากมีอาการเครียดจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมจะต้องแจ้งหารือเจ้าหน้าที่เพื่ออธิบาย โดยหวังว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเข้าใจ
ทั้งนี้ นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ ในฐานะโฆษกศาลฯ เคยเขียนบทความหลังคำพิพากษา “อากง SMS” หรือ นายอำพล (ขอสงวนนามสกุล) จำเลยอายุ 61 ปี ข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นแสดง ความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์พระราชินีฯ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550  มาตรา 14(2)(3) เมื่อวันที่ 23 พ.ย.54 ในบทความชื่อว่า อากงปลงไม่ตก เพื่ออธิบายถึงความชอบธรรมในการตัดสินจำคุกนายอำพล ถึง 20 ปี พร้อมไม่ให้สิทธิในการลดโทษ ปล่อยตัวไป หรือได้รับการประกันตัว ว่า
“สำหรับบุคคลที่เจนโลก โชกโชน สันดานเป็นโจรผู้ร้าย มีเจตนาทำร้ายสังคมสถาบันหลักของประเทศชาติและองค์พระประมุข อันเป็นที่เคารพสักการะของคนในชาติให้เกิดความหลงผิดก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ผู้เขียนเชื่อว่า ไม่มีใครอยากให้คนเช่นนี้ลอยนวลอยู่ในสังคมเพื่อสร้างความเสียหายต่อเนื่อง หรือแก่ผู้อื่นอีก เพราะสักวันคนใกล้ตัวของคนเหล่านี้อาจตกเป็นเหยื่อด้วยก็ได้ มาตรการที่เหมาะสมจึงควรตัดโอกาสในการกระทำผิด ลงโทษให้หลาบจำสาสมไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ที่กระทำความผิดคิดวางแผนไตร่ตรองในการกระทำความผิด อย่างแยบยลแนบเนียนด้วยแล้ว ก็ยิ่งสมควรใช้วิธีการที่เหมาะสม ในการคุ้มครองรักษาความสงบสุขของประเทศชาติและประชาชนด้วย จึงไม่แน่แท้เสมอไปว่าชราชน ที่กระทำความผิดจะต้องได้รับการลดโทษ ลงโทษน้อย หรือปล่อยตัวไปเสมอไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อหาความผิด ความเสียหายและพฤติการณ์การกระทำแต่ละคดีที่ต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป” 
ที่มา  : ประชาไทย
[Continue reading...]

มท.1 แจง “สุขุมพันธุ์” งบน้ำ 3.5 แสนล้านเป็นงบพิเศษแบ่งกทม.ไม่ได้

- 0 comments


มท.1” แจง “สุขุมพันธุ์” งบน้ำ 3.5 แสนล้านเป็นงบพิเศษ แบ่งกทม.ป้องน้ำท่วมไม่ได้ แนะ อยากได้เงินให้สำนักระบายน้ำเสนอโครงการมา
 
วันนี้ (12 ก.ค.)ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมกระทรวงมหาดไทยประจำเดือนก.ค.2556 พร้อมด้วยนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย  ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย โดยมีการถ่ายถอดผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผวจ.ทั่วประเทศด้วย
 
โดยนายจารุพงศ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตามที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้โพสเฟซบุ๊กของบประมาณในเงินกู้3.5แสนล้านบาท เพื่อดำเนินการวางแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กกทม.นั้น รัฐบาลไม่ได้มีแผนป้องกันน้ำท่วมในกทม. แต่รัฐบาลได้มอบหมายภารกิจให้กทม. ต้องระบายน้ำจากต้นน้ำลงทะเล ในปริมาณ 375ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  จึงได้ของบ 22,000 ล้านบาท ของโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการจัดสรรนั้น

"ผมขอฝากผู้แทนของกทม.ที่เข้าร่วมประชุม ไปแจ้งผู้ว่าฯกทม.ให้เข้าใจว่า เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เป็นงบพิเศษ ไม่ใช่เงินงบประมาณ จึงถือเป็นคนละส่วนกัน ไม่สามารถดำเนินการจัดงบประมาณให้กทม.ได้ หาก กทม. ต้องการงบมาบริหารจัดการน้ำของตัวเอง ก็ให้สำนักการระบายน้ำเสนอแผนโครงการมายังกระทรวงมหาดไทยว่าจะนำเงินไปใช้ทำโครงการป้องกันน้ำท่วมอย่างไรบ้าง"รมว.มหาดไทย กล่าว

ที่มา: เดลินิวส์

[Continue reading...]

ศาลจ่อออกหมายเรียก"ไชยวัฒน์"หลังม็อบปิดล้อมกลาโหม หมิ่นเหม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขประกันคดีชุมนุม พธม.ปิดสนามบินก่อความวุ่นวาย

- 0 comments

 

ศาลอาญา จ่อเรียก “ไชยวัฒน์” ไต่สวนถอนประกัน 29 ก.ค. นี้ เหตุปิดล้อมกระทรวงกลาโหม ด้านกลุ่มกวป.ยื่นหนังสือ จี้ถามบรรทัดศาลตัดสินคดี “ทักษิณ-อมเรศ” ระบุ สร้างความแตกแยกให้ประชาชน  

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ก.ค. นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา  กล่าวถึงกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดิน และจำเลยคดีปิดล้อมสนามบินฯ นำกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 300 คน ชุมนุมบริเวณด้านหน้ากระทรวงกลาโหม เพื่อปิดล้อม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ไม่ให้เข้าไปภายในกระทรวงกลาโหมเพื่อเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนได้ติดตามข่าวจากทางสื่อมวลชนทราบว่า นายไชยวัฒน์ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมที่บริเวณกระทรวงกลาโหมทุกด้าน เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นเข้าออกได้ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเกินเลยที่ควรจะเป็น หมิ่นเหม่และอาจจะผิดเงื่อนไขการประกันตัวของศาล เนื่องจากนายไชยวัฒน์เป็นจำเลยในคดีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง เมื่อปี 2551 ซึ่งศาลได้กำชับเงื่อนไขว่าไม่ให้ปลุกระดมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยตนได้ปรึกษากับองค์คณะแล้ว ศาลสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่  ในวันนี้ตนจึงให้องค์คณะออกหมายเรียกนายไชยวัฒน์ เพื่อให้มาไต่สวนต่อหน้าศาลว่าได้กระทำการดังกล่าวจริงหรือไม่

นายทวี กล่าวอีกว่า หากศาลไต่สวนแล้วพบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง นายไชยวัฒน์  ก็จะถือว่าผิดเงื่อนไขประกันตัวอย่างชัดเจน  แต่หากเป็นกรณีที่นายไชยวัฒน์ ชุมนุมที่สนามหลวง หรือถือป้ายประท้วงอย่างเดียว ศาลก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะว่าไม่ปรากฏข่าวที่ทำให้เกิดความเสียหาย  แต่ถ้านายไชยวัฒน์ให้การปฏิเสธ ศาลก็จะต้องไต่สวนลงลึกไปในรายละเอียดอีกครั้ง โดยอาจจะพิจารณาถึงพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งต่อไป อย่างไรก็ตาม หากนายไชยวัฒน์ ไม่ยอมมาศาลตามหมายเรียก ก็จะต้องมีเหตุผลที่สมควร แต่ไม่ว่าจะมีเหตุผลอย่างไรนายไชยวัฒน์ ก็จะต้องมาให้ศาลไต่สวนการถอนประกัน เพราะหากไม่มาก็จะถือว่าเป็นการเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล
             

“คดีเกี่ยวกับความมั่นคง ก่อการร้าย การยุยงปลุกปั่นฯ ศาลได้กำหนดเงื่อนไขการประกันตัวจำเลยทุกราย เพื่อไม่ให้จำเลยกระทำการหรือมีพฤติการณ์ทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในคำฟ้องของจำเลย ไม่ว่าจะเป็นคดีเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงก็ไม่แตกต่างกัน หากมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดเงื่อนไขประกันตัวก็คงต้องเรียกมาไต่สวนตามบรรทัดฐานเดียวกัน  ซึ่งศาลได้วางเงื่อนไขไว้เพื่อไม่ให้จำเลยกระทำผิดซ้ำอีก และเพื่อให้เกิดความสงบในบ้านเมือง” อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าว
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหมายเรียกนายไชยวัฒน์ คาดว่าองค์คณะผู้พิพากษาจะออกหมายเรียกในสัปดาห์หน้าให้นายไชยวัฒน์ มารายงานตัวและไต่สวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่29 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลอาญาได้นัดตรวจพยานหลักฐานและสอบคำให้การจำเลยคดีบุกรุกสนามบิน โดยมีจำเลยคนสำคัญที่จะเดินทางมาศาลหลายคน อาทิ  นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง รวมถึงนายไชยวัฒน์  โดยเบื้องต้นก่อนที่จะมีการสอบคำให้การเชื่อว่าองค์คณะผู้พิพากษาจะเรียกนายไชยวัฒน์มาสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่นายไชยวัฒน์พาผู้ชุมนุมไปปิดล้อมกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นวันที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ เดินทางเข้ามาทำงานที่กระทรวงกลาโหมเป็นวันแรก
 

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) พร้อมแนวร่วมกว่า 50 คน เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ขอให้ชี้แจงการตัดสินคดีของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานเป็นนายกฯ แต่เซ็นชื่อรับรองให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ อดีตภรรยา ร่วมประมูลซื้อที่ดินรัชดา และกรณีของนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) และอดีตรมช.พาณิชย์ กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ กรณีขายไฟแนนซ์เน่าให้กับต่างชาติราคาถูก ทำให้เกิดความเสียหายกับภาษีอากรถึง 6 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ โดย 2 กรณีดังกล่าวสร้างความสับสนให้กับประชาชน จนเกิดความแตกแยกและถูกหยิบยกมาเป็นข้ออ้างสร้างสถานการณ์  จึงขอให้ศาลชี้แจงถึงบรรทัดฐานในการตัดสินคดี เพื่อยุติความขัดแย้งแตกแยกของประชาชนส่วนรวม ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มกวป.ได้ยื่นหนังสือต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และกระทรวงยุติธรรมมาแล้ว.


ที่มา : เดลินิวส์



[Continue reading...]

สาวใหญ่บุกบช.น.ปาข้าวกล่องใส่รถบิ๊กแจ๊ด

- 0 comments





 
สาวใหญ่ขับรถบุก บช.น.ก่อนปาข้าวกล่องใส่รถ"คำรณวิทย์" พร้อมตะโกนด่า ก่อนขับหลบหนีไป พบเป็นผู้พิพากษาเคยจอดรถขวางถนน

เมื่อเวลา 14.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้หญิงอายุประมาณ 40 กว่าปี สวมเสื้อคอยืดคอกลมสีเหลือง กางเกงยีนขาสั้นสีฟ้าใส่หมวกและแว่นตากันแดดขับรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ญช 9691 กรุงเทพมหานคร เข้าบริเวณหน้าอาคารกองบัญชาการจำรวจนครบาล (บช.น.) จากนั้นได้ลงจากรถนำกล่องโฟมใส่ข้าวไข่เจียวและน้ำปลาพริกปาใส่รถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ รถประจำตำแหน่งของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมทั้งด่าทอการทำงานของตำรวจและพล.ต.ท.คำรณวิทย์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำการอยู่ราว 10 นายได้เข้ามาระงับเหตุการณ์โดยนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณหน้ารถยนต์ของหญิงคนดังกล่าวและกำลังปิดประตูเหล็กหน้าบช.น. หญิงคนดังกล่าวได้ขึ้นรถและขับชนและทับรั้วเหล็กก่อนเลี้ยวออกถนนศรีอยุธยามุ่งหน้าไปทางเทเวศน์ จากนั้นได้กลับรถย้อนกลับไปทางด้านพญาไท
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการที่บช.น.รายงานด้วยว่า หญิงคนดังกล่าวเคยมาจอดรถ และยืนด่าทอตำรวจเมื่อตอนค่ำวันที่ 11 ก.ค. ก่อนจะประกาศว่าจะกลับมาอีก จากการตรวจสอบทะเบียนรถทราบชื่อ น.ส.ชิดชนก แผ่นสุวรรณ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ซอยพหลโยธิน 69 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. โดยน.ส.ชิดชนก เคยใช้รถคันดังกล่าวจอดขวางถนนพหลโยธินขาออก ใกล้ตลาดยิ่งเจริญ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.55 ทำให้การจราจรติดขัดโดยน.ส.ชิดชนก นั่งอยู่ในรถไม่ยอมพูดจาจนตำรวจสน.บางเขน ต้องยกรถคันดังกล่าวพร้อมเจ้าตัวไปเปรียบเทียบปรับที่สน.บางเขน เบื้องต้นน.ส.ชิดชนก เป็นผู้พิพากษาศาลแห่งหนึ่ง


ที่มา : โพสทูเดย์
[Continue reading...]

กมธ.ส.ว. "ชง" ผู้ตรวจการแผ่นดิน-ศาลปค."ล้ม เมกะฯน้ำ 3.5 แสนล้าน"

- 0 comments

ดาหน้ากันออกมาเป็นระลอกในการคัดค้านโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ขนาดยังไม่เริ่มโครงการ คนกลุ่มนี้ เก่ง "ดุจเทวดา" สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า "ส่อ" โกง

รับช่วงไม้ต่อ จากกลุ่มสมาคม ต่อต้านสภาวะโลกร้อน ประชาธิปัตย์ ที่ส่งต่อให้ศาลปกครองสกัด  ไม้ต่อไปคือผู้ตรวจการฯ

องค์กรเหล่านี้ ออกมาขัดขวางการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะ

ถ้าหากมีน้ำท่วม ขณะที่โครงการ "น้ำ" ถูกเตะสกัดอยู่แบบนี้ ใครจะรับผิดชอบ

จะมาตะโกนว่ารัฐบาลไม่หาทางป้องกันไม่ได้...เขาจะทำ..แต่เจอ...หลายฝูงคอยขัดขวาง

ประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร

ต่อไปก็คงจะเป็น โรงการพัฒนาการขนส่ง 2 ล้านล้าน...ที่จะจ้องกระโดออกมาขวางอีก

เนื้อข่าวจาก ไทยรัฐ

กมธ.สอบทุจริตฯ ส.ว. ชงผู้ตรวจฯ ฟ้องศาลปค. ล้มเมกะ พ.ร.ก.น้ำ 3.5 แสนล้าน เหตุ ส่อขัด รธน.และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เหตุโครงการ ไม่มีราคากลาง

วันที่ 11 ก.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงว่าจากการที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่า การดำเนินโครงการไม่มีการประกาศราคากลางตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และการทำสัญญาเงินกู้เงิน กับ ธนาคาร ภายหลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ระงับ โครงการเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง ก็อาจจะขัดกับ พ.ร.ก. ดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ การเบิกจ่ายเงินตาม พ.ร.ก. ก่อนหน้านี้ พบว่า มีจำนวนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยนำใช้ไปศึกษาวิจัยพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการก่อสร้างของโครงการ ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า จะทำจดหมายถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อฟ้องต่อศาลปกครอง ให้เพิกถอนโครงการก่อสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำ ตามพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 จำนวน 3.5 แสนล้านบาท ทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหาย แต่หากผู้ตรวจการแผ่นดิน ล่าช้า คณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาส่งเรื่องไปยังศาลปกครองโดยตรง

ด้าน พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ จะมีการยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรมด้วย เนื่องจากพฤติการณ์ดังกล่าว อาจเข้าข่ายละเมิดประมวลจริยธรรมของข้าราชการ ประจำและข้าราชการการเมือง ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถดำเนินการได้
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger