Tuesday, August 6, 2013

วาทะกรรม "พาคนไปตาย"

- 0 comments
เห็น สส.พรรคประชาธิปัตย์ นำขบวนประชาชนเดินทางไปรัญสภา ทำให้นึกถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในปี 2535

สมัยนั้นผู้ที่นำการชุมนุม คือนายจำลอง ศรีเมือง คืนวันที่ 17 พฤษภาคม  2535 ขณะที่มีการเคลื่อนขบวนประชาชนจากสนามหลวงไปยังถนนราชดำเนินกลางเพื่อไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาลไปยังทำเนียบรัฐบาล เริ่มเกิดการปะทะกันระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในบางจุด และมีการบุกเผาสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง จากนั้นเมื่อเข้าสู่วันที่ 18 พฤษภาคม รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพมหานครและให้ทหารทำหน้าที่รักษาความสงบ แต่ได้นำไปสู่การปะทะกันกับประชาชน มีการใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมในบริเวณถนนราชดำเนินจากนั้นจึงเข้าสลายการชุมนุมในเข้ามืดวันเดียวกันนั้น ตามหลักฐานที่ปรากฏมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน

เวลา 15.30 นาฬิกา ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2535 ทหารได้ควบคุมตัวพลตรีจำลอง ศรีเมือง จากบริเวณที่ชุมนุมกลางถนนราชดำเนินกลาง และรัฐบาลได้ออกแถลงการณ์หลายฉบับและรายงานข่าวทางโทรทัศน์ของรัฐบาลทุกช่องยืนยันว่าไม่มีการเสียชีวิตของประชาชน แต่การชุมนุมต่อต้านของประชาชนยังไม่สิ้นสุด (จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)

ที่ยกเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่ว่า จะมีเหตุการณ์อะไรที่ร้ายแรง แต่ การใช้มวลชน เป็นเกราะคุ้มกัน เป็นเรื่องที่น่าคิด

และเป้าหมาที่ชัดเจน ถ้าฟังจากการพูดของคนระดับแกนนำ เช่นนายนิพิฏฐ์ จะล้มรัฐบาลให้ได้ แต่ไม่สามารถ บอกวิธีการได้ เพราะถ้าพูด ตำรวจจะจับ  คือต้องการให้เกิดเหตุการวุ่นวายในบ้านเมือง ทั้งในและนอกสภา

นี่คือ วิธีการที่ ประชาธิปัตย์ ต้องการให้เกิด หากมีการกระทบกระทั่งกันระหว่าง มวลชน กับเจ้าหน้าที่ ไปสู่สิ่งที่ประชาธิปัตย์ ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยวิธีพิเศษ

และและเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง ๆ ประชาธิปัตย์ จะทำตัวอย่าง พลตรีจำลองหรือไม่ คือให้เด็ก และผู้หญิงเป็นเกราะกำบัง หรือไม่

ถ้าเกิดประชาชนทำผิด กฏหมาย พ.ร.บ. ความมั่นคงจริง ๆ  ประชาธิปัตย์ จะช่วยเหลือประชาชนอย่างไร เมื่อไม่ต้องการ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตัว สส. รอดเพราะมีเอกสิทธิ์ คุ้มครอง แต่ประชาชนไม่มี ถึงเวลา จะถีบหัวส่ง อย่างที่เคยกระทำอย่าง กลุ่มพันธมิตร

กล่าวโจมตี ว่ารัฐบาลเสนอ พ.ร.บ. นิรโทษ เหมือนว่า จะให้ปรองดอง แต่ทำไมต้องประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคง  และ นายสุเทพ ประกาศว่า ถ้ามีประชาชน เสียชีวิต แม้เพียง 1 คน รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ทั้ง ๆ ที่สมัย นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศใช้ พ.ร.บ.นี้ ถึง 18 ครั้ง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเหตุการอะไรเกิดขึ้น เช่น ที่หัวหิน ภูเก็ต  ในขณะเดียวกัน ถึงขั้นประกาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง จนมีคนบาดเจ็บล้มตาย แต่ไม่เห็น นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ยืดคออกมารับผิดชอบ ซักคนเดียว

ประชาธิปัตย์ อ้างว่าปัญหา เกิดจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าจะนิรโทษให้กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ทั้ง ๆ ที่ดูในเนื้อหา กลับไม่ได้ระบุเช่นนั้น แม้กระทั่ง ผู้เสนอร่าง และแกนนำ พรรคเพื่อไทย ก็ยืนยันชัดเจน ว่าไม่มี นิโทษเพียง ประชาชนที่ร่วม ชุมนุม เท่านั้น

แต่คำถาม คือ เพราะอะไร และเหตุใด ที่ประชาธิปัตย์ ดูเป็นเดือดเป็นแค้น กับการเสนอ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ถึงขนาดที่ต้องทุ่มเทสรรพกำลัง กันทั้งพรรค

ถึงขั้นพูดจา สร้างความเท็จ ใส่ร้ายป้ายสี จุดมุ่งหมายก็เพื่อสร้างความชอบธรรม ในการเคลื่อนไหว ของ ตัวเอง พูด กันอย่างหน้าตาเฉย แบบไม่อาย

การเอาชนะ กันโดยไม่เลือกวิธี เป็นสิ่งที่ พรรคประชาธิปัตย์ ใช้มาตลอด

ทำกันจนไม่นึกถึงภาพรวมของประเทศ ว่าจะเป็นอย่างไร

การโหมกระหน่ำสร้างเรื่อง และกล่าวหา โจมตี ฝ่ายรัฐบาล มีผลกระทบต่อเศษรฐกิจโดยรวม เกิด ภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน ภาวะเงินฝืด ประชาชนไม่จับจ่ายใช้สอยอย่างที่เคยเป็น

ประชาธิปัตย์ เคยบอกว่า "ประชาชน" ต้องมาก่อน  ก็เป็น วาทะกรรม ดีแต่พูด อีกเช่นเคย

วาทะกรรม "พาคนไปตาย" เป็นคำพูดออกจากพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวหา พลตรี จำลองในขณะนั้น

แต่วันนี้ ประชาธิปัตย์ "พาประชาชน" ไปทำอะไร ?

[Continue reading...]

“นิพิฏฐ์” ประกาศเดินนำหน้า ลั่น ขอตายก่อนประชาชน

- 0 comments
เวลา 20.10 น. 6 ส.ค. 56 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยบนเวทีผ่าความจริง ว่า ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้จะเป็นสงคราม 9 ทัพ เราจะแตกเป็นทัพย่อยเข้ารัฐสภา ขออย่าได้กลัวการสกัดกั้นของตำรวจ เพราะเราไปมือเปล่า ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ซึ่งใหญ่กว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ถ้าตำรวจหน้าไหนไม่ให้เข้าจดชื่อถ่ายรูปไว้แล้วไปเจอกันที่ศาล และขอให้จำไว้ว่า  ตนจะเดินนำหน้ามวลชน

"สองตาของเราจะไม่เห็นพี่น้องบาดเจ็บ เพราะเราจะตายก่อนพี่น้อง ผู้แทนฯคนไหนปล่อยให้ประชาชนเจ็บแสดงว่าผู้แทนฯ คนนั้นทรยศประชาชน แต่ถ้าพี่น้องเผาพี่น้องรับผิดชอบเอง เพราะเราจะไปอย่างเสรีชน ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันนี้เดินย่ำรอยเท้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าทุกวันๆแล้ว ทำนายว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องไปอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน  "

ที่มา:มติชน
[Continue reading...]

ข้าหลวงใหญ่ฯ ยูเอ็นเตือนไทย ไม่ควรนิรโทษกรรมเหมารวม-ทำผู้บงการพ้นผิด

- 0 comments
สำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (U.N. High Commissioner for Human Rights) เรียกร้องไทยคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม ที่อาจเปิดช่องให้ผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง หลุดพ้นบ่วงถูกลงโทษ

นางเซซิล พุลลี โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ แถลงที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ ว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของไทย ที่กำลังถูกผลักดันเข้าสู่การพิจารณากันในสภาฯ ในสัปดาห์นี้ อาจอภัยโทษให้ผู้เกี่ยวข้องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ช่วงการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2553 รัฐบาลไทยต้องรับประกันว่า มาตรการนิรโทษกรรมใดๆ ต้องไม่รวมเอาผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน และต้องดำเนินการลงโทษกลุ่มคนเหล่านี้

นางพุลลี กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยจะสร้างแบบอย่างที่สำคัญไว้ ถ้าปฏิบัติตามข้อแนะนำของคณะกรรมาธิการชุดที่รัฐบาลตั้งขึ้นเอง และนำตัวผู้ก่อการที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 90 ศพ และผู้บาดเจ็บอีกนับพันคน ระหว่างการกวาดล้างข้างต้นมารับผิดชอบ
[Continue reading...]

สภาฯเข้ม! ห้ามรถโอบีถ่ายสดถกนิรโทษฯ

- 0 comments

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ลงตรวจกำลังพล เตรียมรับม็อบที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยตัวเอง ขณะที่รัฐสภาออกกฎเข้ม ห้ามรถโอบีเข้ามาถ่ายทอดสดการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษฯ...
ผบ.ตร. คุมตรวจกำลังพลรับม็อบที่ทำเนียบฯ ด้วยตัวเอง

วันนี้ (6 ส.ค.56) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม และมอบสิ่งของให้แก่กำลังแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานอารักขาพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดยได้ไปมอบนโยบายที่ห้องประชุม ศปก.สน.ทำเนียบรัฐบาล ตึกสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ประมาณ 15 นาที

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในครั้งนี้ เรายืนยันว่า จะไม่มีการใช้กระสุนจริง ปฏิบัติตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก ซึ่งได้มีการซักซ้อมกันเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนปัญหาที่ผู้ชุมนุมจะเดินพา ส.ส.ไปส่งเข้าสภาผู้แทนราษฎรนั้น เรามีพื้นที่หวงห้ามเป็นการเฉพาะสำหรับ ส.ส.-ส.ว. อยู่แล้ว


จากนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ ได้เดินไปชี้ให้ผู้สื่อข่าว และช่างภาพสื่อมวลชน ชมป้ายเตือน อาทิ จะใช้น้ำฉีด จะใช้แก๊สน้ำตา และจะใช้กระสุนยาง ที่ตำรวจจะยกเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมก่อนปฏิบัติการด้วย
ออกกฎเข้ม ห้ามรถโอบีถ่ายทอดสดถกนิรโทษฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณามาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย ภายในรัฐสภาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 7 ส.ค. พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

จากนั้นเวลา 19.30 น. นายสุวิจักขณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมพูดคุยถึงเรื่องการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ว่า เหมาะสมหรือไม่ โดยนำประกาศ ศอ.รส.ฉบับที่ 1 และระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสถานที่ประชุมของรัฐสภาและบริเวณรัฐสภา พ.ศ.2554 มาหารือ เพราะรัฐสภาอยู่ในพื้นที่ข่ายพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ต้องรักษาความมั่นคงอย่างเข้มข้น จึงเห็นว่าในการประชุมสภาฯ วันที่ 7 ส.ค. จะไม่ให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ นำรถถ่ายทอดสดเข้ามารายงานสดการประชุมสภาฯ เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุของรัฐอยู่แล้ว อีกทั้งกังวลว่าหากมีผู้บุกเข้ามาก็จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ไหว เพราะรถถ่ายทอดสดมีขนาดใหญ่


 นอกจากนี้ จะไม่ให้สถานีโทรทัศน์เกี่ยวสัญญาณถ่ายทอดสดด้วย ทั้งนี้ ยืนยันเรื่องดังกล่าวไม่ใช่การปิดกั้นสื่อมวลชนแต่อย่างใด ช่วงสถานการณ์ปกติก็ให้ถ่ายทอดสดได้
ที่มา: ไทยรัฐ
[Continue reading...]

ทรงแนะขอทุกอย่างจบด้วยการพูดคุยกัน

- 0 comments
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงมีพระเมตตารับสั่งให้ ผบ.ตร. พร้อมด้วย ผบช.น. และ รอง ผบช.น. เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานสถานการณ์การชุมนุม "บิ๊กแจ๊ด" เผย ทรงแนะขอทุกอย่างจบด้วยการพูดคุยกัน

วันที่ 6 ส.ค. เวลา 21.15 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระเมตตารับสั่งให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พร้อมตน และ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. ที่รับผิดชอบด้านการวางกำลัง เข้าเฝ้าฯ และถวายรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งพระองค์ท่านทรงเป็นห่วง และหากมีอะไรเกิดขึ้นต้องไปกราบบังคับทูลให้พระองค์ทรงทราบ ซึ่งพระองค์ทรงมีพระเมตตาแนะนำแนวทางการปฏิบัติ และทรงเป็นห่วงตำรวจที่ได้ทำปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณดังกล่าว

"ในส่วนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นั้น ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะไม่ทำให้ทุกอย่างระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท หากเกิดเหตุรุนแรง ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากตำรวจอย่างแน่นอน ทุกอย่างจะต้องจบด้วยการเจรจา" ผบช.น. ระบุ

เมื่อถามว่า พระองค์ท่านทรงกังวลเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า พระองค์ท่านทรงห่วงใย หากเกิดการกระทบกระทั่งเกิดขึ้น พระองค์จะไม่สบายพระหฤทัย และขอทุกอย่างจบด้วยการพูดคุยกัน

ที่มา : เดลินิวส์
 
[Continue reading...]

ปชป.นัดรวมพล 9 โมงเช้ 7 ส.ค. 56 ที่แยกอุรุพงษ์ ให้ชาวบ้านเดินไปส่งส.ส.เข้าสภาฯ มั่นใจไม่เกิดเหตุรุนแรง

- 0 comments
เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 6 ส.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมส.ส.พรรค ประจำสัปดาห์ว่า ที่ประชุมมีมติคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยจะจัดเวทีปราศรัยผ่าความจริงฯ ที่ลานกีฬาสี่แยกอุรุพงษ์ ข้ามคืนไปสิ้นสุดในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค.นี้ จากนั้นส.ส.ของพรรคจะมารวมตัวกับประชาชนที่ร่วมฟังการปราศรัย แล้วเดินเท้าจากสี่แยกอุรุพงษ์ไปยังรัฐสภา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสภาฯ

โดยระหว่างทางจะมีการเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมเดินเท้าให้กำลังใจการทำหน้าที่ของ ส.ส.ด้วย  เมื่อไปถึงเขตควบคุมตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง จะขออนุญาตเจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่านตรวจเพื่อให้ประชาชนไปส่งส.ส.ถึงบริเวณหน้าประตูทางเข้ารัฐสภา แต่หากเจ้าหนาที่ไม่อนุญาต คงต้องพูดคุยกันก่อน

นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า เราดำเนินการในเชิงสัญลักษณ์และไม่มีใครที่คิดจะก่อความรุนแรงหรือกระการผิดกฎหมาย จึงคิดว่าไม่น่าจะเสี่ยงเกิดเหตุรุนแรงจนถึงขั้นปะทะกัน แต่หากไม่สามารถไปส่งได้ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยระหว่างทางจะมีการจัดทีมคอยดูแลตลอดเส้นทาง และจะประสานกับเจ้าหน้าที่เทศกิจของกทม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องกันมือที่ 3 มาก่อเหตุ โดยมั่นใจว่าผบช.น.จะดูแลได้ เพราะสนิทกับแกนนำคนเสื้อแดง อีกทั้งมีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง 3 หมื่นกว่านาย แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็น่าจะเกี่ยวพันกับคนในพรรคเพื่อไทย และยืนยันได้ว่าไม่มีแผนนำประชาชนไปปิดล้อมรัฐสภา เพื่อไม่ให้สภาฯพิจารณาร่างพ.ร.บ.นี้

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ แพ้ในสภาฯ จะมีส.ส.ลาออกมาต่อสู้นอกสภา นายสาทิตย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยถึงขั้นนั้น แต่ในที่ประชุมนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ได้ซักซ้อม ว่าจะสู้ในสภาอย่างเต็มที่ เพื่อให้รัฐบาลถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวออกไป.

ที่มา: เดลินิวส์
[Continue reading...]

คลิปไม่ลับ : "ผมจะล้มรัฐบาลให้ได้ แต่บอกไม่ได้ เพราะตำรวจจะจับ" นิพิฏฐ์ สส.ประชาธิปัตย์ พัทลุง

- 0 comments
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดพัทลุง ให้สัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์ ในรายการ คมชัดลึก ช่วง บก.ลายจุดและผู้กอง หัวข้อ "กองทัพ-ประชา-ชน" ประจำวันจันทร์ ที่ 5 สิงหาคม 2556 ดำเนินรายการ โดย จอมขวัญ หลาวเพชร ทางช่อง Nation Channel

ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ นายนิพิฏฐ์ บอกว่า
 
"ค้านทั้งในและนอกสภา และค้านจนถึงที่ต้องล้มรัฐบาลให้ได้"
พิธีกร ก็จะให้อธิบายว่าจะออกมาในรูปไหน 
นายนิพิฏฐ์ ก็ตอบว่า "ผมบอกตรงนี้ไม่ได้ล่ะครับ เดี่ยวตำรวจจะจับผมนะครับ"
แสดงว่า ในการต่อสู้ครั้งนี้ ประชาธิปัตย์คงเทหมดหน้าตัก
[Continue reading...]

อาวุธ ความจริง สำแดง "พลานุภาพ" ชำระ ความเท็จ

- 0 comments
การปราศรัยบนเวที "ผ่าความจริง" ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ณ ลานโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร
เย็นย่ำสนธยาของวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม

"ถ้าร่างกฎหมายฉบับของ นายวรชัย เหมะ ผ่านออกมา คนที่ถูกพิพากษาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เช่นดา ตอร์ปิโด, นายสุรชัย แซ่ด่าน, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข รวมทั้ง นายจักรภพ เพ็ญแข ที่หนีอยู่ต่างประเทศ ถือเป็นความเจ็บปวดของพวกเรา"
ดุเดือด เข้มข้นอย่างยิ่ง

แต่คำถามก็คือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของ นายวรชัย เหมะ มุ่งนิรโทษกรรมให้กับบุคคลที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เอ่ยนามมา ไม่ว่าจะเป็น ดา ตอร์ปิโด ไม่ว่าจะเป็น นายสุรชัย แซ่ด่าน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายจักรภพ เพ็ญแข จริงหรือไม่

คำตอบก็คือ ไม่เป็นความจริง
ถามต่อไปอีกว่า ทั้งที่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่ได้ครอบคลุมถึงผู้มีความผิดตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา แล้วเหตุใด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงได้ปราศรัยเป็นตุเป็นตะ อันเท่ากับเป็นการบิดเบือนและสร้างเรื่องเท็จขึ้นมาหรอกหรือ
ตถตา เป็นเช่นนั้น
ทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์เดียวกันกับเมื่อครั้งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปลุกระดมคนเสื้อเหลืองนับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2549 และเดือนพฤษภาคม 2551
นั่นก็คือ กลยุทธ์ "เรื่องจริง" อิง "เรื่องเท็จ"
ดำเนินไปเหมือนกับที่คอลัมนิสต์บางคนในสื่อบางฉบับรายงานภาพของเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ออกมาว่า
"ผู้คนนับแสนในนาม" กองทัพประชาชน "รวมตัวที่สวนลุมพินี"
ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงซึ่ง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เห็นระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยดำเนินไปอย่างที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐระบุ

"หลายพันคน"

แต่ "หลายพันคน" ในสายตาของสื่ออย่างสยามรัฐปรากฏผ่านสื่อเลือกข้างบางฉบับก็ขยายกลายเป็น "ผู้คนนับแสน"
การบิดเบือน "ข้อมูล" จึงเป็น "กลยุทธ์" 1
การบิดเบือน "ข้อเท็จจริง" จึงเป็นอีก "กลยุทธ์" 1 ซึ่งได้ผลมาตั้งแต่ยุคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อเนื่องถึง "ม็อบแช่แข็งภาค 1" ต่อเนื่องถึงม็อบถวายฎีการ้องขอ "นายกฯ พระราชทาน"

ตถตา เป็นเช่นนั้น

ถามว่าเบื้องหน้าการชุมนุมของ "กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ" เบื้องหน้าการบิดเบือนข้อมูลความเป็นจริงบนเวที "ผ่าความจริง" ของพรรคประชาธิปัตย์

รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ควรทำอย่างไร
พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังชล อันประกอบส่วนขึ้นเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ควรทำอย่างไร
คำตอบ 1 ต้องยึดหลัก "ความจริง"
นั่นก็คือ กุมความจริงอันดำรงอยู่ภายในเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของ นายวรชัย เหมะ อันผ่านการรับรองจากพรรคเพื่อไทย ผ่านการรับรองจากพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้ว อย่างแน่วแน่ มั่นคง

เพราะ "ความจริง" เท่ากับเป็น "แสงสว่าง"
อาศัยแสงสว่างสาดฉายเข้าไปในความพยายามบิดเบือน เสกปั้น เนรมิต "ความเท็จ" ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมาจากกองทัพประชาชนฯ ไม่ว่าจะมาจากสื่อบางสื่อ

เพราะ "ความจริง" เท่ากับเป็นเครื่องล้าง "ชำระ"
ความจริงจากการประชุมเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ได้เป็นคำตอบอันเที่ยงตรงมาแล้ว ความจริงในการประชุมวันที่ 7 สิงหาคม ย่อมเป็นอาวุธอันทรงพลานุภาพกระหน่ำไล่ความเท็จ
ตถตา เป็นเช่นนั้น

จากนี้จึงเด่นชัดยิ่งว่า ต่อความมดเท็จ บิดเบือน สร้างข่าวใส่ร้าย ป้ายสี จากความเลวร้ายต่ำทราม
ไม่มีอาวุธใดจะแสดงฤทธิ์เดชได้เท่ากับเอา "ความจริง" ออกมาตีแผ่ สาดชำระล้างบรรดา "ความเท็จ" ทั้งมวลให้ปลาสนาการไปเหมือนกับแวมไพร์ต้องแสง
"ความจริง" ย่อมเป็น "เกราะบัง"
ที่มา: มติชน
[Continue reading...]

ทำแล้วได้อะไร ?

- 0 comments
เห็นข่าวที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงบุกไปเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ หนุน พ.ร.บ. ถึงหน้าที่ทำการพรรค  มีคำถามในใจว่า ทำไปเพื่ออะไร

เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าจุดประสงค์  ของประชาธิปัตย์ คืออะไร ถึงขนาด โกหก "หน้าตาย" บนเวทีผ่าความจริงเขายังทำ เป็นไปไม่ได้เลยที่พรรคนี้ จะยุติบทบาทนี้

การไปถึงที่ทำการพรรคเท่ากับเติมเชื้อไฟให้ทางพรรคประชาธิปัตย์ มีเป้าโจมตี เพิ่มขึ้นอีก การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไร กับที่ผู้กอง "ปูเค็ม" บุกพรรคเพื่อไทย

ชั่วโมงนี้เราควรอยู่ในที่ตั้ง เป็นดีที่สุด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา เขาทำหน้าที่กัน คอยดูและคอยให้ความรู้ทางวิชาการ ให้ความจริงกับสังคม ว่าทำไมถึงต้องนิรโทษ มีความจำเป็นอย่างไร

ปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มกองทัพประชาชนเขาดิ้นกันไป อาละวาดกันไป ยิ่งเขาแสดงความกักขฬะ มากเท่าไหร่ ความชอบธรรมในการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้น

ป่วยการที่จะไปพูดกับคนที่กำลังหน้ามืดตามัว ให้เขาแสดงไปให้เต็มที่  อย่าลืมว่า ทุกสายตาต่าง จ้องมาที่รัฐสภา

เราต้องการความชอบธรรม ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรมด้วย สังคมเขาถึงจะเห็นใจและเข้าใจ

[Continue reading...]

"ยิ่งลักษณ์" ไม่หวั่นโดนจับตัว เชื่อไร้เหตุการณ์ วอน ปชช.อย่าผ่านเส้นทางชุมนุม หวั่นมือที่ 3 สร้างสถานการณ์

- 0 comments

เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 56 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. ฝ่ายความมั่งคง ได้รายงานถึงสถานการณ์การชุมนุมของฝ่ายที่เห็นต่างจากรัฐบาล และมีการรายงานถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่งคงฯ โดย ครม.ได้ฝากความห่วงใย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายใช้ความอดทนในการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และผู้ที่สัญจรไปมา ส่วนผู้ที่ร่วมชุมนุมขอให้อยู่ในความสงบ อดทน ไม่ใช้กำลังความรุนแรง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ เป็นห่วงมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้ย้ำกับฝ่ายความมั่งคงว่า ให้ระมัดระวังในส่วนนี้ด้วย จึงอยากขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนว่า หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่อยากให้สัญจรในเส้นทางที่มีการชุมนุม เพราะเกรงกรณีบุคคลที่ 3 ต้องขอความร่วมมือ การชุมนุมขอให้เป็นไปโดยสงบ ภายใต้กรอบของกฎหมาย ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ จะมีความยืดเยื้อหรือไม่ เพราะต้องรอดูรายละเอียดในวันที่ 7 ส.ค.อีกครั้ง ส่วน ส.ส.จะสามารถเข้าร่วมประชุมสภาฯ ได้หรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะให้เข้าไปประชุม การประชุม เป็นวาระปกติที่ต้องมีการพิจารณาอยู่แล้ว เรื่องดังกล่าวคงให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้วางรายละเอียดต่างๆ

เมื่อถามต่อว่านายกฯต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะวันนี้มีการปล่อยข่าวต่างๆ นานา เช่น การจับตัวนายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวทำตัวปกติเหมือนเดิม การเดินทางจากบ้านมาทำเนียบรัฐบาลเป็นไปตามปกติ เชื่อว่าสังคมวันนี้จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ส่วนการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 7 ส.ค. จะเดินหน้าไปได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรัฐสภา ตนเป็นเพียงแค่ 1 เสียง เรื่องดังกล่าวคงต้องว่าไปในส่วนของสภาฯ ในการตัดสินใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเข้าประชุมสภาฯ อย่างแน่นอนใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนเข้าร่วมประชุมสภาฯ ด้วยอยู่แล้ว แต่อาจจะมีภารกิจ แต่อย่างไรก็ต้องเข้าประชุม เมื่อถามต่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดเวทีผ่าความจริง ใกล้กับพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อยากขอให้ทุกคนเคารพในกติกาในระบอบประชาธิปไตย การใช้สิทธิใช้เสียงในสภาฯ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ควรจะใช้ในการหารือและแก้ไขปัญหา
ที่มา: ไทยรัฐ
[Continue reading...]

เตือน ! โพสต์-ไลค์-แชร์ "ข้อความอันเป็นเท็จ" ให้ระวัง!มีความผิดเท่ากัน

- 0 comments
สถานการณ์ทางการเมืองในช่วงประชุมสภาซึ่งจะมีการนำพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าถกในที่ประชุมสภา 7 ส.ค.นี้ ส่วนโลกออนไลน์ได้มีการเตือนเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความ-กดไลค์-แชร์ ว่าถ้าโพสต์ข้อความเป็นเท็จ รวมทั้งกดไลค์ และแชร์ก็จะมีความผิด ดังนี้

เตือนกดไลค์-แชร์ผิดเท่ากัน

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.ปอท. กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มประชาชนหลายกลุ่มได้ออกมาแสดงความเคลื่อนไหวทางการเมือง ในลักษณะที่อาจจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย โดยเฉพาะในโลกออนไลน์มีการโพสต์ข้อความต่าง ๆ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ตระหนก ปอท.ได้ทำการตรวจสอบ พบข้อความทางสื่อออนไลน์ในเครือข่ายเฟซบุ๊กที่เป็นเท็จ 4 ราย ได้แก่ น.ส.วารุณี คำดวงศรี อายุ 27 ปี ใช้ชื่อในเครือข่ายเฟซบุ๊กว่า Warunee Khamduangsri รายที่สองใช้นามแฝงในเครือข่ายเฟซบุ๊กว่า Yo Onsine อยู่ระหว่างการสืบสวนชื่อและนามสกุลจริง หากสังเกตจากรูปถ่ายคือพิธีกรจากรายการแดดร่มชมตลาด รายที่สามใช้ชื่อในเครือข่ายเฟซบุ๊กว่า Sermsuk Kasitipradit หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อเป็ปซี่ นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ อดีตผู้สื่อข่าวสายทหารหนังสือ พิมพ์ฉบับหนึ่ง ปัจจุบันเป็นบรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคงสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รายที่สี่ใช้นามแฝงว่า ปุ๊ ชลบุรี นักสู้ธุลีดิน จากการสืบสวนทราบชื่อว่า นายเดชาธร ธีรพิริยะ แกนนำคนเสื้อแดงใน จ.ชลบุรี

ทั้ง 4 คนนี้ได้โพสต์ข้อความที่เป็นเท็จในเรื่องของการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลเพื่อชี้นำให้ประชาชนตื่นตระหนกโดยการกักตุนอาหารและน้ำ อีกทั้งยังโพสต์ข้อความที่อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายของบ้านเมือง จากการพิจารณาจากเนื้อหาไม่มีมูลความจริงและถ้าปล่อยให้เผยแพร่ก่อจะให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ทาง ปอท. จึงออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ฝากถึงพี่น้องประชาชนให้ไตร่ตรองในการใช้สื่อออนไลน์ เพราะถ้าโพสต์ข้อความที่เป็นเท็จและก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง จะผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2) เรื่องการนำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้กระทบต่อความมั่นคง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 1 แสนบาท รวมทั้งผู้ที่กดไลค์และกดแชร์ก็จะมีความผิดเช่นเดียวกัน” ผบก.ปอท.กล่าว.

ที่มา :เดลินิวส์
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger