Friday, September 20, 2013

เงินกู้ 2 ล้านล้าน ผ่านฉลุย มติ 287 ต่อ 105 เดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม

- 1 comments
มติสภาฯ ผ่านฉลุยกฎหมายเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม บรรยากาศในการอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น มี ส.ส.ลุกขึ้นใช้สิทธิ์อภิปรายไม่มาก มาตราละ 1-2 คน และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ไม่มีการประท้วง...

วันที่ 20 ก.ย. 56 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ (2 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่เวลา 17.30 น. มีการพิจารณาตั้งแต่มาตรา 6 ถึง 19 ซึ่งบรรยากาศการอภิปรายใน เป็นไปอย่างราบรื่น มี ส.ส.ลุกขึ้น ใช้สิทธิ์อภิปรายจำนวนไม่มาก เพียงมาตราละ 1-2 คน และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ไม่มีการประท้วง และแต่ละมาตรามีการลงมติเห็นด้วยตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก และบางมาตราไม่มีผู้อภิปราย ก็ไม่มีการลงมติ คือ มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 12มาตรา 13  มาตรา 15 และ มาตรา 19

แต่ในส่วนของมาตรา 18 ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยตามกรรมาธิการให้มีการตัดออก นอกจากนี้ยังมีผู้แปรญัตติให้มีการเพิ่มมาตรา 20-21 แต่ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับผู้แปรญัตติ จากนั้นได้พิจารณาในบัญชีแนบท้ายต่อ และได้ลงมติเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมาก โดยก่อนการลงมตินายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการ ได้กล่าวขอบคุณ พร้อมยืนยันว่าจะดูแลเงินกู้อย่างโปร่งใส กระทั้งเวลา 23.20 น.ที่ประชุมมีการลงมติในวาระ 3 โดยที่ประชุมเห็นด้วยตามกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก 287 ต่อ 105 และนายวิสุทธิ์ ไชยนรุณ ประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 23.25 น.
[Continue reading...]

The Lost Decade or the Lost 10 Years ทศวรรษที่หายไป

- 0 comments
The Lost Decade or the Lost 10 Years  ทศวรรษที่หายไป เป็นคำพูดของ นายกทักษิณ ชินวัตร ที่ให้สัมภาษณ์ กับ น.ส.พ. ไทยรัฐ
คลิกดูคำให้สัมภาษณ์ คำต่อคำ

นั่นหมายถึงว่า การปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมา ประเทศได้อะไร เราได้อะไร

ทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ และมีแต่ถอยหลัง

สิ่งที่เห็นคือมีแต่ความขัดแย้ง

ด้วยการอ้างของฝ่ายที่เข้ามายึดอำนาจ ว่า ตัวปัญหา คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

การเข้ามา ของคณะปฏิวัติ ที่อ้างว่า เข้ามาเพื่อปฏิรูปประเทศไทย ไม่ว่าจากการใช้อำนาจที่มากเกินไป ทุจริตคอรัปชั่น แทรกแซงสื่อ แทรกแซงองค์กรอิสระ  จากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

หยุดการทุจริตโกงกิน ขจัดให้พ้นไปจากบ้านเมือง

แล้ว ทำได้อย่างที่อ้างหรือไม่ ?

ไม่ว่า จากการบริหารประเทศของ คณะปฏิวัติ

รัฐบาล ต่อจากนั้น ที่ เรียกว่า "ขิงแก่"

นำพาประเทศไทยที่ ก้าวหน้าทัดเทียม สิงคโปร์ และกำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำเอเซีย ตามติดเฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น...กลับมาแข่งขัน กับ กัมพูชา ลาว และกำลังถูก ทั้ง 2 ประเทศนี้ทิ้งไว้ข้างหลัง แม้กระทั่งพม่า

นี่หรือที่เรียกว่าเข้ามา "ปฏิรูป"

เป็นการทำลายมากกว่า
[Continue reading...]

นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้ขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกโรค (มีคลิปประวัติ-ผลงาน)

- 0 comments
นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 6 คนในครอบครัวชาวจีนในกรุงเทพมหานคร   เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2495  ศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จากนั้นศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
คลิกดูคลิปที่นี่

ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย นพ.สงวนเป็นนักกิจกรรม ได้ออกค่ายในช่วงก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 ซึ่งทำให้ได้พบประสบการณ์ที่ไม่เคยประสบมาก่อน นอกจากกิจกรรมออกค่ายแล้ว จากนิสัยรักการอ่าน ยังเป็นบรรณาธิการหนังสือ "มหิดลสาร" ของมหาวิทยาลัยอีกด้วย หนังสือที่เขาชอบอ่านคือ วารสารสังคมปริทัศน์ เศรษฐศาสตร์ชาวบ้าน และ หนังสือพิมพ์มหาราช

หลังจากเรียนจบในปี พ.ศ. 2520 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม   2519 ความตื่นตัวทางการเมืองนักศึกษามีอยู่ทั่วไป นักศึกษาด้านการแพทย์จบใหม่ล้วนมีความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม และอยากไปทำงานในชนบท ซึ่งนพ.สงวนก็มีความตั้งใจเช่นนี้เหมือนกัน  จึงเข้าทำงานที่โรงพยาบาลวชิระ กรุงเทพมหานคร อยู่ 1 ปี ก่อนจะออกไปเป็นแพทย์ชนบท ที่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ อยู่ 5 ปี
ก่อนเสียชีวิต นพ.สงวน ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด และมีอาการทรุดหนักด้วยอาการน้ำท่วมปอดและไตไม่ทำงานหนึ่งสัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 16.15 น. ของวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551 ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยอายุ 55 ปี
นพ.สงวน เป็นผู้วางรากฐานของ "หลักประกันสุขภาพ" ใช้เวลามากกว่า 20 ปี  ในการวางรากฐานระบบบริการการแพทย์ของระบบ ประกันสังคม

ในปี 2544 นพ.สงวน นำเสนอโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ต่อหลายพรรคการเมือง และได้รับการตอบรับจาก พรรคไทยรักไทย โดย พ.ตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร จนนำมาเป็นนโยบาย ในการหาเสียง จนเป็นที่มาของนโยบาย "30 บาทรักษาทุกโรค"

ในช่วงต้นได้รับการต่อต้านมากมายจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ โรงพยาบาล และจากพรรคการเมือง ให้ชื่อโครงการนี้ว่า "30 บาทตายทุกโรค"

โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ได้มีการปรับปรุง และพัฒนา  สามารถเป็นที่พึ่งของคนทุกคนได้จริง ๆ

ด้วยหลักคิดที่ต้องการให้ คนไทยเข้าถึงหลักประกันสุขภาพอย่างถ้วนหน้า ได้รับการบริการคุณภาพมาตรฐาน การดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง มีศักศรีของความเป็นมนุษย์ อย่างเท่าเทียมกัน

อาลัย "นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์" เส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพ ก้อนหินที่ขวางหน้า คือบันไดสู่ทางออก
[Continue reading...]

“ศรรักษ์” กวป. ยื่นหนังสือทวงถามศาลปกครองถึงความรับผิดชอบ

- 0 comments
จากการที่มีฝนตกหนักทั่วประเทศ จนมีน้ำไหลท่วม ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

“ศรรักษ์” ยื่นหนังสือทวงหาความรับผิดชอบจากศาลปกครองกรณีสั่งชะโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน ซึ่งเป็นต้นเหตุของความเดือดร้อนดังกล่าว
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ศาลปกครอง   ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อเวลา 10.30 น. นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป. ได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากได้ยื่นหนังสื่อทวงถามหาผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์น้ำท่วม หลังจากที่ศาลปกครองรับคำร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและมีคำวินิจฉัยชะลอโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล พร้อมกับให้ทำประชาพิจารณ์มาก่อน ซึ่งทางกวป.ได้ทำหนังสือถึงเหตุผลว่าการที่รัฐบาลได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน แต่ดำเนินการอะไรไม่ได้ เพราะมีคำสั่งชะลอ ซึ่งขณะนี้ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ดังนั้นที่มาครั้งนี้ก็เพื่อมาทวงถามถึงความรับผิดชอบเพราะเกิดความเสียหายแล้ว ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบระหว่างนายศรีสุวรรณ กับตุลาการศาลปกครอง
คลิกดูรายละเอียดของข่าวเพิ่มเติม  จากเดลินิวส์

คลิกดูวีดีโอที่เกี่ยวข้อง

[Continue reading...]

กวป. ร้องอัยการสูงสุด "ยุบพรรค" ประชาธิปัตย์ กรณีป่วนสภาเข้าข่ายล้มการปกครอง

- 0 comments
เมื่อวันที่ 19 กันยายน ทางกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป. ได้เดินทางไปที่สำนักงาน อัยการสูงสุด ยื่นหนังสือต่อนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ กรณี ป่วนสภา เพื่อยื่นต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าเข้าข่าย ล้มล้างการปกครอง  ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือไม่ ตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 68
คลิกดูคลิปข่าว

ซึ่งทาง นายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความ ระบุว่า การกระทำของพรรคประชาธิปัตย์เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง คือการสร้างความวุ่นวาย เช่นกรณี ของนายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สุราษฎร์ธานี ทุ่มเก้าอี้จำนวน 2 ตัวในสภา ยังมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำร้ายร่างกายตำรวจรัฐสภา ระ

หว่างการประชุมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ  การกระทำดังกล่าว เป็นการเข้าข่ายให้ได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

จึงให้อัยการสูงสุดเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ และตัดสิทธิ์ หัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger