Saturday, August 17, 2013

หัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก เชื้อชั่วไม่ทิ้งแถว

- 0 comments

หัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก

หัวหน้าคิดอย่างไร

ลุกพรรคก็คิดอย่างนั้น

คำว่า"ประมุข" ที่นายธาริตพูดถึง และได้พูดอย่างชัดเจน หมายถึง ประมุขฝ่ายบริหาร ซึ่งเรามี นายกเป็นประมุขฝ่ายบริหาร  ประธานรัฐสภา เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และประธานศาลฏีกา เป็นประมุขฝ่ายตุลาการ

ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่รู้ เพราะคนในพรรคนี้เป็นนักกฏหมาย และมีคนเคยดำรงตำแหน่งมาแล้วถึง 2 ประมุข คือ

นายชวนหลีกภัย มีโอกาสเป็นทั้ง ประมุขฝ่ายบริหาร และประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ

นายอภิสิทธิ์ ก็เป็นอดีต ประมุขฝ่ายบริหาร

 นี่คือการแถ...ของพรรค ๆ นี้

ฟังจากคำปราศัย ของนายอภสิทธิ์ เวทีผ่าความจริง เขตสวนหลวง  17 สิงหาคม 2556

 
"แล้วนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ประมุขของประเทศมีคนเดียว องค์พระมหากษัตริย์ อยากให้ยิ่งลักษณ์เป็นประมุขของประเทศ ไปหาประเทศอยู่ ไปทั้งยิ่งลักษณ์ ไปทั้งธาริต พี่น้องครับ ต้องเตือนสติ นายธาริต เตือนสติกลไกของรัฐว่า ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะละเมิดไม่ได้ในแง่ของการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นนักการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าติชมโดยสุจริต เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ คนเหล่านี้ต้องวิจารณ์ได้ 

แต่องค์พระมหากษัตริย์ ประมุขประเทศ อยู่เหนือการเมือง และละเมิดไม่ได้ เด็ดขาด ผมไม่เห็นกลไกของรัฐมันเดือดร้อน ทั้งๆ ที่มีเวปหมิ่น มีการกล่าวเท็จเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ 

มันเดือดร้อนอะไรนักหนา กับคำว่า เสือ สิงห์ กระทิง ยิ่งลักษณ์ ผมจะเตือน ธาริต มันจะตีความว่าเสียหายมากนี่ ถ้าแรดมันใช้สิทธิ์ทางกฎหมายได้นี่ แรดจะฟ้องธาริต 

เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ไปพี่น้องครับ เราจะต้องไล่บี้ทุกประเด็นต่อกฎหมายนี้ เราจะยืนยันว่าใครละเมิดพระมหากษัตริย์ ใครละเมิดสิทธิมนุษยชน จะเผา จะฆ่า จะระเบิด ต้องไม่มีการล้างผิด ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้สูญเสีย ต้องให้ความเป็นธรรมกับประเทศ กับส่วนรวม เราจะเคลื่อนไหวเป็นประเด็นๆ ไป แต่ประเด็นแรก ต้องเลิกล้างผิด คนทำผิดมาตรา 112 เราต้องมารวมพลังตรงนี้กันก่อน ผมทราบดีพวกเราที่ปรารถนาจะเห็นความถูกต้องในบ้านเมือง ต่อสู้กับระบอบทักษิณและความไม่เป็นธรรมต่างๆ เราอาจจะเห็นต่างกันหลายเรื่อง แต่อย่างน้อยเรื่องนี้ ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเราเห็นตรงกัน เราต้องเคลื่อนไหวเอาชัยชนะเรื่องนี้ให้ได้เสียก่อน 

ฉะนั้นวันนี้ เมื่อพี่น้องทำหน้าที่ในเวทีผ่าความจริง เราขอกันว่า ให้ช่วยบอกต่อความจริง วันนี้นอกจากบอกต่อความจริง ไปบอกพี่น้องคนไทยทุกคน บอกกรรมาธิการทุกคนว่า แก้ประเด็นนี้เป็นประเด็นแรก และทำให้เร็วที่สุด พร้อมที่จะสู้ และเดินต่อไปใช่มั้ยครับ"

 

ที่มา  : ข่าวสด

 
[Continue reading...]

ข่าวฮาล่าสุดคดีเอกยุทธ! กสม - พรทิพย์ - ทนาย พธม.

- 0 comments
นับเป็นความพยายามอีกครั้งของกลุ่มบุคคลที่ต้องการลากคดีฆ่าสังหาร "นายเอกยุทธ อัญชันบุตร" ให้เป็นคดีมีเงื่อนงำโยงใยถึงคนมีสี และแน่นอนว่าเป้าหมายสูงสุดคือ "รัฐบาล"

เพราะไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.), พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม และ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ออกมาร่วมขบวนกันแสดงออกชัดเจนว่าคิดอย่างไรกับ "รัฐบาล" ชุดปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าคดีนี้ตำรวจจะสรุปสำนวนเรียบร้อย พร้อมชี้แจงแถลงข่าว นำพยานหลักฐานและคำให้การของทีมสังหารนำโดย "บอล" สันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถส่วนตัว นายเอกยุทธ มาแสดงหลายต่อหลายรอบ

ในการฆาตกรรมนายเอกยุทธ เพราะทีมสังหารต้องการเงินจำนวน 5 ล้านบาท เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดาเท่านั้น

แต่ก็ยังมีกลุ่มบุคคลที่ไม่ยอมรับฟังหรือมองพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจได้มา แต่เลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดมากกว่า

ล่าสุดทั้งฝ่ายกสม.และหมอพรทิพย์ ได้สรุปรายงานการชันสูตรศพนายเอกยุทธ ด้วยข้อมูลง่าย ๆ ว่า มีเงื่อนงำเพราะเป็นการตายด้วยท่าพิเศษ!

ขณะที่ฝ่ายทนายพันธมิตร ออกมาทิ้งระเบิดกลางวงว่านายสันติภาพกลับคำให้การว่าถูกจ้างวานโดยคนมีสีให้ฆ่านายเอกยุทธ ด้วยวงเงิน 3 ล้านบาท!

ซึ่งทำให้ตำรวจต้องออกมาชี้แจงอีกรอบ และตอบทุกประเด็นสงสัย

คดีฆาตรกรรมนายเอกยุทธ ได้เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อหายตัวไปพร้อมนายสันติภาพคนขับรถ และเงินสดจำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งตำรวจใช้เวลาไม่นานนักในการแกะรอยจากหลักฐานต่างๆ นำไปสู่การจับกุมนายสันติภาพ นายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม พิมพ์พิสาร ที่ร่วมสังหาร

จากนั้นได้ตามรวบตัวผู้ร่วมฆ่า มีนายทิวากร เกื้อทอง, นายชวลิต หรือเชา วุ่นชุม ที่ร่วมฝังศพนายเอกยุทธ และพ่อแม่นายสันติภาพ ที่รับฝากเงินสดกว่า 4 ล้านบาท ที่ลูกชายรีดได้จากนายเอกยุทธ

ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดยเฉพาะนายสันติภาพ ทำแผนฯ บอกขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การล็อกตัว บังคับให้ติดต่อเลขาฯ นำเช็คมาให้เซ็นเบิกเงินสด 5 ล้านบาท จนถึงการสังหารเพราะนายเอกยุทธเพราะพยายามกระโดดหนีลงจากรถ

ในทุกขั้นตอนมีพยานและหลักฐานแวดล้อมชัดเจน

แต่ก็เพราะนายเอกยุทธ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลมาตลอด จึงได้มีความพยายามลากเรื่องให้เข้าไปเกี่ยวโยงกับการเมือง

โดยเฉพาะกสม.ให้ความสนใจเป็นพิเศษ มีหมอพรทิพย์ร่วมทีมตั้งกรรมการสอบสวนกรณีนี้อย่าง "ใส่ใจ" ยิ่ง

กระทั่งเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กสม. แถลงผลการตรวจสอบโดยระบุว่านายเอกยุทธ ไม่ได้ถูกฆ่ารัดคอหรือถูกบีบคอตามที่พนักงานสอบสวนและผู้ต้องหาได้ระบุไว้

แต่เป็นการถูกกระทำเพื่อให้ขาดอากาศหายใจ โดยใช้กระบวนท่าพิเศษ โดยกระบวนการของบุคคลที่เป็นมืออาชีพ นอกเหนือจาก ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม

ทางแพทย์พบร่องรอยบาดแผลจากการชันสูตร 3 แห่ง คือ

ที่บริเวณปลายจมูกมีรอยฟกช้ำ ที่โคนลิ้นและลิ้นด้านซ้าย เนื้อเยื่อลำคอด้านขวา ซึ่งไม่พบรอยบีบรัดคอแต่อย่างใด แต่มีการกดบีบลำคอกับปิดกั้นจมูก ทำให้ขาดอากาศหายใจ และท่านี้สามารถทำให้เสียชีวิตโดยใช้ระยะเวลาไม่นาน"

นอกจากนี้ยังพบบาดแผลบริเวณหัวไหล่ขวา สะบักซ้ายด้านหลังซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้ที่อยู่ด้านหลังนายเอกยุทธ

เพราะนายเอกยุทธต่อสู้จึงทำให้กล้ามเนื้อคอด้านหลังฟกช้ำ

ก่อนที่จะสรุปดื้อ ๆ ว่า "ดังนั้นนายเอกยุทธจึงไม่ได้ถูกฆ่ารัดคอหรือบีบคอ"

นพ.นิรันดร์กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ 2 คือ

ได้มีการเปลี่ยนแปลงสภาพศพหลังจากที่เสียชีวิต คือเคลื่อนย้ายศพจากกรุงเทพฯ ไป จ.พัทลุง และเคลื่อนศพจากเขาจิงโจ้ จ.พัทลุง มาตรวจพิสูจน์ที่กรุงเทพฯ

ซึ่งกระบวนการทั้งหมดได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าจากผู้เชี่ยวชาญในการฆ่าคน โดยมีเหตุผลที่สนับสนุนคือ

1.การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ห่อศพและลำเลียงศพจากรุงเทพฯ มาพัทลุง

2.หลังเสียชีวิตมีการถอดเสื้อผ้าและเครื่องประดับออก ลักษณะการห่อศพซึ่งรัดด้วยวัสดุผูกมัด เป็นเทคนิควิธีการเฉพาะของผู้มีความรู้และความชำนาญ และ

3.มีความเชื่อว่าศพถูกเก็บไว้ในที่ปิดมิดชิด คือ ถูกเก็บในรถตู้ไม่เกิน 3 วัน โดยไม่พบหนอนในศพ แสดงว่าสภาพศพถูกห่อหุ้มเป็นอย่างดี"

ส่วนการขุดหลุมฝัง ก็ลึกไม่เกิน 50 ซ.ม. ซึ่งศพถูกฝังไว้ไม่เกิน 1 วัน แสดงเจตนาว่าไม่ต้องการปกปิดศพ

จึงได้สันนิษฐานว่า ผู้ลงมือไม่ต้องการปิดบังศพ ?

พร้อมกับการออกมาสรุปของกสม. นาย สุวัตรอ้างว่า ได้ส่งทนายไปพูดคุยกับนายสันติภาพ ซึ่งนายสันติภาพยอมรับว่าการฆ่านายเอกยุทธไม่ใช่การชิงทรัพย์แต่เป็นการจ้างวานฆ่าจำนวนเงิน 3 ล้านบาท

นายสันติภาพได้ค่าจ้างแค่หลักแสนบาทเท่านั้น โดยมีการเตรียมลงมือฆ่าถึง 3 ครั้ง 2 ครั้งแรกนายสันติภาพทำไม่สำเร็จ ครั้งที่ 3 คนจ้างวานจึงให้คนมีสีลงมือฆ่าด้วยท่าพิเศษ ?

"และหลังจากนี้จะขอยุติบทบาท โดยไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนายเอกยุทธอีกต่อไป เพราะทางญาติคุณเอกยุทธไม่ได้ช่วยเหลือในการต่อสู้คดี รวมถึงผมต้องออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เองทั้งหมด นอกจากนี้ยังถูกข่มขู่รายวัน โดยสืบทราบว่ามีการวางแผนจะนำรถบรรทุกทรายประกบหน้าหลังเพื่อชนรถยนต์ของผมด้วย"

ซึ่งน่าสังเกตว่าการไปฟังข้อมูลพลิกลิ้นของนายสันติภาพนั้น นายสุวัตรใช้วิธีพูดว่ามีทีมทนายเข้าไปคุย คือไม่ผูกมัดตนเอง และเมื่อมีข้อมูลเด็ดขนาดรับว่าไม่ได้ฆ่าเองเช่นนี้ กลับขอวางมือไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ดื้อ ๆ

การออกมาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาของทั้งกสม. หมอพรทิพย์ นายสุวัตร ได้ทำให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผบช.น. และพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. หัวหน้าพนักงานสอบสวน ต้องทำการตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง

สำหรับประเด็นที่นายสุวัตร อ้างว่า "บอล" กลับคำให้การ
พล.ต.ต.อนุชัยระบุว่าได้สั่งให้พนักงานสอบสวน เข้าไปในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อสอบปากคำนายสันติภาพ อีกครั้ง โดยขอตอบเป็นข้อ ๆ

พร้อมกับทำบันทึก และให้นายสันติภาพเซ็นชื่อ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์

ข้อ 1. นายบอลยืนยันว่าตั้งแต่ถูกจับกุมควบคุมตัว และมาฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ  มีแต่พ่อ แม่ และทนายของตัวเองเข้าไปเยี่ยม ส่วนทนายหรือผู้แทนของนายสุวัตรไม่เคยมาเยี่ยม หรือพูดคุยด้วยแต่อย่างใด

2.นายบอลได้ยืนยันว่าไม่เคยพูดว่ามีคนมาจ้างให้ฆ่าผู้ตายโดยให้ค่าจ้าง 3 ล้านบาท ไม่ว่าจะพูดจริงและพูดเล่น

3.ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทางพนักงานสอบสวนได้ไปอ่านให้ฟังว่า กรณีที่มีญาติของผู้ต้องหาคนอื่นมาเยี่ยม คือมาเยี่ยมผู้ต้องหาคนอื่น นายบอลได้ฝากไปบอกญาติว่าให้ไปบอกทนายความว่าอยากพบนายสุวัตร หรือผู้แทน ว่าจะรับสารภาพว่ามีคนจ้างฆ่านายเอกยุทธ จากกลุ่มคนมีสี ด้วยเงินประมาณ 3 ล้านบาท

ซึ่งนายบอลได้ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด และไม่เคยพูดข้อความดังกล่าว และเนื้อความในหนังสือพิมพ์ที่ให้อ่านนั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง

พล.ต.ต.อนุชัยได้กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบรายชื่อของคนที่เข้าไปในเรือนจำ ก็ไม่พบรายชื่อผู้แทนหรือนายสุวัตรเข้าไปเยี่ยม

สุดท้ายนายบอลระบุว่า ยังขอยืนยันคำให้การเดิมทุกประการ ในกระทำผิดจริงตามที่ให้การกับพนักงานสอบสวน เพราะสำนึกผิด เพื่อต้องการได้โอกาสลดหย่อนโทษ จึงขอให้อย่ามาถามในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อีก ขอให้ผู้ที่จ้องหาประโยชน์อย่าไปรบกวนอีก
สำหรับการสรุปของกสม.และหมอพรทิพย์ นั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้กล่าวอีกว่า คดีนี้พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. และพล.ต.ต.อนุชัย เข้ามาคุมการสอบสวนสำนวนคดีอย่างใกล้ชิด ใครที่พูดอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับคดีนี้ อยากให้มาให้การกับตำรวจ เพื่อให้หลักฐานและตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ ด้วย

"การที่อ้างว่ามีการจ้างกันอย่างไร ฆ่ากันด้วยท่าพิเศษ ผมก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าท่าพิเศษคืออะไร อยากให้เข้ามาคุยกับทางตำรวจ จะได้รวบรวมหลักฐานร่วมกัน จะได้ส่งสำนวนไปยังอัยการ"
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าตายไปแล้ววิญญาณนายเอกยุทธจะสงบสุขหรือไม่ เพราะมีหลายคนเอาชื่อนายเอกยุทธมาหากิน อาศัยสร้างชื่อเสียงจากศพ ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้อง ทางญาติพี่น้องของนายเอกยุทธก็ยังไม่เห็นออกมาพูดอะไร อยากให้คนที่ออกมาพูดมาให้ข่าวทั้งหมดเข้ามาให้การกับตำรวจ รวมถึงมาร่วมเป็นพยานด้วย อย่าดีแต่พูด

"คนตายขนาดนี้ตำรวจก็ทำงานแล้ว ได้ศพเร็ว ได้ผู้ต้องหาเร็ว หลักฐานก็มี ยังว่าผิดอีก ขอร้องอย่าไปพูดข้างนอกหยุดพูดดีกว่า"
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า ไม่มีเรื่องการเมืองแน่นอน แต่ใครจะหากินหาผลประโยชน์จากศพก็ทำไป แต่ขอให้นึกถึงจิตใจญาติของนายเอกยุทธด้วย คนตายไปแล้วยังต้องมาเป็นประเด็นอีก

และนี่คือ "ลูกฮา" ขบวนล่าสุดที่พยายามลากการตายของนายเอกยุทธ มาพัวพันการ "การเมือง" ให้จงได้
แต่ทั้งหมดมีบทสรุปที่ชัดเจนโดย "พยานหลักฐาน" ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ มิใช่ "จินตนาการ"

ที่มา : ข่าวสด


 

 
[Continue reading...]

ปชป. เผย มีส.ส.พร้อมลาออก เดินต่อสู้คู่ประชาชน

- 0 comments

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช  ส.ส.ปชป. เปิดเผยว่ามี สส.พร้อมที่จะลาออก มาเดินต่อสู้คู่กับประชาชน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ปฏิเสธ จับมือ พธม. ล้มรัฐบาล แต่ไฟเขียวให้ ส.ส.ร่วมชุมนุม

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.  56 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งที่ไปหารือกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้กล่าวถึงกรณี ข้อเสนอของแกนนำกลุ่ม พธม. ที่เรียกร้องให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมลาออก เพื่อยุติเผด็จการรัฐสภาจากการเลือกตั้ง ให้มาร่วมต่อสู้เพื่อปฏิรูปประเทศ โดยให้ยึดผลประโยชน์ของคนไทยทั้งชาติว่า ในการหารือ ได้มีการคุยเรื่องนี้จริง แต่ว่าในขณะนี้ ทางประชาธิปัตย์ยังไม่สามารถทำตามข้อเสนอดังกล่าวได้ เพราะยังมีกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับ ที่รออยู่ในสภา ซึ่งทาง ปชป.จำเป็นต้อง ร่วมพิจารณาเพื่อคัดค้าน ท้วงติง ตรวจสอบ ให้เกิดความถูกต้องในสภา แต่ถ้าหากเหตุการณ์ต่างๆ พัฒนาไปสู่จุด ๆ หนึ่ง ซึ่งไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น หากมีการใช้เสียงมากเป็นเผด็จการทางสภา โดยไม่สนใจ ปัญหาทุกข์สุขของแผ่นดิน ค่าครองชีพภาคครัวเรือนสูงขึ้น สินค้าเกษตรตกต่ำลง เมื่อถึงวันนั้น จ ส.ส.ของพรรค ยอมเสียสละออกมาร่วมต่อสู้กับ ประชาชน เพราะเราได้ยืนยันว่า จะสู้ทั้งในและนอกสภากับประชาชน

คุณหญิงกัลยา กล่าวต่ออีกว่า การพบปะหารือจะมีในครั้งต่อๆ ไป ถ้าหากสถานการณ์มีความคืบหน้าในเรื่องต่างๆ สำหรับการกล่าวหาว่า พรรคจะออกมาจับมือกับกลุ่ม พธม.เพื่อก่อม็อบล้มรัฐบาลนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเราบอกมาตลอดว่า ไม่ได้ล้มรัฐบาล เพียงแต่ให้ยุติการสร้างปัญหาเพิ่ม ไปแก้ไขปัญหาให้ตรงที่คนเดือดร้อน แต่รัฐบาลนี้ กลับมุ่งที่จะออกกฎหมายล้างผิด เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อลดอำนาจองค์กรอิสระ ศาล เขาทำทั้งแทรกซึม ครอบครองเข้าไปในทุกองค์กร เพื่อเอื้อให้พวกพ้อง ความถูกต้องชอบธรรมจะอยู่ที่ไหน สำหรับที่ผ่านมา พรรคสนับสนุนรัฐบาลทุกอย่าง ทั้งปัญหาไฟใต้ ทางเราก็ให้ข้อมูล ในการทุจริตคอรัปชัน การกู้สร้างหนี้ให้แผ่นดิน การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เราทักท้วง แต่รัฐบาลเดินหน้าโดยไม่ฟังเสียง

คุณหญิงกัลยา กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ ทางพรรคยินดีที่จะร่วมกับทุกกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ทั้งกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ (กปท.) ที่สวนลุมพินี และกลุ่มอื่นๆ เพราได้เห็นปัญหาเหมือนกันว่า จะปล่อยให้เดินต่อไป โดยการทำร้ายประเทศชาติอย่างนี้ต่อไป ไม่ได้อีกแล้ว ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ นั้น ยังบอกไม่ได้ ต้องดูสถานการณ์ ส่วนการที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปขึ้นเวทีปราศรัยของ กปท. ก็ถือเป็นสิทธิส่วนตัว ซึ่งหากตนว่าง ก็จะไปร่วมด้วย
[Continue reading...]

จากแก้ไข รธน.ถึงพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ปฏิบัติการ ปชป.สร้างผี ให้คนกลัว

- 1 comments
ประเดิมด้วย พรบ.นิรโทษที่ทางประชาธิปัตย์ เดินหน้าผ่าความจริงว่าจะมีการนิรโทษแบบยกเข่ง แต่เป้าหมายจริง อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะคำว่า "ทักษิณ" เป็นคำที่ประชาธิปัตย์ ใช้หากินทางการเมืองได้ตลอด สร้างให้เห็นว่า การที่จะนิรโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องที่เสียหาย เพราะเป็นผู้ที่กระทำความผิด จนศาลมีคำพิพากษา จำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา
ด้วยคำพิพากษา ในจำขัง 2 ปี ประชาธิปัตย์ สร้างให้เห็นถึงความเลวร้ายของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่ ความเสียหายจากการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้กระทบต่อผู้ใดเลย
จนกระทั่งคดีนี้ ศาลจะมีคำสั่งใหม่ให้คุณหญิงพจมาน คืนที่ดินให้กับกองทุนฟื้นฟู และได้รับเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย แสดงว่าที่มาของคดี เปลี่ยนไป
แต่ข้อกล่าวหาที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงเดิม
การลงโทษความผิดทางกฏหมายต้องพิจารณาเจตนาของการกระทำของผู้กระทำผิดอีกด้วย ซึ่งจะเป็นได้จากคำพิพากษาว่า "เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน" "การป้องกันตัว" "ความผิดจากการวางแผนล่วงหน้ากับการบันดาลโทสะก็ต่างกัน"
แต่จากการกล่าวหาถ้าเป็นผี ก็ย่อมน่ากลัว ถึงขั้นจะกินตับไต ไส้พุงเลยทีเดียว
นี่คือวิธีการของประชาธิปัตย์
หากย้อนดูความผิดที่เกิดขึ้นกับพรรคของตัวเอง เช่น กรณี สปก.4-01 การฉ้อโกงประชาชน ของญาติและคนใกล้ชิด การฆ่าคน ของนายครรชิต ประชาธิปัตย์เห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย
มาถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน  พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้าน ประชาธิปัตย์วาด สร้างความน่ากลัว ให้เห็นว่าสิ่งที่กำลังกระทำนั้นเกิดความเสียหายอย่างมากมายให้กับประเทศและประชาชน
จากรัฐธรรมนูญที่ประชาธิปัตย์กอดแน่นไว้ ทั้งที่มีหลายมาตราที่ไม่เป็นประชาธิปไตย การบริหารจัดการน้ำซึ่งจะเอามาแก้ไข ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมอีก ก็ไม่ได้กล่าวหาว่า "ส่อ" โกง
พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้าน ก็เช่นกัน ทั้ง ๆ ที่ประเทศต้องการการพัฒนา ก็ว่าส่อ โกง" อีก
การโกงสามารถป้องกันได้ ถ้าช่วยกันเป็นหูเป็นตา
ประเทศกำลังเข้าสู่ AEC รอบ ๆ บ้านเราเขาเร่งการพัฒนา เมื่อถึงเวลานั้น เราจะทำอย่างไร
ประชาธิปัตย์กระทำโดยไม่เลือกวิธีการ โดยเพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้นหรือ
[Continue reading...]

เดินหน้าผ่าความจริง แต่ลืมเอาความจริงของ "ตน" มาผ่า

- 0 comments
ประชาธิปัตย์เริ่มเปิดเวทีผ่าความจริง อ้างเพื่อต่อสู้  ระบอบทักษิณ โดยใช้ธงชาติเป็นสัญญลักษณ์ ขณะเดียวกันได้เปิดหน้าเพจ ล้านชื่อต้านล้างผิด เริ่มเวทีแรกที่สวนหลวง

นี่คือพฤติกรรมของพรรคการเมืองที่เคยประกาศว่า "เรายึดมั่นในระบอบรัฐสภา"

หลังจากที่ประชาธิปัตย์ พ่ายแพ้การต่อสู้ในทางรัฐสภา ด้วยจำนวนเสียงที่น้อยกว่า

การได้เสียงที่น้อยกว่าไม่ได้ทำให้ พรรคประชาธิปัตย์ ฉุกคิดถึงเหตุผลที่ได้ เสียงที่น้อยกว่าพรรคเพื่อไทย

ไม่ได้ยึดหลักการในระบอบประชาธิปไตย

ไม่ได้เคารพเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคเพื่อไทย

กลับมองเห็นว่าแพ้เพราะ เงิน

ทั้ง ๆ ที่นายอลงกรณ์ ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ใช้เงินมากกว่า ด้วยซ้ำ

นายอลงกรณ์ ยัง พูดต่ออีกว่า ถ้าจะให้ประชาธิปัตย์ พลิกเป็นฝ่ายชนะได้ คือการเปลี่ยนวิธีคิด ปฏิรูป หลักคิดทั้งหมด โดยยึดเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง

โดยการมีนโยบายระยะยาว ไม่ใช่งัดเอามาใช้เฉพาะหน้า เมื่อจะมีการเลือกตั้ง

การเดินหน้าบิดเบือนข้อเท็จจริง ว่าผู้อื่น โกง ผู้อื่นผิด

กลบเกลื่อนในสมัยที่ตัวเองได้เป็นรัฐบาล ซึ่งมีสาระพัดโกง แทบทุกโครงการ ตั้งแต่ชุมชนพอเพียง โครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งเห็นชัด ๆ คือ การสร้างโรงพักทดแทน ที่ยังทดแทนไม่ได้เพราะยังไม่เสร็จ เนื่องจากมีการโกง กิน จนไม่สามารถนำเงินมาจ่าย ค่าแรง ค่าวัสดุอุปกรณ์ได้

ชี้นิ้วว่าคนอื่นไม่ดี 1 นิ้ว กลับลืมมองว่าอีก 3 นิ้วชี้เข้าหาตัวเอง

เพราะขณะที่ว่าคนอื่นเขา อีเหนากลับโกงเสียเอง

ซึ่งประชาธิปัตย์ไม่เคยนำมาผ่าบนเวที

[Continue reading...]

คลิป ประชาธิปัตย์ บิดเบือนขั้นเทพ กรณี "ตัดต่อ"ภาพนายก

- 0 comments
ประชาธิปัตย์นำคำพูดของนายธาริต ชี้แจงกรณี รับคดีตัดต่อภาพนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของ นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล ไปขายต่อ บิดเบือน คือคำว่า "ประมุข"

ทั้ง ๆ ที่ นายธาริต ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรี เป็นประมุขฝ่ายบริหาร ซึ่งประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ไม่ทราบความหมาย แต่ต้องการกระแสทางการเมือง

ที่มา : ข่าวค่ำ DNN
[Continue reading...]

อียิปต์ & คนเสื้อแดง พูดภาษาเดียวกัน "ประชาธิปไตย"

- 0 comments
"ฉันไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ฉันแค่ปกป้องเสียงเลือกตั้งของฉัน ที่ได้ถูกขโมยไป"

นั่นคือ การออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยที่อียิปต์ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศไทยใน ปี 53 ในสมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์

ประชาชนในประเทศไทยก็รียกร้องประชาธิปไตยที่ถูกฉีกโดยทหาร เมื่อ ปี 49

จากการออกมาเรียกร้องในครั้งนั้น

ประชาชนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย

เช่นเดียวกับที่อียิปต์

แม้ว่าไทยกับอียิปต์จะพูดกันคนละภาษา

แต่พูดภาษา "ประชาธิปไตย" เหมือนกัน
[Continue reading...]

สมชาย "ยัน" ไม่เคยจ้างวาน "บอล" ฆ่าเอกยุทธ

- 0 comments
นายสมชาย จิตรปรีดากร ประธานบริษัท ทรีวิว จำกัด ยัน ไม่เคยจ้างวาน ให้บอล ฆ่า เอกยุทธ ได้เคยรู้จัก ทักษิณเป็นการส่วนตัวหรือไปพรรคเพื่อไทย อย่างที่ถูกกล่าวหา ได้เตรียมมอบหมายทนายดำเนินคดีกับคนให้ข้อมูล...
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นายสมชาย จิตรปรีดากร ประธานบริษัท ทรีวิว จำกัด ได้เข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง (ผบช.น.) และ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง เพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากถูก นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ซึ่งอดีตทนายความของนายเอกยุทธ กล่าวพาดพิงว่าตนเป็นผู้จ้างวานฆ่านายเอกยุทธ ตามคำให้การของ นาย บอล หรือสันติภาพ เพ็งด้วง


นายสมชาย ได้ยืนยันว่า ตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายเอกยุทธแต่ประการใด  และไม่รู้จักนายบอลเป็นการส่วนตัว เนื่องจากตนได้ประกอบธุรกิจอยู่ที่อเมริกา และทราบเพียงแต่ว่า นายบอลเคยเป็นพนักงานขับรถให้กับผู้จัดการฝ่ายการเงินของบริษัทของตน ได้เพียง 1 เดือน ก่อนจะที่ลาออกไป เพราะเหตุว่าได้เงินเดือนน้อย

สำหรับกรณีที่นายบอลได้อ้างว่าตนเป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย ปฏิเสธว่า ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เพียงทราบข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น และไม่เคยเดินทางเข้าไปที่พรรคเพื่อไทย

การที่เป็นข่าวในครั้งนี้ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งยังไม่ทราบเหตุผลที่ในการนำชื่อไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ และหลังจากนี้ตนจะมอบหมายให้ทางทีมทนายความ รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย

ในขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ข้อสังเกตที่นายสุวัตรตั้งมา 5 ประเด็น ได้สั่งการให้กองสืบสวน ไปสืบสวนข้อเท็จจริง และรายงานผลให้ทราบภายในวันที่ 25 ส.ค.นี้ โดยยืนยันว่าพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ที่มา :ไทยรัฐ
[Continue reading...]

ฤ จะให้ไทย เหมือนกับอียิปต์ ประชาธิปัตย์ จึงจะพอใจ

- 0 comments
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอียิปต์ในขณะนี้คือการลุกฮือของประชาชน ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการที่มาจากทหาร จากการต่อสู้มีการบาดเจ็บล้มตายของประชาชนมากมาย

แนวทางของรัฐบาลเผด็จการทหารกับรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยนั้นต่างกัน

ความแตกต่างนี้ สามารถเปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจนจากรัฐบาลเสรีประชาธิปไตย เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือหลาย ๆ ประเทศในแถบยุโรป การปราบปรามสังหารประชาชนจะไม่เกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้

แต่ก็เป็นเรื่องที่แปลก กลับเกิดขึ้นในประเทศไทย จากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ว่าจะไม่ได้เสียงข้างมาก

แต่แนวคิดกลับอิงแอบเผด็จ นิยมการปฏิวัติ เพราะ พรรคการเมืองนี้ จะได้รับอานิสงส์ จากการปฏิวัติรัฐประหารเสมอ ๆ

ถ้าไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลเอง ก็มีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล

นั่นก็คือพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีอายุจากการก่อตั้งมา 67 ปี

ในครั้งล่าสุดที่มีนายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรค ก็ได้รวบรวม สส.โดยวิธีพิเศษ คือไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และได้เป็นรัฐบาลในปี 51

แม้ว่าประชาธิปัตย์ จะมาจากการเลือกตั้งก็จริง แต่กลับเห็นด้วยในหลักการของคณะปฏิวัติ เห็นด้วยกับหลักการรัฐธรรมนูญที่มีผลพวงจากการปฏิวัติ เพราะประชาธิปัตย์เอง ค้านการแก้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550มาตลอด

ด้วยเหตุที่การจัดตั้งรัฐบาลด้วยวิธีพิเศษของนายอภิสิทธิ์  ก็ได้รับการต่อต้านจากมวลชนที่นิยมในระบอบประชาธิปไตย จนลุกออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน ในปี 52 และ 53

จากเหตุการณ์ดังกล่าว รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ อ้างว่าประชาชนที่มาเรียกร้องนั้น ชุมนุมไม่สงบ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งมีการล้อมปราบอย่างรุนแรง ใน เมษา - พฤษภา 53 มีประชาชนบาดเจ็บล้มตายมากมาย

ถึงจะมีประชาชน  บาดจ็บเป็นพัน ตายร่วมร้อยคน พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังปัดความรับผิดชอบ โดยอ้างว่าการบาดเจ็บล้มตาย นั้นไม่ได้เกิดจากฝีมือของเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นผู้ชุมนุมฆ่ากันเอง โดยชายชุดดำ และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย

จนกระทั่งมีการสอบสวนสาเหตุการตายจากศาล ซึ่งชี้ว่าการตายเกิดจากฝีมือเจ้าหน้าที่ แต่ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังพูดเหมือนเดิม คือ ฝีมือชายชุดดำ และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย

ข้ออ้างว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธ เป็นการอ้างเพื่อใช้ในการปราบปรามประชาชน ซึ่งที่อียิปต์ก็ใช้ข้ออ้างนี้เช่นกัน

การกล่าวอ้างโดยขาดหลักฐานยืนยัน การกล่าวหาว่าผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย ยัดเยียดข้อหาเหล่านี้ โดยที่ศาลเองก็ยังไม่ได้มีคำพิพากษาว่า คนเหล่านั้นผิดจริงหรือไม่

การยัดเยียดข้อกล่าวหา การสั่งฆ่าประชาชน ไม่น่าจะเกิดจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มาจากพรรคการเมืองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

การกล่าวหา และการต่อต้านทุกวิถีทางในการที่จะหาข้อเท็จจริงให้กับประชาชน และการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ในที่สุดไทยก็จะรบกันเอง มีการบาดเจ็บล้มตายของประชาชนอย่างเช่น อียิปต์ ให้ตายกันเป็นเหมื่อนเป็นแสน ถึงจะยุติ ถึงจะได้

ที่ยุติไม่ได้เพราะคนที่ตายนั้นไม่ใช่ พวกพ้อง ญาติ หรือตัวเอง

ไม่น่าจะมาจากพรรคที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger