นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ โพสในเฟสบุ๊คส่วนตัวปฏิเสธร่วมเวทีปฎิรูปเพราะ รัฐบาลขาดความน่าเชื่อถือและนายกไม่ปลดล็อคเรื่องการเลือกตั้งและการรักษาการนายก ตามข้อความดังนี้ :
[Continue reading...]
พรุ่ง นี้ (๒๐ ม.ค.) มีข่าวว่านายกรัฐมนตรี จะเชิญพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ไปประชุมเวทีปฏิรูปต่อเนื่องจากที่ประชุมเมื่อวัน ที่ ๑๖ ม.ค. ที่ผ่านมา
พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปฏิรูปประเทศโดยได้เดินหน้าพูดคุยกับภาคส่วน ต่างๆ จัดทำข้อเสนอเรื่องการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นและปัญหาการจัดการการเลือกตั้ง เสร็จแล้ว อยู่ในระหว่างจัดทำข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตามจากการหารือกับหลายองค์กร มีความเห็นพ้องว่างานปฏิรูปจะสำเร็จได้ผู้ดำเนินการต้องเป็นผู้ที่มีความน่า เชื่อถือ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย และมีความจริงใจ แต่ข้อเท็จจริงปัจจุบันรัฐบาลไม่อยู่ในฐานะดังกล่าว โดยจะเห็นได้ว่ามี ๗ องค์กรธุรกิจและพันธมิตร สภาพัฒนาการเมือง หรือแม้แต่ปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุว่ารัฐบาลอยู่ในฐานะของผู้ขัดแย้งไม่สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้
พรรคเห็นด้วยกับองค์กรเหล่านี้ว่างานปฏิรูปเดินไม่ได้ถ้าไม่ปลดล็อคปัญหาการ เลือกตั้ง ที่กกต.ยอมรับว่าไม่สามารถจัดให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือมีความสุจริตเที่ยง ธรรมได้ และไม่ปลดล็อคเรื่องการรักษาการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งการปลดล็อคทั้ง ๒ เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้ปฏิเสธ และยังปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมและผู้อยู่ตรงข้ามรัฐบาลอย่าง ต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีไม่เคยแสดงท่าทีต่อความรุนแรงดังกล่าวเลย
ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะทำงานการปฏิรูปกับภาคส่วนอื่นๆ ต่อไป แต่จะไม่เข้าร่วมในการประชุมวันจันทร์ที่เป็นเพียงความพยายามใช้การประชุม ลดกระแสเพื่อรักษาอำนาจและเดินหน้าเลือกตั้ง ๒ ก.พ.
ผมอยากเตือนความจำนายกรัฐมนตรีว่าครั้งที่แล้วที่นายกรัฐมนตรีเชิญผมไปร่วม สภาปฏิรูป ผมเตือนให้ปลดล็อคกฎหมายนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรีปฏิเสธจึงทำให้บ้านเมืองมาถึงจุดนี้
อย่าเชื่อพี่ชายและทำผิดซ้ำซากเลยครับ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
๑๙ มกราคม ๒๕๕๗
พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปฏิรูปประเทศโดยได้เดินหน้าพูดคุยกับภาคส่วน ต่างๆ จัดทำข้อเสนอเรื่องการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นและปัญหาการจัดการการเลือกตั้ง เสร็จแล้ว อยู่ในระหว่างจัดทำข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตามจากการหารือกับหลายองค์กร มีความเห็นพ้องว่างานปฏิรูปจะสำเร็จได้ผู้ดำเนินการต้องเป็นผู้ที่มีความน่า เชื่อถือ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย และมีความจริงใจ แต่ข้อเท็จจริงปัจจุบันรัฐบาลไม่อยู่ในฐานะดังกล่าว โดยจะเห็นได้ว่ามี ๗ องค์กรธุรกิจและพันธมิตร สภาพัฒนาการเมือง หรือแม้แต่ปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุว่ารัฐบาลอยู่ในฐานะของผู้ขัดแย้งไม่สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้
พรรคเห็นด้วยกับองค์กรเหล่านี้ว่างานปฏิรูปเดินไม่ได้ถ้าไม่ปลดล็อคปัญหาการ เลือกตั้ง ที่กกต.ยอมรับว่าไม่สามารถจัดให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือมีความสุจริตเที่ยง ธรรมได้ และไม่ปลดล็อคเรื่องการรักษาการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งการปลดล็อคทั้ง ๒ เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้ปฏิเสธ และยังปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมและผู้อยู่ตรงข้ามรัฐบาลอย่าง ต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีไม่เคยแสดงท่าทีต่อความรุนแรงดังกล่าวเลย
ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะทำงานการปฏิรูปกับภาคส่วนอื่นๆ ต่อไป แต่จะไม่เข้าร่วมในการประชุมวันจันทร์ที่เป็นเพียงความพยายามใช้การประชุม ลดกระแสเพื่อรักษาอำนาจและเดินหน้าเลือกตั้ง ๒ ก.พ.
ผมอยากเตือนความจำนายกรัฐมนตรีว่าครั้งที่แล้วที่นายกรัฐมนตรีเชิญผมไปร่วม สภาปฏิรูป ผมเตือนให้ปลดล็อคกฎหมายนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรีปฏิเสธจึงทำให้บ้านเมืองมาถึงจุดนี้
อย่าเชื่อพี่ชายและทำผิดซ้ำซากเลยครับ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
๑๙ มกราคม ๒๕๕๗
จาก เพจ Abhisit Vejjajiva