ตั้งแต่เปลี่ยนการปกครอง จาก ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็น ระบอบประชาธิปไตย มีการยึดอำนาจ จากประชาชน หรือที่เรียกกันว่า รัฐประหาร ของคณะทหาร 12 ครั้ง ด้วยกัน เมื่อทำการสำเร็จ มักจะเรียกว่า "คณะปฏิรูป" หรือ "คณะปฏิวัติ" แต่ถ้าหากทำการไม่สำเร็จ จะเรียกว่า กบฏ
ที่จั่วหัวข้อว่า ยึดอำนาจจากประชาชน ก็เพราะว่า ในทุกครั้ง หลังจากคณะ ยึดอำนาจเข้ามาจัดระบบ เข้ามาจัดระเบียบ ตามที่ตัวเองต้องการ ก็จะคืนอำนาจให้กับประชาชน ด้วยการให้มีการเลือกตั้ง
ด้วยเหตุนี้ การเข้ามายึดอำนาจทุกคั้ง ของทหาร ไม่ใช่ ยึดอำนาจการบริหาร จากรัฐบาล เพราะรัฐบาลได้รับมอบหมายจากประชาชนเข้ามาบริหารประเทศ
ในการยึดอำนาจทุก ๆ ครั้ง เมื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนเสร็จ ทุกอย่างก็จบ
แต่ในการเข้ามายึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 แม้ว่าทางคณะยึดอำนาจ จะอ้างว่า คืนอำนาจให้กับประชาชน แต่ในข้อเท็จจริง เหตุการณ์นั้นยืดยื้อ มาจนถึงปัจจุบัน 7 ปีด้วยกัน โดยการแฝงไว้ในรัฐธรรมนูญ ปี 50 ด้วยการให้อำนาจแฝงไว้กับ องค์กรอิสระ ต่าง ๆ ให้เข้ามาควบคุมการบริหารของรัฐบาล เหมือนกับการควบคุมอำนาจของประชาชนไว้ด้วยเช่นกัน
การใช้ข้ออ้าง ในการเข้ามายึดอำนาจในทุก ๆ ครั้ง ล้วนเหมือนกัน
แต่ในครั้งที่ผ่านมา ใช่เหตุผลที่แท้จริงหรือไม่ เพราะ หัวหน้าคณะเข้ามายึดอำนาจ คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน กลับมาใช้วิถีทางประชาธิปไตย คือผ่านการเลือกตั้ง
เป็นการชี้ให้เห็นถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ยังยึดในอำนาจในรูปแบบเก่า ยังหวงอำนาจไม่ยอมปล่อย ให้อำ
นาจนี้กับประชาชน
เพราะเมื่อไหร่ที่อำนาจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
ผลประโยชน์ที่พึงมี พึงได้ อย่างในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่สามารถทำได้
ถ้าความคิดดูถูกประชาชนยังคงฝังอยู่ในความคิดเช่นนี้ ยากที่ประเทศจะเดินหน้าได้
การเข้ามายึดอำนาจจากประชาชนก็คงจะมีอยู่ต่อไป
