นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง
ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของพรรคเพื่อไทย(พท.)
และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
เกี่ยวกับแนวทางในการช่วยคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมือง ว่า
ตนได้มีการหารือกับทางตัวแทนของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยได้นำเสนอชุดความคิดที่หวังจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองใน
ปัจจุบันให้กับสองฝ่ายไป
แต่จากการหารือครั้งนี้สรุปว่ายังไม่มีข้อยุติว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะยอมรับชุดความคิดดังกล่าวหรือไม่ แนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ไม่ดีเท่าใดนัก เนื่องจากมุมมองทั้งสองฝ่ายยังมีความแตกต่างกันอยู่ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ทั้งสองฝ่ายคงนำชุดความคิดที่ตนได้เสนอ ไปหารือกันว่าจะเป็นวิธีการคิดที่จะช่วยให้เกิดผลดีกับสถานการณ์การเมืองใน ปัจจุบันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนจะนำข้อหารือในวันนี้นำเสนอให้กกต.อีก 4 คน ได้รับทราบในการประชุมกกต.วันพรุ่งนี้ ( 3 มกราคม ) จากนั้นจึงจะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้รับทราบว่าสิ่งต่างๆที่ได้นำเสนอไปนั้น เป็นอย่างไรและผลตอบรับเป็นอย่างไร
“ในวันนี้ใช้เวลาหารือร่วมกับทางตัวแทนพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ นานกว่า 2 ชั่วโมง นัดพบกันที่โรงแรมชื่อดังย่านใจกลางเมือง แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีข้อยุติ เท่าที่ดูพบว่าขณะนี้ยังเห็นความแตกต่างในวิธีการคิดของทั้งสองพรรคการเมือง จึงไม่ง่ายนักที่จะทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน เพราะฉะนั้นคงต้องรอคอยให้สถานการณ์ต่างๆ มันพัฒนาไปสู่อีกระดับหนึ่ง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องรอคอยไปถึงเมื่อใด” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการประสานเพื่อขอหารือกับทางกลุ่มกปปส.นั้นขณะนี้ยังไม่มีการตอบรับว่า จะร่วมหารือกับทางกกต.หรือไม่ ดังนั้น กกต.คงทำสิ่งใดไม่ได้ แต่รู้สึกห่วงใย ในสถานการณ์บ้านเมือง เนื่องจากพัฒนาการของเหตุการณ์ต่างๆ นั้นดูเหมือนจะเดินไปในทิศทางที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งตนได้รับข่าวว่าทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ประกาศเปิดประเทศ ในวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งตรงกับวันที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. นัดชุมนุมใหญ่เพื่อปิดประเทศเช่นกัน ดังนั้นปัญหาเหล่านี้คงไม่ใช่ปัญหาการเลือกตั้งอีกต่อไปแล้ว แต่จะเป็นปัญหาของบ้านเมือง ที่ยังไม่มีทางออก โดยแต่ละฝ่ายพยายามใช้กำลังของตัวเองที่มีอยู่ออกมาแสดงและเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะดำเนินการแก้ไขคงไม่ใช่เป็น เรื่องของกกต.แล้ว
ที่มา : คมชัดลึก
[Continue reading...]
แต่จากการหารือครั้งนี้สรุปว่ายังไม่มีข้อยุติว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะยอมรับชุดความคิดดังกล่าวหรือไม่ แนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ไม่ดีเท่าใดนัก เนื่องจากมุมมองทั้งสองฝ่ายยังมีความแตกต่างกันอยู่ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ทั้งสองฝ่ายคงนำชุดความคิดที่ตนได้เสนอ ไปหารือกันว่าจะเป็นวิธีการคิดที่จะช่วยให้เกิดผลดีกับสถานการณ์การเมืองใน ปัจจุบันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนจะนำข้อหารือในวันนี้นำเสนอให้กกต.อีก 4 คน ได้รับทราบในการประชุมกกต.วันพรุ่งนี้ ( 3 มกราคม ) จากนั้นจึงจะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้รับทราบว่าสิ่งต่างๆที่ได้นำเสนอไปนั้น เป็นอย่างไรและผลตอบรับเป็นอย่างไร
“ในวันนี้ใช้เวลาหารือร่วมกับทางตัวแทนพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ นานกว่า 2 ชั่วโมง นัดพบกันที่โรงแรมชื่อดังย่านใจกลางเมือง แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีข้อยุติ เท่าที่ดูพบว่าขณะนี้ยังเห็นความแตกต่างในวิธีการคิดของทั้งสองพรรคการเมือง จึงไม่ง่ายนักที่จะทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน เพราะฉะนั้นคงต้องรอคอยให้สถานการณ์ต่างๆ มันพัฒนาไปสู่อีกระดับหนึ่ง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องรอคอยไปถึงเมื่อใด” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการประสานเพื่อขอหารือกับทางกลุ่มกปปส.นั้นขณะนี้ยังไม่มีการตอบรับว่า จะร่วมหารือกับทางกกต.หรือไม่ ดังนั้น กกต.คงทำสิ่งใดไม่ได้ แต่รู้สึกห่วงใย ในสถานการณ์บ้านเมือง เนื่องจากพัฒนาการของเหตุการณ์ต่างๆ นั้นดูเหมือนจะเดินไปในทิศทางที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งตนได้รับข่าวว่าทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ประกาศเปิดประเทศ ในวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งตรงกับวันที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. นัดชุมนุมใหญ่เพื่อปิดประเทศเช่นกัน ดังนั้นปัญหาเหล่านี้คงไม่ใช่ปัญหาการเลือกตั้งอีกต่อไปแล้ว แต่จะเป็นปัญหาของบ้านเมือง ที่ยังไม่มีทางออก โดยแต่ละฝ่ายพยายามใช้กำลังของตัวเองที่มีอยู่ออกมาแสดงและเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะดำเนินการแก้ไขคงไม่ใช่เป็น เรื่องของกกต.แล้ว
ที่มา : คมชัดลึก