Monday, December 30, 2013

จุรินทร์ ยกรัฐธรรมนูญ ถาม"ปู" เหตุดื้อเดินหน้าเลือกตั้ง

- 0 comments
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า มีรัฐธรรมนูญบางมาตราที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 และเกี่ยวข้องกับผลที่จะตามมา ดังนี้

 1.มาตรา 93 วรรค 7 ระบุว่าในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ ทำให้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใด  มีจำนวนส.ส.ไม่ถึง 500 คน แต่มีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของจำนวนส.ส.ทั้งหมด ซึ่งก็คือ 475 คน ให้ถือว่าส.ส.จำนวนนั้นประกอบเป็นสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องดำเนินการให้มีครบตามจำนวนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ คือ 500 คน ภายใน 180 วัน และให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าอายุของสภาผู้แทนราษฎรที่เหลืออยู่

2.มาตรา 127 วรรค 1 บัญญัติว่าภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้งส.ส. ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก  3.มาตรา 88 วรรค 1 กำหนดว่ารัฐสภาประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ดังนั้นคำถามคือหากหลังเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 ก.พ.2557 มีส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้งมีจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 95 คือน้อยกว่า 475 คน จะถือว่าประกอบเป็นสภาผู้แทนราษฎรได้หรือไม่ และถ้ายังไม่มีสภาผู้แทนราษฎร จะเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกได้หรือไม่

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ มาตรา 171 วรรค 1-2 บัญญัติว่าพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งและรัฐมนตรีอื่นอีก ไม่เกิน 35 คน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. ที่ได้รับแต่งตั้งตามมาตรา 172 ซึ่งกำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่ง ตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรก แต่ถ้าเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกไม่ได้ เพราะยังไม่มีสภาผู้แทนราษฎร แล้วจะเอานายกรัฐมนตรีมาจากไหน จึงมีคำถามนี้ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องตอบ เพราะประกาศจะเดินหน้าเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 ให้ได้ หรือคิดว่าก็ไม่เป็นไร ไม่เดือดร้อน เพราะตราบเท่าที่ยังไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้อยู่รักษาการไปเรื่อย ๆ.

ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์
[Continue reading...]

"สุเทพ" อ้อนชวนตำรวจเป็นพวก ขู่ฟ้อง "ธาริต" ลั่นหลังปีใหม่นัดชัตดาวน์กรุงเทพฯ

- 0 comments
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ขึ้นปราศัยตอนหนึ่งว่า "วันนี้มีตำรวจมาชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งมีการพูดว่า กปปส.ไปพูดให้คนเกลียดตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอชี้แจงว่า กปปส.ทั้งที่ราชดำเนิน และทั่วประเทศ ไม่มีความโกรธแค้น เกลียดชังตำรวจในภาพรวม แต่ไม่พอใจตำรวจเลว ๆ บางคนเท่านั้น ตำรวจทำถูกต้องที่จะปกป้องศักดิ์ศรีตำรวจ แต่ไม่ต้องไปปกป้องตำรวจที่เป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ

“ผมยืนยันอีกครั้งว่าการลุกขึ้นต่อสู้ของประชาชนไม่ต้องการทำร้ายใคร ไม่ต้องการให้มีคนบาดเจ็บ เราถึงยืนหยัดว่าจะสู้ตามหลักกฎหมาย ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญรับรอง และประกาศชัดเจนว่าจะเลือกวิธีสู้แบบสงบ สันติ อหิงสา และเรายืนยันจะสู้ตามแนวทางนี้จนจบเกม ฉะนั้นที่มีคนบาดเจ็บ เสียชีวิตไม่ใช่การกระทำของประชาชน และเราเองก็เสียใจที่มีผู้เสียชีวิตไม่ว่าตำรวจ หรือผู้ชุมนุม เพราะคนที่ตายเป็นเหยื่อของสถานการณ์ และระบอบทักษิณ”นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ในปี 2553 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายก่อแก้ว พิกุลทอง ได้จัดการณ์ชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีทหาร และตำรวจเสียชีวิต และมีการเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งกรณีดังกล่าวนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตั้งข้อหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และตน ว่าฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ซึ่งตนและนายอภิสิทธิ์ ก็ได้ไปมอบตัวกับดีเอสไอ ดีเอสไอส่งสำนวนไปอัยการ ก่อนจะส่งคดีขึ้นศาล

และวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง และแต่งตั้งนายสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เป็น ผอ.ศอ.รส. ซึ่งนายสุรพงษ์ก็ได้ตำรวจ 3 นายนี้มาทำงาน แต่การปฏิบัติตามคำสั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และสุรพงษ์ ก็ทำให้มีคนตายแล้ว ตนจะคอยดูว่านายธาริต จะตั้งข้อหาสองคนนี้ว่าฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลหรือไม่ หากไม่ตั้งก็แสดงว่าสองมาตรฐาน ตนจะเตรียมดำเนินคดีกับธาริต อีกคดีหนึ่งในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา บอกกับสื่อว่าไม่รู้ว่าจะปิดกรุงเทพฯ ทำไม ว่า แสดงว่านักการเมืองไม่เข้าใจประชาชน เพราะที่ประชาชนสั่งให้ตนปิดกรุงเทพฯ เพราะไม่ต้องการเห็นการเมืองแบบเดิม ต้องการเห็นการเมืองเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ต้องการเห็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ และไม่ต้องการเห็นนักการเมืองและข้าราชการผู้ใหญ่การสมคบกันทุจริต คอร์รัปชั่น

ทั้งนี้หลังปีใหม่จะมีการนัดหมายกันปฏิบัติการณ์ใหญ่ปฏิวัติประชาชนปิด กรุงเทพฯ ด้วยสันติและมือเปล่า เพื่อยึดอำนาจในการปกครองประเทศมาเป็นของประชาชน โดยต้องรวมพลังของประชาชนทั้งประเทศ เพื่อทำให้ข้าราชการเห็นชัด และต่างประเทศเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นที่ต้องการของประชาชน และประชาชนจะไม่ยอมให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไปอีกแล้ว โดยจะยึดถนนทุกสายเพื่อไม่ให้รถยนต์ของข้าราชการออกไปทำงานได้ และตั้งเวทีตามแยกต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ประชาชน หรือองค์กรใดอยากจัดเวทีที่แยกไหนแจ้งมาที่เวทีของเราได้เลยตั้งแต่ตอนนี้ ใครอยากทำกิจกรรมอะไรที่สร้างสรรค์บนถนนก็ทำได้เลย และเมื่อถึงเวลานั้นข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ควรตัดใจจากระบอบทักษิณแล้วมาเข้ากับประชาชน.
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger