Tuesday, September 24, 2013

ปิดตำนาน งูเห่า แต่งชุดขาวรอเก้อ "พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์" อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย

- 0 comments
พล.อ.อ.สมบุญ ระหงส์ อดีตนักการเมืองระดับบิ๊กเนมเมื่อราวทศวรรษก่อน ที่ถึงแก่อนิจกรรม ไปเมื่อกลางดึกวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ในวัย 81 ปี

แต่หากย้อนกลับไปช่วงปีพ.ศ.2530 ต้องบอกว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักพล.อ.อ.สมบุญ โดยเฉพาะเจ้าของตำนาน "ชุดขาวรอเก้อ"

ในปีพ.ศ.2534 พล.อ.อ.สมบุญ ได้เข้ามาอยู่ในพรรคชาติไทย ตามคำทาบทามของผู้บริหารพรรคในเวลานั้นที่ต้องการให้มีนายทหารที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคณะรักษาความสงบเรียบร้อย (รสช.) เข้ามาอยู่ในพรรค เพื่อเป็นเกราะป้องกันการถูกคณะรสช.ยึดทรัพย์ ประกอบกับ "พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน" ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทำให้พรรคชาติไทยขาดหัวเรือใหญ่

จึงเป็นจังหวะเหมาะพอดีที่พล.อ.อ.สมบุญ ซึ่งเป็นผู้ที่มีคอนเนคชั่นที่มีต่อรสช.ได้เข้ามาช่วยประคับประคองให้พรรคผ่านวิกฤติครั้งนั้นไปได้

ในปี 2535 การเมืองไทยเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ปรากฏว่าพล.อ.อ.สมบุญ ได้นำพรรคชาติไทยเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรอย่างสง่างามด้วยจำนวนสส.ถึง 74 คนเป็นรองเพียงพรรคสามัคคีธรรมที่ได้สส.76 คนเท่านั้น ในเดือนมีนาคม ปีนั้นเองที่พล.อ.อ.สมบุญ ได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคสามัคคีธรรมและสนับสนุนให้ "บิ๊กสุ" พล.อ.สุจินดา คราประยูร ผู้ทำการรัฐประหารเมื่อปี 2534 เป็นนายกรัฐมนตรี

พรรคชาติไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.สุจินดาถึง 14 ตำแหน่ง โดยพล.อ.อ.สมบุญ ได้รับมอบหมายให้นั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ

ทว่าอายุของรัฐบาลพล.อ.สุจินดาไม่ยาวมากนักเพราะเผชิญกับกระแสกดดันครั้งใหญ่จนเกิดเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ"ในปีเดียวกัน ก่อนที่พล.อ.สุจินดา จะตัดสินใจลาออกจากเก้าอี้นายกฯเพื่อสงบศึก ซึ่งในการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.สุจินดา ครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ "ตำนานชุดขาวรอเก้อ" ในเวลาต่อมา

ขณะนั้น พล.อ.อ.สมบุญ ได้ถูกยกให้เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ต่อจากพล.อ.สุจินดา เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากบิ๊กทหารและพรรคการเมืองผู้กุมเสียงข้างมากในสภาฯ ไม่ว่าจะเป็น แกนนำรสช.คนสำคัญ "พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี" "บรรหาร ศิลปอาชา" "เสนาะ เทียนทอง" "สมัคร สุนทรเวช" และ "มนตรี พงษ์พานิช" เป็นต้น

พล.อ.อ.สมบุญ มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าตัวเองได้เป็นผู้นำประเทศคนต่อไปสะท้อนได้จากการแต่งตัวด้วยชุดสีขาวเต็มยศเพื่อเตรียมรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2535  แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อ "อาทิตย์ อุไรรัตน์" ประธานสภาฯในเวลานั้นซึ่งมีหน้าที่นำรายชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯขึ้นทูลเกล้าได้สลับชื่อให้ "อานันท์ ปันยารชุน" เป็นนายกฯแทน จนกลายเป็นที่มาของตำนานชุดขาวรอเก้อ

ต่อมาในปี 2540 พล.อ.อ.สมบุญ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตำนาน "งูเห่า" เพราะเป็น 1ในจำนวน 12 สส.ของพรรคประชากรไทยที่สนับสนุนให้ "ชวน หลีกภัย" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกฯสมัยที่2ต่อจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ลาออกเพื่อรับผิดชอบกับพิษเศรษฐกิจ ทั้งๆที่พรรคร่วมรัฐบาลเวลานั้นเตรียมสนับสนุนให้พล.อ.ชาติชาย มาเป็นนายกฯอีกครั้ง

หลังจากนั้นพล.อ.อ.สมบุญ ก็ลดบทบาททางการเมืองของตัวเองลงไปเพื่อขอใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบก่อนที่จะถึงแก่อนิจกรรมในวัย 81 ปีเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2556 อันเป็นการปิดตำนาน "ชุดขาวรอเก้อ" และ "งูเห่า" อย่างสมบูรณ์ 
[Continue reading...]

โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตซี 8 เตรียมเช็คบิล “ปปช.” ชี้มูลความผิด กรณี ไม่เก็บภาษี “หุ้นชิน”

- 0 comments
คดีภาษีหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2549

สุดท้ายศาลอุทธรณ์พิพากษา น.ส. โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตนิติกร 8 ว. กรมสรรพากร ไม่มีความผิด

ล่าสุด ปลัดกระทรวงการคลังลงนามให้กลับมารับราชการ เปิดเก้าอี้ ผอ.สำนัก (นิติกร 9 บส.)

พร้อมเงินเดือนบวกเงินประจำตำแหน่งเกือบ 7 หมื่น


แต่เจ้าตัวขอไม่กลับเข้ารับราชการต่อ

เตรียมฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่ง ?ไล่ออกจากราชการ? 

เล็งเช็กบิลสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม
[Continue reading...]

คลิป เปิดใจ"กล้าณรงค์" หลังพ้นตำแหน่ง "ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก"

- 0 comments

แม้หนทางข้างหน้าจะว่างเปล่า

แม้เหลือเราเท่านั้นที่ยืนสู้

แม้ไม่มีใครเลยจะคอยดู

เราจะอยู่สู้ต่อไปให้แผ่นดิน

นี่คือบทกลอนของ นายกล้านรงค์ จันทิก เจ้าของฉายา "มือปราบทุจริต" ที่เจ้าตัวภาคภูมิใจในผลงาน มากว่า 34 ปี

เปิดใจกล้าณรงค์ หลังจากพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556 ยังยืนยัน ว่า"การทำงานที่ผ่านมา ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก

ในการทำงาน เจอแรงเสียดทานมากมาย แม้กระทั่งถูกปองร้าย ถูกยิง จนกระสุนขนาด .22 มม.ยังฝังอยู่ที่ขา จนถึงปัจจุบันนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่านายกล้าณรงค์ เกษียณอายุราชการ แต่ก็ยังทิ้ง..ปริศนา..คลิปทวงหนี้ ของนางยมนา สุธาสมิท ให้สังคมกังขาว่า

นายกล้าณรงค์ ตรวจสอบทุกคดี ยกเว้น...ของตัวเอง
คลิกดูคลิปเปิดใจ

คลิกดูคลิป เปิดบันทึก "กล้านรงค์ จันทิก" พิชิตแรงเสียดทาน

คลิกดูคลิปทวงหนี้

คลิกดูคลิป กล้าณรงค์ โต้ไม่เคยเป็นหนี้
[Continue reading...]

ฝ่ายค้านจัดหนัก แทรก "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" ในการแถลงผลงาน 1 ปี ของรัฐบาล

- 0 comments
วันนี้ 24 กันยายน 2556 รัฐบาลแถลงผลงานประจำปีต่อสภาผู้แทนฯ ตามบทบัญญัติรธน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้ำส.ส.รัฐบาลเตรียมพร้อมทั้งปริมาณ คุณภาพ เพราะฝ่ายค้านใช้โอกาศนี้ตัดหนัก อภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างไม่เป็นทางการแน่นอน

อีกเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ต้องทุ่มเท ใส่ใจในรายละเอียดมากๆ นั่นคือ น้ำท่วม ความเดือดร้อนของประชาชน ความเสียหาย ของทรัพย์สิน จำเป็นต้องได้รับการดูแล ช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง มีผู้ รับผิดชอบเป็นเอกภาพ เป็นระบบ เพราะดูๆ การเมือง คงล้มรัฐบาลยาก ทว่า การน้ำ ประมาทไม่ได้

โครงการ 2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งประเทศทั้งระบบ สำคัญแค่ไหน จำเป็นอย่างไร ผ่านสภา ผู้แทนฯเรียบร้อย ต่อไปรัฐบาลเดินสาย โรดโชว์ 12 จังหวัดเป้าหมาย ให้ความรู้ ความเข้าใจกับประชาชน ประเดิม 4-6 ตุลาคม นี้ ที่หนองคาย ซึ่งนายกฯปู เป็นประธานด้วยตัวเอง เพื่อยืนยัน ไฮสปีดเทรน ถึงหนองคายล้านเปอร์เซ็นต์

ในขณะที่ฝ่ายค้านโจมตีผลงานของรัฐบาลว่าการบริหารงานบกพร่อง และโกหกต่อประชาชน ไม่ทำตาม
นโยบาย ที่ให้ไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้ง

คลิกดูการรายงานผลงาน 1 ปี ของนายกรัฐมนตรี
[Continue reading...]

วิตกจริต หรืออิจฉา (มีคลิปวีดีโอ การเพิ่มมูลค่าของเงินในการหมุนแต่ละรอบ)

- 0 comments

คลิก ดูคลิปวีดีโอ การเพิ่มของเงินในการหมุนแต่ละรอบ

ข้อเขียนต่อไปนี้ไม่ได้สนับสนุนการกู้ถ้าหากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

การลงทุนในกิจการต่าง ๆ ไม่ว่าจะก่อตั้งบริษัท เพื่อผลิตสินค้า รับเหมาก่อสร้าง ที่ดินหรือบ้านจัดสรร เป็นตัวแทน ร้านค้า ถ้าการลงทุนนั้น ๆ ต้องใช้เงินมาก แต่มีเงินไม่พอ จำเป็นที่จะต้อง กู้เงินเพื่อมาลงทุน

การกู้ย่อมต้องมีแนวทางที่จะคืนทุน ลงทุนไปแล้ว จะคืนทุนอย่างไร

ในระดับประเทศก็เช่นกัน การกู้เงินมาลงทุน  สิ่งที่เห็นก็คือ ภาระการจ่ายคืน

จะคืนอย่างไร

เงินจะได้มาจากไหน

โดยเฉพาะโครงการของรัฐ

การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง

ไม่ว่าจะเกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น

การขายวัสดุก่อสร้าง

บริษัท ร้านค้าที่เกี่ยวข้อง มีงาน มีรายได่เพิ่มขึ้น

ยังไม่นับการใช้เงิน อีกรอบ ของคนงาน พนักงาน และตัวบริษัทฯเอง ในการไปจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภค บริโภค

ในการหมุนแต่ละรอบ จะเกิดมูลค่าในตัวเอง

ในการหมุนแต่ละรอบ ต้องจ่ายส่วนแบ่งให้กับรัฐบาล ในรูปแบบของภาษีต่าง ๆ

เมื่อโครงการเสร็จ การขนส่งคมนาคมที่รวดเร็ว การไปมาติดต่อก็สะดวกขึ้น การติดต่อ ค้าขาย ขนส่งสินค้า ก็สะดวกขึ้น  ทุกอย่างจะมีมูลค่าอยู่ในตัวเอง

ถ้ามองว่าการลงทุนต่างของรัฐเป็นการขาดทุน ที่ผ่านมาก็คงไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

พอจะมีการลงทุน ก็วิตกว่าจะมีการทุจริต

การมองโดยเอาบรรทัดฐานของตัวเองเป็นหลัก

เพราะตัวเอง พรรคพวกตัวเองเคยกระทำเช่นนั้น

ตัวเองเคยโกง เคยทุจริต ก็คิดว่าคนอื่นคงจะทำเหมือนกัน

การวิตกว่าคนอื่นโกงแน่ ๆ

หรืออิจฉาว่า คนที่ทำน่าจะเป็นตัวเองมากกว่า

คิดได้แค่นี้ประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger