สิ้นเสียงปืนที่ดังขึ้นจนมีคนบาดเจ็บและตาย 1 รายที่ชะอวด
มีเสียงดังจากปากของพลพรรค ประชาธิปัตย์ที่ขานรับไปในทิศทางเดียวกัน
โดยเสียงจากปากนายเทพไท เสนพงศ์ เจ้าของพื้นที่ “จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นเนื่องจากแกนนำมีความเชื่อมั่นว่าเป็นการกระทำจากฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ”
เสียงจาก ส.ส.ประชาธิปัตย์อีกคน นายถาวร เสนเนียม
ว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบเหตุการที่เกิดขึ้น และรีบแก้ปัญหาโดยด่วนก่อนที่จะบานปลาย
เสียงจาก อภิชาต การิกาญจน์ ส.ส.นครศรีฯ พรรคประชาธิปัตย์
"มีการสร้างข่าวว่าชาวบ้านยิงกันเองซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง" ชาวบ้านเขาสามัคคีกัน ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าเหตุการนี้ เป็นการกระทำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ”
ชาวบ้านเป็นผู้ถูกกระทำโดยตรง
ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าโดยตรงไปที่ "รัฐบาล"
สรุปต่ออีกว่า “น่าจะใช้ปืนติดลำกล้องหรือที่เรียกว่า สไนเปอร์ เพราะการยิงเข้าเป้าทุกนัด"
แล้ว “ความจริง” เป็นอย่างไร
จากการพิสูจน์ก็คือ ปืนที่ใช้ยิงที่ได้จากกระสุนในตัวผู้ตายและตัวผู้บาดเจ็บ เป็นกระสุนจากปืนขนาด .38 มม. และมิได้ยิงระยะไกล
เป็นการยิงระยะประชิด
สำหรับคนที่เสียชีวิตซึ่งถูกยิงเป็นจำนวน 2 นัด นัดแรกเข้าสะโพกทะลุขา ส่วนอีกนัดยิงเข้าที่ท้ายทอย สำหรับสภาพศพปรากฏรอยฟกช้ำซึ่งน่าจะเกิดจากการต่อสู้
สำหรับคนที่ได้รับบาดเจ็บนัดแรกยิงผ่านลำคอ ส่วนนัดที่สองทะลุท้ายทอย
ซึ่งทั้งหมดถูกยิงในระยะใกล้ ประชิดเพราะปรากฏมีคราบดินปืนที่ใบหน้าระยะยิงไม่เกิน 3 ฟุต ซึ่งผู้ที่บาดเจ็บจำหน้าคนยิงได้
เป็น “ความจริง” ที่ “สวน” ทางกับเสียงที่ออกจากปาก ของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งขณะนี้ไร้เสียงที่ออกจากปากของท่านผู้แทนเหล่านั้น
จากความจริงสามารถยืนยันได้ว่า
ตกลง ใครจริง ใครเท็จ
ใครที่ต้องการแก้ไข
ใครที่ต้องการให้เรื่องบานปลาย