ใช้หนีไอเอ็มเอฟ "ไม่ใช่แค่ปลดหนี้" แต่เป็นการปลดล็อค "กฏหมายขายชาติ 11 ฉบับ" สมัยชวน 2

มีการโพสในโซเชียลมีเดีย ว่าถ้าไม่ใช้หนี้ ไอเอ็มเอฟ ก่อนกำหนุด จะเกิดอะไรขึ้น มีการเปรียบเทียบ ถึงการใช้หนี้ สไตล์ "ทักษิณ" และ สไตล์ "ชวน" 

มีการคำนวนว่า การใช้หนี้ก่อน (สไตล์ ทักษิณ) ทำให้ต้องเสียค่าปรับ เป็นเงิน สุทธิ 2,952 ล้านบาท

และถ้าไม่ใช้หนี้ก่อน (สไตล์ ชวน)  นำเงินก้อนนั้นมา บริหารเงินเพื่อให้เกิดรายได้ โดยการนำมาฝากกับสถาบันการเงินภยในประเทศ จะมีราย 1,476 ล้านบาท (นายชวน หลีกภัย และคนในพรรคประชาธิปัตย์ มีความสามารถขนาดนั้น ?)
มีแต่ทำหนี้เอกชนลดลง แต่หนี้รัฐกลับเพิ่มขึ้น คือ ผลักภาระหนี้ เอกชน ให้เป็นของประชาชน คือการแก้ NPL  ของเอกชนให้หมดไปโดยรัฐรับภาระแทน
คลิกดูรายละเอียด

แต่การใช้หนี้ก่อนกำหนดมีผลอีกด้านที่ไม่มีใครพูดถึงก็คือ

ทำให้ประเทศหมดพันธกรณีหลาย ๆ อย่าง 

จากการที่ต้องปฎิบัติตาม "จดหมายแสดงเจตจำนง"   (Letter of Intent)  เมื่อชำระหนี้หมด  สิ่งเหล่านั้นเราไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามอีกต่อไป เช่นการที่จะต้อง ขึ้น vat จาก 7% เป็น 10%  ก็ไม่จำเป็น ทำได้โดยไม่มีพันธกรณีใด ๆ ที่ต้องวิตก  ถ้าไม่เช่นนั้นเราต้องขอผัดผ่อนไปเรื่อย ๆ เพราะเรายังมีภาระหนี้อยู่  แต่ตอนนี้เราไม่ต้องแล้ว

การที่พ้นจากข้อพูกพันจากการทำ จดหมายแจ้งเจตจำนง ด้วยการมาออกกฏหมาย 11 ฉบับ (มีบางฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่มีสื่อบางคน (นักข่าวช่อง 7 สี) กลับแก้ต่างให้นายชวน หลีกภัย ว่าเป็นแพะรับบาป (คลิกดูรายละเอียด)

กฏหมาย 11 ฉบับ เป็นที่มาของการนำรัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์เพราะเป็นเงื่อนไขหนึ่งของ IMF
คลิกดูรายละเอียด

ใครเป็นผู้ใช้หนี้ IMF  เขารู้กันทั้งโลก มีเพียง พรรคประชาธิปัตย์ และพลพรรคที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง

แต่ความจริง ก็คือความจริง

[Continue reading...]