Wednesday, January 8, 2014

ผบ.ทบ.กร้าว หากเกิดปะทะ-สูญเสีย รัฐต้องรับผิดชอบ

- 0 comments
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.เวลา09.45 น.  ที่กรมแพทย์ทหารบก พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชาผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการที่ทหารเคลื่อนย้ายกำลังในช่วงนี้เพื่อทำการปฏิวัติรัฐประหารว่า ข่าวลือก็เป็นข่าวที่ไม่จริง ดังนั้นไม่ต้องเชื่อ เพราะการเคลื่อนย้ายกำลังพลมีทุกปีและนโยบายปี 2557 ของกองทัพบกเป็นการนำพากองทัพไปสู่ความทันสมัยในอนาคต ในปีนี้เป็นวาระพิเศษที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะนำยุทโธปกรณ์ใหม่ที่ได้จัดซื้อจัดหามาให้ประชาชนในกทม.ได้เห็นว่าสิ่งที่ได้จัดซื้อมามีสมรรถนะเพียงใด แสดงให้เห็นว่ากองทัพได้ใช้จ่ายงบประมาณในการจัดหายุทโธปกรณ์ได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ส่วนที่มีคนระแวงว่าทหารจะใช้การปฏิวัติเป็นทางออกสุดท้ายนั้นก็กลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงเมื่อมองไม่เห็นก็อย่าไปกลัว คิดว่าทุกอย่างมีสาเหตุหมด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ทั้งนี้อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเรื่องเดียวทุกเรื่องต้องมีสาเหตุ ต้องมีเงื่อนไข ดังนั้นต้องไปหาให้เจอว่าอยู่ที่ไหนถ้าไม่มีเหตุอะไรก็ไม่มีเรื่อง เหมือนเรื่องอีกากับวัว ถ้าวัวมีแผล อีกาก็จะมาจิกหลังทุกวันหากไม่มีแผลก็ไม่มีอีกา ประเทศชาติอยู่ด้วยกระบวนการศาลยุติธรรม องค์กรอิสระถ้าเราอยู่ด้วยการแก้ปัญหาที่ผิดวิธีจะสร้างปัญหาไปเรื่อยๆ


เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าการที่กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)ปิดกทม.จะส่งผลให้เกิดการปะทะกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าการปะทะเกิดมาแล้วหลายครั้งขอให้ลองย้อนกลับไปดูปี53 ว่าเกิดอะไรขึ้น ในปี 53 มีสองฝ่ายคือรัฐบาลกับกลุ่มต่อต้านส่วนปีนี้มีรัฐบาลกับกลุ่มต่อต้านคือกปปส. และยังมีอีกกลุ่มที่เตรียมออกมาอีก สรุปคือมี3 กลุ่ม ซึ่งต่างจากปี 53 ตนขออย่างเดียวว่าอย่าให้เกิดความรุนแรง ทหารต้องดูแลประชาชนทุกพวกทุกฝ่ายไม่ให้บาดเจ็บล้มตายไม่ได้ดูแลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตนต้องดูแลคนทั้งประเทศ ส่วนการปิดกทม.ของกปปส.ต้องคอยดูว่าจะเกิดอะไรซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร เพราะไม่ใช่กปปส.หวังเพียงอย่างเดียวว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายมีทางออกร่วมกัน หรือใครจะหวังให้ฆ่ากันตายหมดใครก็ตามที่ทำให้เกิดความรุนแรงคนนั้นจะต้องรับผิดชอบ  ไม่ว่าพวกไหน ถ้าออกมาเมื่อไร ประชาชนตีกันมีการบาดเจ็บล้มตาย เกิดจลาจลรัฐบาลต้องรับผิดชอบในหลักการ

เมื่อถามว่าหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่งรักษาการจะจบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯเอง เมื่อถามถึงกรณีที่บางฝ่ายมีความต้องการให้ประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเข้าใจ ตนอธิบายในที่ประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)ที่ผ่านมา และชี้แจงว่ากองทัพเคยใช้อย่างไร เพราะทหารถูกนำไปเกี่ยวโยงทุกครั้งไปซึ่งตนชี้แจงถึงเหตุผล และความจำเป็นในการตั้งศอ.รส. ขอย้อนกลับไปเมื่อปี 53ก่อนประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง มีเหตุการณ์ใช้ความรุนแรง 6 ครั้ง มีการใช้อาวุธสงครามยิงโดยไม่รู้ว่าใครทำ จึงมีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงจากนั้นมีการพัฒนาสถานการณ์ตามลำดับ โดยมีเหตุการณ์ใช้อาวุธสงคราม  24-26 ครั้งจึงมีการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินและจากนั้นยังมีการเหตุการณ์ความรุนแรงอีก 60 กว่าครั้ง

“ทั้งหมดในปี 53มีเหตุการณ์ความรุนแรง ใช้อาวุธสงคราม กระสุน และวัตถุระเบิดทั้งหมด 96 ครั้งแต่วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งต้องไปพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าเกิดจากใคร ผมได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีและศอ.รส.ไปแล้วว่าต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะนี้ ใครเป็นคนทำเรื่องนี้ต้องชัดเจน จะได้ไม่พัฒนาไปสู่ปี 53ในปีนั้นมีการประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคงตั้งแต่เดือนก.พ.จนไปจบสิ้นการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเวลา 9 เดือนเต็ม แต่ขณะนี้เพิ่งผ่านไปแค่ 2 เดือน ผมพยายามหยุดไม่ให้ยืดยาวไปสู่จุดนั้นจนทำให้ประเทศชาติเสียหายทุกคนต้องกลับมาแก้ปัญหากันให้เจอ ผมไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงเจ้าหน้าที่และประชาชนไม่ควรใช้ความรุนแรง ไม่ว่าผมพูดอะไรก็เสียหายหมดทุกพวกทุกฝ่ายแต่จำเป็นต้องชี้แจง เพราะทหารทุกคนฟังคำสั่งผมอยู่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทหารต้องดูแลประชาชนทุกฝ่ายทุกพวก ทุกสี ถ้าไม่เลิกสี ผมก็ต้องดูทุกสี ถ้ามี 10 สี ผมก็ดูคน 10 สีขอให้ประชาชนเข้าใจ ใครก็ตามที่มีปัญหากัน ต้องไปหาทางกันให้เจอ อย่าเอาผมมาตัดสินวันนี้เหมือนทำข้อสอบอยู่ ต่างคนต่างงงว่า ข้อสอบถามว่าอย่างไรส่วนคนตอบก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร สรุปไม่เข้าใจทั้งคนออกข้อสอบและนักเรียน จึงจะหากรรมการกลางมาตัดสินผมว่ามันไม่ใช่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่าช่วยบอกให้คนทั้งประเทศมั่นใจได้หรือไม่ว่ากองทัพจะไม่ทำปฏิวัติรัฐประหาร เพราะขณะนี้ทำให้ตลาดหุ้นตก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า“มันไม่เกี่ยวกับทหารอยู่ที่พวกคุณกันเอง หุ้นจะตกหรือไม่อย่ามาโทษทหาร อย่ามาหาว่าทหารจะทำโน่นหรือทำนี่เมื่อสื่อเป็นคนสร้าง วาดเรื่องขึ้นมาเองแล้วให้ผมมายืนยัน ผมไม่ตอบ ผมไม่ยืนยัน” เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า ทางกปปส.มีแผนลับ 10 ประการ เพื่อให้ทหารปฏิวัติ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าต้องตรวจดูว่า จริงหรือไม่ ใช่หรือไม่ วันนี้ใครจะเขียนแผนอะไรก็ได้ ตนอ่านแล้วตนก็ขำวันนี้โลกไม่ได้มีแค่มืดกับสว่าง เพราะถ้าตรงไหนมืดก็เปิดไฟถ้าตรงไหนสว่างเกินไปก็ปิดไฟ ถ้าทุกคนมาช่วยกันสุมไฟให้สว่างมันจะร้อนเกินไปต้องเอาธรรมะเข้าข่ม ต้องมีสติ รู้คิด รู้ทำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงรับสั่งไว้แล้ว

“ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่ผมคนเดียวถ้าให้ผมกับองค์กรของผมมาแก้ปัญหาคงไม่ใช่ ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหาเราต้องสร้างความเข้มแข็ง และรวมพลังกันแก้ปัญหาให้ได้อย่าให้คนใดคนหนึ่งเป็นคนแก้ปัญหา องค์กรใดก็แก้ไม่ได้เพราะปัญหาวันนี้มีความสลับซับซ้อน วันนี้ทหารทำดีที่สุดแล้ว คือการทำให้สถานการณ์หยุดนิ่งอยู่กับที่อาจรำคาญบ้างเล็กน้อยแต่อย่าใช้ยาแรง วันนี้เป็นไข้เล็กน้อย อาจจะเติมยาไปสักหน่อยถ้าใช้ยาแรงมันอันตราย ใครก็ไม่อยากทำให้ประชาชนบาดเจ็บเสียหายทั้งนี้กำลังทหารที่ออกไปช่วยศอ.รส.ไปดูแลประชาชนให้ปลอดภัยไม่ใช่ไปปราบปรามประชาชน การประชุมกอ.รมน.ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับนายธาริต  เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ให้ติดตามคดี เพราะตอนนี้มีคดีมากขึ้น ความผิดเหมือนเดิม อธิบดีก็คนเดียวกันซึ่งถ้าจะเคลียร์ปีนี้และเคลียร์ของปี 53 ให้ผมด้วย เคลียร์ให้จบทั้งสองอันถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่เลิกกันสักที”ผบ.ทบ.กล่าว

ที่มา : เดลินิวส์ 7 มกราคม 2557
[Continue reading...]
 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger