ดาหน้ากันออกมาเป็นระลอกในการคัดค้านโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ขนาดยังไม่เริ่มโครงการ คนกลุ่มนี้ เก่ง "ดุจเทวดา" สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า "ส่อ" โกง
รับช่วงไม้ต่อ จากกลุ่มสมาคม ต่อต้านสภาวะโลกร้อน ประชาธิปัตย์ ที่ส่งต่อให้ศาลปกครองสกัด ไม้ต่อไปคือผู้ตรวจการฯ
องค์กรเหล่านี้ ออกมาขัดขวางการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะ
ถ้าหากมีน้ำท่วม ขณะที่โครงการ "น้ำ" ถูกเตะสกัดอยู่แบบนี้ ใครจะรับผิดชอบ
จะมาตะโกนว่ารัฐบาลไม่หาทางป้องกันไม่ได้...เขาจะทำ..แต่เจอ...หลายฝูงคอยขัดขวาง
ประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร
ต่อไปก็คงจะเป็น โรงการพัฒนาการขนส่ง 2 ล้านล้าน...ที่จะจ้องกระโดออกมาขวางอีก
เนื้อข่าวจาก ไทยรัฐ
กมธ.สอบทุจริตฯ ส.ว. ชงผู้ตรวจฯ ฟ้องศาลปค. ล้มเมกะ พ.ร.ก.น้ำ 3.5
แสนล้าน เหตุ ส่อขัด รธน.และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542
เหตุโครงการ ไม่มีราคากลาง
วันที่ 11 ก.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงว่าจากการที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่า การดำเนินโครงการไม่มีการประกาศราคากลางตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และการทำสัญญาเงินกู้เงิน กับ ธนาคาร ภายหลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ระงับ โครงการเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง ก็อาจจะขัดกับ พ.ร.ก. ดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ การเบิกจ่ายเงินตาม พ.ร.ก. ก่อนหน้านี้ พบว่า มีจำนวนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยนำใช้ไปศึกษาวิจัยพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการก่อสร้างของโครงการ ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า จะทำจดหมายถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อฟ้องต่อศาลปกครอง ให้เพิกถอนโครงการก่อสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำ ตามพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 จำนวน 3.5 แสนล้านบาท ทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหาย แต่หากผู้ตรวจการแผ่นดิน ล่าช้า คณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาส่งเรื่องไปยังศาลปกครองโดยตรง
ด้าน พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ จะมีการยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรมด้วย เนื่องจากพฤติการณ์ดังกล่าว อาจเข้าข่ายละเมิดประมวลจริยธรรมของข้าราชการ ประจำและข้าราชการการเมือง ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถดำเนินการได้
วันที่ 11 ก.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงว่าจากการที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่า การดำเนินโครงการไม่มีการประกาศราคากลางตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และการทำสัญญาเงินกู้เงิน กับ ธนาคาร ภายหลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ระงับ โครงการเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง ก็อาจจะขัดกับ พ.ร.ก. ดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ การเบิกจ่ายเงินตาม พ.ร.ก. ก่อนหน้านี้ พบว่า มีจำนวนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยนำใช้ไปศึกษาวิจัยพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการก่อสร้างของโครงการ ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า จะทำจดหมายถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อฟ้องต่อศาลปกครอง ให้เพิกถอนโครงการก่อสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำ ตามพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 จำนวน 3.5 แสนล้านบาท ทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหาย แต่หากผู้ตรวจการแผ่นดิน ล่าช้า คณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาส่งเรื่องไปยังศาลปกครองโดยตรง
ด้าน พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ จะมีการยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรมด้วย เนื่องจากพฤติการณ์ดังกล่าว อาจเข้าข่ายละเมิดประมวลจริยธรรมของข้าราชการ ประจำและข้าราชการการเมือง ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถดำเนินการได้
0 comments:
Post a Comment