Wednesday, June 26, 2013

ดีเอสไอส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรฟ้อง “มาร์ค-เทพเทือก” ข้อหาฆ่า-พยายามฆ่า ให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องกรณี ศอฉ.สลายการชุมนุมเสื้อแดง เดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 โดยอัยการฟังการสั่งคดี 26 ส.ค.นี้


         เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานะหัวหน้าชุดคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองปี 2553 พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวน ได้นำสำนวนการสอบสวนเอกสารหลักฐาน จำนวน 9 ลัง 61 แฟ้ม 11,242 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี อดีตรองนายกฯ และอดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ผู้ต้องหาที่ 1-2 คดีร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59, 80, 83, 84 และ 288 จากกรณีที่ ศอฉ. มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการกระชับพื้นที่ เพื่อขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค. 53 บริเวณถนนราชดำเนิน และแยกราชประสงค์ ส่งผลมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ส่งให้ นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสั่งคดี
     
       โดยวันนี้ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ได้เดินทางมาพร้อมกับนายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความ จากนั้นได้เข้าพบนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อรายงานตัวหลังจากดีเอสไอส่งมอบสำนวนการสอบสวน โดยอธิบดีอัยการคดีพิเศษได้นัดให้ผู้ต้องหามาฟังการสั่งคดีในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
     
       ภายหลังนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้นำตนพร้อมนายสุเทพและสำนวนการสอบสวนและความเห็นสมควรสั่งฟ้องในคดีดังกล่าวมาส่งฟ้องต่ออัยการ โดยตนและนายสุเทพได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งตนจะเตรียมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการด้วย เนื่องจากคดีมีปัญหาทั้งขอเท็จจริงและข้อกฎหมาย ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นมีปัญหาอยู่หลายอย่าง เช่น การสอบสวนมีความขัดแย้งกับที่ดีเอสไอเคยสอบสวนไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนด้านข้อกฎหมายนั้นเห็นว่าทางดีเอสไอไม่มีอำนาจจากการสอบสวน เพราะคดีนี้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งจะต้องส่งเรื่องให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. นอกจากนี้ตนยังได้ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานสอบดีเอสไอสวนรวม 4 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ซึ่งศาลอาญาได้นัดไต่สวนมูลฟ้องช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
     
       ขณะที่นายสุเทพกล่าวว่า ทางดีเอสไอได้นำสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรฟ้องส่งมอบให้อธิบดีอัยการคดีพิเศษ ซึ่งคดีนี้พวกตนได้ยื่นฟ้องนายธาริต เพราะว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจตามกฎหมาย หลังจากนี้ตนก็จะปรึกษากับทีมกฎหมายเพื่อสู้คดีต่อไป
     
       ด้านนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้นำสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดี จากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงเดือน เม.ย.- พ.ค. 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยสำนวนที่ดีเอสไอสรุปความเห็นสมควรสั่งฟ้องต่ออัยการนั้น ทางดีเอสไอได้ตั้งข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง อายุ 43 ปี และ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา อายุ 14 ปี และข้อหาพยายามฆ่า จากกรณีผู้ได้รับบาดเจ็บคือนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ทั้งนี้เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญตนจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาจำนวน 5 ท่าน ซึ่งเป็นอัยการฝ่ายคดีพิเศษ โดยมีตนเป็นหัวหน้าคณะ และตนยืนยันว่าจะพิจารณาสั่งคดีไปตามพยานหลักฐาน เที่ยงธรรมและเป็นกลาง ตามนโยบายของอัยการสูงสุด แต่ยอมรับว่าตนรู้สึกหนักใจบ้าง แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด ไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด และฝ่ายการเมืองก็ไม่ได้มากดดันอะไร ซึ่งการสั่งคดีจะต้องสามารถที่จะอธิบายเหตุผลได้ มีหลักฐานอ้างอิงสนับสนุนได้ แต่คงจะบังคับให้คนเชื่อทั้งหมดไม่ได้
     
       อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษกล่าวต่อว่า คาดว่าจะใช้ระยะเวลาพิจารณาสำนวนคดี ประมาณ 2 เดือน โดยจะดูเอกสารสำนวนคดีทั้งหมดอย่างละเอียด รวมทั้งหากผู้ต้องหายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมตนก็จะนำมาพิจารณาด้วย ยืนยันว่าจะทำให้รวดเร็วที่สุดเพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ โดยจะนัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่งคดีอักครั้งในวันที่ 26 ส.ค.นี้ แต่หากยังพิจารณาสำนวนคดีไม่เสร็จก็อาจจะเลื่อนการสั่งคดีออกไปอีกครั้ง ทั้งนี้หากดีเอสไอจะส่งสำนวนต่ออัยการคดีการเสียชีวิตของบุคคลอื่นเนื่องจากมีประมาณ 90 ศพด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้ทางอัยการยังคงต้องรอพิจารณาสำนวนคดีนี้ก่อน ส่วนหากดีเอสไอจะมีการยื่นสำนวนอื่นเพิ่มเติม ทางอัยการก็จะพิจารณาอีกครั้ง

      
      
   
     
     

0 comments:

Post a Comment

 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger