Saturday, July 6, 2013

" มาร์ค" ทอล์คโชว์ ขออาสากลับมาประคับประคองประเทศ


เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่โรงหนังสกาลา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวทอล์กโชว์หัวข้อ “จากต้มยำกุ้ง แฮมเบอร์เกอร์ ถึงกรรเชียงปู และเงินกู้ผลาญแผ่นดิน”ตอนหนึ่งว่า นึกไม่ถึงว่าจะจะต้องมาพูดเรื่องการกู้เงินมากมายมหาศาลทั้งที่มีตัวอย่างวิกฤตเศรษฐกิจให้เห็นทั่วโลก ย้อนไปในปี 2540 เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าเข็ดแล้วเรื่องกู้ ไม่ชอบการกู้ แต่เมื่อมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็กู้เงิน 7 แสนล้านบาท จากไอเอ็มเอฟ และพ.ต.ท.ทักษิณยังกู้ก้อนที่สอง 7.8 แสนล้านบาทที่อ้างว่ามาใช้หนี้กองทุนฟื้นฟู และล่าสุดรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังจะกู้เงินอีก 2 ล้านล้านบาท จะเห็นว่าคนที่เข็ดเรื่องการกู้กลับเป็นแชมป์เงินกู้มากที่สุดได้รับเหรียญทอง แต่ในวิกฤตต้มยำกุ้ง รัฐบาลนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ใช้เวลาเพียง 3 ปี ในการฟื้นฟูขึ้นมาได้ และเริ่มทยอยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ ต่อมาใน 2550 เริ่มวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ที่สหรัฐอเมริกา แต่ไม่กระทบไทยโดยตรง เพราะสิ่งที่ทำไว้หลังช่วงต้มยำกุ้ง กฎระเบียบต่างๆ ทำให้สถาบันการเงินเข้มแข็งขึ้น แต่การส่งออก การท่องเที่ยว ติดลบ รายได้จึงหดหาย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า จนตนมาเป็นนายกรัฐมนตรี จึงจำเป็นต้องออกมาตรการ ต้องออกพ.ร.ก.กู้เงิน 4 หมื่นล้านบาท ที่เรียกว่าไทยเข้มแข็ง เพื่อกระตุ้นจนทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาสูงสุดในปี 2554 อัตราว่างงานก็ลดลง พอเปลี่ยนรัฐบาลอัตราการเจริญเติบโตโดยรวมก็ลดลงจากภาวะน้ำท่วม จากนั้นมาถึงกรรเชียงปู ที่เรียกว่ากู้ผลาญแผ่นดิน แต่ก็เรียกน้ำย่อยโดยการกู้เงินเร่งด่วนในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท แต่จนถึงวันนี้่ใช้เงินไปไม่ถึงหมี่นล้านบาท เพราะมัวไปออกแบบวิธีการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิสดารหาวิธีรวมแข่งประมูล ทำให้จนถึงวันนี้ชาวบ้านยังไม่รู้เลยว่าจะสร้างอ่างเก็บน้ำตรงไหน จนตอนนี้เราต้องมาเจอกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทหรือหนี้ความเร็วสูง ซึ่งเป็นภาระหนี้ท่วมหัวของคนไทย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลว่า เป็นการก่อหนี้สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถคันแรก ที่ต้องใช้เงินกว่าแสนล้านบาทและโครงการรับจำนำข้าวที่ยังไม่รู้ว่าจุดจบจะอยู่ที่ตรงไหน และไม่เชื่อว่าถ้ารัฐบาลยังทำโครงการรับจำนำข้าวอยู่ความสมดุลของงบประมาณจะอยู่ตรงไหน เพราะขณะนี้นอกจากปลูกข้าวไว้เก็บแล้วยังปลูกข้าวไว้ดูด้วย เพราะมีการติดกล้องซีซีทีวีไว้ตามโรงสีต่างๆ คือไม่คิดจะขายกันแล้วใช่หรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่าอนาคตเราเลือกได้จริงๆเพราะคนที่เข้ามาบริหารประเทศ ต้องเอาบ้านเมืองมาก่อนเรื่องส่วนตัว และต้องเอาธรรมาภิบาลกลับคืนมา ทุกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศก็เหมือนเก็บเงินไว้ให้คนอื่นใช้ ครั้งหน้าขอพรรคประชาธิปัตย์ใช้เงินเองบ้าง เราผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ขอยืนยันว่าขออาสาตัวประคับประคองและพัฒนาประเทศต่อไป.

0 comments:

Post a Comment

 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger