จากรายการ คนค้นคน กบนอกกะลา กลายเป็น "กบในกะลา" ก็เพราะเรื่องข้าว

ขบวนการที่คอยขัดขวางโครงการจำนำข้าว กระทำกันทุกวิถีทาง ที่จะทำให้โครงการนี้ "ยกเลิก"ไป

จากการออกมาคัดค้าน ของพรรคฝ่ายค้าน และฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

ร้องเรียนต่อ ศาล ปปช.

ทั้งปล่อยข่าว เท็จ ข่าวลือต่าง ๆ

โดยการร่วมมือของ "สื่อ"

ล่าสุด "พิธีกรรายการคนค้นคน" ออกมาระบุถึงยี่ห้อข้าว ว่ากินแล้วไม่ปลอดภัย

การออกมาเตือนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเรื่องนั้นมีมูลความจริง

ไม่ใช่พูดกัน "ลอย ๆ"

พอมีเสียงต่อต้าน ก็ออกมาแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ

นายสุทธิพงษ์ พิธีกรรายการคนค้นคน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "เร็วกว่าไฟลามทุ่ง ถึงแม้จะลบไปแล้ว เร็วที่สุดเท่าที่ผมจัดการได้เมื่อเห็นผลของความสะเพร่า ไปไกลเกินกว่าเจตนาแห่งสัมมาทิฐิและกุศลเจตนา อย่าให้และอย่าใช้ผมไปก่อกรรมกับใครเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าผมสามารถลบความจริงทิ้งได้ และไม่ว่าใครก็ไม่สามารถลบกรรมทั้งดีชั่วทิ้งได้ โดยเฉพาะการกระทำกับชาวนาและข้าวปลาอาหาร"

บอกว่าเป็นความสะเพร่า

"แจงว่าไม่ได้เจตนาและได้ลบข้อความที่เป็นความจริงไปแล้วเพราะห่วงความปลอดภัยคนกินข้าว วอนอย่าใช้-อย่าให้ไปก่อกรรมกับใคร พร้อมประกาศจุดยืนเลือกข้างความถูกต้อง..."

แล้วอะไรคือความถูกต้อง

ถ้าการพูดนั้นอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง

มีหลักฐานมาแสดง ..นี่คือการห่วงคนกินข้าว

แต่ขณะเดียวกัน...ได้นึกถึงคนที่ปลูกข้าว..คือชาวนา

ว่าจะกระทบอย่างไร

หากข่าวนี้ ไปสร้างความเคลือบแคลงให้กับตลาดข้าว

ไม่ใช่แค่ในประเทศ รวมไปถึงต่างประเทศด้วย

ในที่สุดรัฐบาลก็ระบายข้าวไม่ได้

สมใจโรงเรียนประชาธิปัตย์

จะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างไรบ้าง

ความเสียหายที่เกิคขึ้น ประมาณค่ามิได้

คำว่า "มนุษย์ - คุณธรรม" ที่คุณว่ามีเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น

ไร้ซึ่งจิตสำนึก

เสียทีที่ได้มีโอกาสเกิดเป็น "คน"

คุณสร้างกรรมให้กับประเทศนี้มากมายนัก

โดยเฉพาะ ทำกับ "ชาวนา" ซึ่งเป็นคนจนของประเทศ

อย่าไปหาเลย "กบ" ที่อยู่นอกกะลา

หาในกะลาดีกว่า "คุณไง" สุทธิพงษ์