"ขัดรัฐธรรมนูญ"
นับจากเรื่องข้าว
"นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตามที่ได้ยื่นต่อประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ กรณีสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี จำนวน 7.32 ล้านตัน มูลค่ากว่า 114,000 ล้านบาท ที่ก่อให้เกิดการขาดทุนถึง 44,000 ล้านบาท เนื่องจาก ส.ว. เห็นพ้องว่า จะขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 190 (2) ส่งผลต่องบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ "
มาถึงเรื่อง บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท
"ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ฟ้องรัฐบาลให้เพิกถอนแผนการบริหารจัดการน้ำ โดยให้รัฐบาลปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 57 (2) มาตรา 67 (2) จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสีย ก่อนที่จะดำเนินการจ้างออกแบบในแต่ละแผนงาน รวมมูลค่า 350,000 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าแผนแม่บทดังกล่าวมีผลกระทบกับชุมชนอย่างร้ายแรง "
และเรื่อง กู้เงินมาพัฒนา คมนาคม 2 ล้าน ล้าน บาท
" นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) แถลงข่าวเรื่องร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่า จากการรับฟังความเห็นหลายภาคส่วนจึงวิเคราะห์ออกมาและส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานวิปรัฐบาล และประธานวิปฝ่ายค้าน ไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากคณะกรรมการฯเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยอาจขัดรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเงินการคลัง หมวด 8 มาตรา 169 และขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 6 มาตรา 29 หลักการพอสมควรแก่เหตุ มาตรา 57 วรรค 2 และมาตรา 67 วรรค 2 มีปัญหาตามหลักสิทธิชุมชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน ฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีโอกาสตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของฝ่ายบริหารได้เลยในเวลา 7 ปี และยังมีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไปอีก"
นี่คือโครงการที่จะทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
ขนาดยังไม่ได้ลงมือทำ ก็มีการร้องต่อ ปปช. ว่าโครงการ "ส่อ" มีการทุจริต
เป็นการตั้งข้อกล่าวหาในเรื่องที่จะ "เกิดขึ้นในอนาคต"
ก็ล้วนแต่พิษภัย "จากรัฐธรรมนูญ 50 " ทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะโหวต "รัฐธรรมนูญวาระ 3" ที่ค้างคาอยู่
หรือฉบับ แก้รายมาตรา
ก็เร่งรีบทำ ...ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้ทำ
แล้วจะมาขอจากประชาชนอีกครั้ง "ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ" มันจะดูไม่ขลัง
0 comments:
Post a Comment