Monday, October 14, 2013

"ประชาธิปัตย์" ยุคไหนก็มุ่งช่วยคนรวย

การเข้ามาบริหารหลังเกิดวิกฤติเศษรฐกิจ ของรัฐบาลชวน 2 แทนที่รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาโครงสร้างทางการเงินพร้อมๆกับการแก้ปัญหาโครงสร้างการผลิตหรือการประกอบการโดย ตรง กลับมุ่งแก้ปัญหาที่สถาบันการเงิน ต้องเร่งให้ธนาคารเพิ่มทุนมากๆ เพื่อสำรองความเสียหายก่อน เมื่อธนาคารเพิ่มทุนแล้วก็จะมีความมั่นคง สามารถปล่อยกู้ให้ธุรกิจฟื้นตัวได้

รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้พยายามผลักดันให้ธนาคารเพิ่มทุน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงออกมาตรการ 14 สิงหาคม 2541 มูลค่า 300,000 ล้านบาท เพิ่มทุนให้สถาบันการเงิน โดยหวังว่าถ้าสถาบันการเงินแข็งแรงขึ้น ธุรกิจอื่นก็จะดีขึ้นตามมา

ปรากฎว่าเป็นความพยายามที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าในการแก้ปัญหาสถาบันการเงิน เหมือนการเอาหินไปถมทะเล ถมเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเต็ม

ทำให้รัฐบาลตัดสินใจเข้าไปยึดกิจการธนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์บางส่วน โดยมุ่งนำมาควบรวมขายให้กับต่างชาติในการขายธนาคารพาณิชย์แต่ละครั้งรัฐบาลนายชวน อ้างว่าขายแล้วจะไม่ขาดทุน เพราะตั้งราคาขายเท่ากับราคาที่ยึดมา แต่จนถึงวันนี้รัฐบาลยังไม่ยอมเปิดเผยเงื่อนไขการขายธนาคารที่แท้จริงออกมา และไม่เปิดเผยรายละเอียดของสัญญา แต่ข้อเท็จจริงคือ รัฐบาลยอมชดใช้ความเสียหายจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารดังกล่าว (ซึ่งได้แก่ ธนาคารรัตนสิน และธนาคารศรีนคร) ถึง 85% ให้กับผู้ซื้อต่างชาติ นอกจากนั้นยังยอมจ่ายดอกเบี้ยให้กับสินเชื่อที่เป็น NPL ให้กับผู้ซื้อเป็นระยะเวลา 3-5 ปีอีกด้วย
ด้วยเงื่อนไขนี้ การขายธนาคารที่รัฐยึดมาจึงเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ซึ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติอย่างที่สุด โดยที่ต้องซ่อนการขาดทุนดังกล่าวเอาไว้เป้นภาระของผู้เสียภาษีในอนาคตจำนวนหลายแสนล้านบาท ขณะเดียวกันยังสร้างความไม่เท่าเทียมกันระหว่างธนาคารที่ขายให้ กับธนาคารที่ยังเป็นของคนไทย เพราะธนาคารคนไทยยังคงต้องแบกภาระแก้หนี้ NPL สูงถึง 35-40 % ของสินเชื่อทั้งหมดด้วยตัวเอง
ปฏิบัติการการยึดธนาคารครั้งนี้ สร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างมหาศาล จนถึงวันนี้ได้สร้างภาระให้กับกองทุนฟื้นฟูแล้วประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลต้องหาแหล่งเงินมากลบความเสียหายในครั้งนี้
คลิกดูรายละเอียด

ซึ่งในยุคต่อมาของรัฐบาลอภิสทธิ์ การแก้ปัญหาก็คล้าย ๆ กัน คือมุ่งช่วยให้กับคนที่มีงานทำ มีรายได้อยู่แล้ว นั่นคือโครงการเช็คช่วยชาติ (ตรงนี้ยังไม่พูดถึที่มาของเช็ค แทนที่จะเป็นธนาคารของรัฐที่จะมีรายได้จาก เช็คและเรื่องการบริหารบัญชี กลับใช้บริการของธนาคารเอกชน) ก็มุ่งแจกเงิน 2,000 บาทให้กับผู้ที่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่เกิน 14,999 บาทต่อเดือน งานนี้ ใช้เงิน 16,000 ล้านบาท

คนที่มีรายได้ขนาดนี้ ถือว่าไม่มีความเดือดร้อน บอกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลปรากฏว่า ก็เป็นการเอาหินไปถมทะเลอีกเช่นกัน

คลิกดูรายละเอียด

หมายเหตุ เงิน 2,000 บาท นำมาจากงบประมาณ ปี 2552 ไม่ใช่มาจากกองทุนประกันสังคมอย่างที่เข้าใจกัน เพียงแต่จ่ายผ่านบัญชีผู้ที่มีประกันสังคม เพื่อที่จะทราบรายได้ จากการจ่ายประกันตน ว่ามีเงินเดือน เท่าไหร่
คลิกดูรายละเอียด

1 comments:

  1. สวัสดีเพื่อน ๆ ถ้าคุณต้องการสินเชื่อเงินสดในวันนี้มีเพียง บริษัท เดียวที่ฉันสามารถแนะนำให้คุณได้ซึ่งฉันได้รับเครดิต 23,000 ยูโรจากบริการทางการเงินของรัฐบาลกลางฉันแนะนำผู้ที่ขอสินเชื่อทั้งหมด บริษัท นี้ผ่านทางที่อยู่อีเมลของพวกเขา : [FEDERALOAN@GMAIL.COM] หรือ WhatsApp +18457315716 หรือส่งข้อความถึงเราใน LINE ID ที่ (fd122) ฉันได้รับเงินกู้จากพวกเขาหลังจากอ่านเกี่ยวกับข้อเสนอเงินกู้ของพวกเขาที่นี่ใน Facebook และตอนนี้หนี้สินของฉันได้รับการชำระเรียบร้อยแล้ว

    ReplyDelete

 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger