Sunday, July 14, 2013

ชาวบ้านสุดทน นายทุนเจ้าของธุรกิจแพปลาใหญ่ จ.เมืองนครศรีฯ บุกรุกยึดครองกรณีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน เป็นของตยเอง


เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 15 ก.ค.  ที่สมาคมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวัชระ ถาวรพราหมณ์  ส.อบจ. นครศรีธรรมราช เขต อ.เมือง นายอุดม พุทธพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ปากพูน  นายทันวิทย์  ถาวรพราหมณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 พร้อมตัวแทนชาวบ้านต.ปากพูน ได้นำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เดินทางเข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ให้ช่วยเป็นสื่อกลางประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการ แก้ปัญหานายทุนเจ้าของธุรกิจแพปลารายใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชบุกรุกยึดครองกรณีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน พื้นที่ หมู่ 2 และหมู่ 9 เป็นของตัวเองเป็นบริเวณกว้างกว่า 5,000 ไร่ 
 
โดยนายวัชระ เปิดเผยว่า นายทุนเจ้าของแพปลาดังกล่าวถือเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยติดอันดับต้น ๆ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้บุกรุกยึดครองป่าชายเลนใน ต.ปากพูน ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ที่ประชาชนใช้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน เลี้ยงปลา เลี้ยงกุ้ง ทำการเกษตร ร่วมกัน แต่จู่ ๆ นายทุนคนดังกล่าวนำหลักฐานเอกสารสิทธิ์ที่ดินทั้งที่เป็นโฉนด และ น.ส. 3 มาอ้างว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นของตนเองถูกต้องตามกฎหมาย หากใครต้องการจะทำมาหากินในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องจ่ายค่าเช่าเป็นรายปี จนชาวบ้านต้องจำใจเช่าป่าชายเลนรายปี ๆ ละหลายหมื่นบาทเพื่อทำประมงพื้นบ้านเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลาตามธรรมชาติและทำการเกษตร และต้องซื้อวัสดุ อุปกรณ์ประมงต่าง ๆ  รวมทั้งอาหารกุ้ง ปลาของนายทุนคนดังกล่าว 
 
อย่างไรก็ตามชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีเงินสดจ่ายค่าเช่าจึงต้องนำบ้าน โฉนดที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่น ๆ มาจำนองค้ำประกันค่าเช่าไว้กระทั่งถูกยึดบ้าน ที่ดินและทรัพย์สินเพื่อใช้ชำระหนี้ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก หลายครอบครัวกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว
ส.อบจ.คนดังเมืองคอนกล่าวอีกว่า  นอกจากนี้นายทุนคนดังกล่าวยังนำแรงงานต่างด้าวทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายหลายร้อยคนเข้ามาทำงานในกิจการของตน มีนายดาบตำรวจนอกราชการเป็นผู้ควบคุมดูแลแรงงานต่างด้าวทั้งหมดและเคลียร์ผลประโยชน์กับเจ้าหน้าที่เป็นรายหัว โดยสร้างที่อยู่อาศัยให้ในที่ป่าชายเลน มีการสร้างประตูรั้วเหล็กกั้นห้ามเข้าหรือแค่เดินผ่านก็ไม่ได้ กลายเป็นอาณาจักรแรงงานต่างด้าวไปโดยปริยาย บรรดาแรงงานต่างด้าวมักจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ฆ่ากันตาย ก่อปัญหาอื่น ๆ ทั้งเรื่องยาเสพติดและอาชญากรรมส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เป็นอย่างมาก ตนพยายามร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้าน แต่เรื่องก็เงียบหายไม่ได้รับการแก้ไขใด ๆ ตนจึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือปลดแอกชาวบ้านใน ต.ปากพูน ให้เป็นอิสระเสียที  ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องออกโฉนดที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนให้กับนายทุนได้อย่างไร
 
โดยในวันสองวันนี้ตนพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจะเดินทางเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกับนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวัชระ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้นำผู้สื่อข่าวเดินทางลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่ถูกนายทุนบุกรุกยึดครอง พบว่าพื้นที่ป่าชายเลนดังกล่าวยังมีความอุดมสมบูรณ์ ส่วนหนึ่งเป็นป่าโกงกางและพันธุ์ไม้น้ำอื่น ๆ หลากหลายชนิดเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ ในขณะที่พื้นที่อีกส่วนหนึ่งที่ให้เช่าบ้านเช่าใช้เป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลาตามธรรมชาติ และทำการเกษตรอื่น ๆ  โดยนายทุนได้ขุดยกร่องกว้างประมาณ 15 เมตรเพื่อแสดงอาณาเขตของตนเอง พร้อมสร้างแนวรั้วกั้นในส่วนของที่อยู่อาศัยแรงงานต่างด้าว
 
 นอกจากพื้นที่ป่าชายเลนใน ต.ปากพูน กว่า 5,000 ไร่แล้วพื้นที่ป่าชายเลนใน ต.ท่าซัก และ ต.ปากนคร ซึ่งต่อเนื่องไปจากป่าชายเลนใน ต.ปากพูน ก็ถูกนายทนรายเดียวกันบุกรุกยึดครองในลักษณะเดียวกัน คาดว่าพื้นที่ป่าชายเลนที่ถูกบุกรุกยึดของในพื้นที่ 3 ตำบลไม่น้อยกว่า 10,000 ไร่ โดยมีชาวบ้านนับร้อยรายจำใจเช่าพื้นที่ป่าชายเลนจากนายทุนเพื่อทำมาหากิน นอกจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแล้วยังเป็นการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”.
 
ที่มา : นสพ.เดลินิวส์

0 comments:

Post a Comment

 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger