"ธวัช"
ยันไม่ประมาท "ม็อบ" สั่ง คุมเข้ม ห้ามเข้า "สภา-ทำเนียบ"
เชื่อผู้ชุมนุมซ่องสุมเชื่อมโยง กทม.-ปชป. เปิดแผนฝ่ายค้านระดมคนสร้างความวุ่นวาย
เมื่อวันที่
1 ส.ค. พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
การดูแลความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาลหลังประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง คือป้องกัน
ปราบปราม และยับยั้ง ซึ่งในการใช้กำลังครั้งนี้มีการใช้กำลังจาก 2 ส่วน
ส่วนแรกจำนวน 112 กองร้อย และส่วนที่สองอีก 112 กองร้อย แต่ในการใช้จริง
คงใช้ไม่หมด จะดูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
ส่วนการใช้กำลังทหารก็เป็นไปตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะดูแลทั้ง 3
เขตที่มีการประกาศพื้นที่ความมั่นคงอย่างเข้มงวด
ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษนั้น พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า จะประกอบด้วย
ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา โดยเฉพาะในส่วนของรัฐสภานั้น จะต้องมีหลักการว่า ต้องปลอดภัย
เมื่อมีการบุกเข้าไปในสภา นอกจากนี้ ส.ส.และส.ว.จะต้องเข้าออกได้ด้วยความปลอดภัย
สำหรับกำลังปราบจลาจล นั้นก็มีขั้นตอน และเป็นไปตามหลักสากล
อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมที่เขาท้าทาย เป็นสิ่งที่มีการประเมินมาก่อนหน้านี้แล้ว
เราจึงไม่ประมาท และบทเรียนในอดีตก็ถูกนำมาปรับแก้ไขในครั้งนี้
เมื่อถามว่าจะกลุ่มมวลชนอาจไม่ฟังและต้องการบุกเข้าไปในรัฐสภา
พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า มีการสกัดไม่ให้เข้า หน่วยปราบจลาจลคงไม่ให้เข้า
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมสนามหลวงที่ทางกทม.ปล่อยให้เข้าไปซ่องสุมนั้น พล.ต.ต.ธวัช
กล่าวว่า
ตรงนี้เป็นไปตามที่สังคมรู้กันว่าทางกทม.รู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มนี้แน่นอน
เพราะหากไม่รู้เห็นเป็นใจคงเข้าไม่ได้ เพราะเป็นเขตหวงห้าม
ถือเป็นเขตที่กทม.บอกว่าเป็นไข่แดง แต่กลับมีการเพาะเชื้อโรค
ก็คงต้องให้สังคมเป็นผู้ติดตามและมอง ว่ากทม. พรรคการเมือง พรรคฝ่ายค้าน
มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายมีการรวมตัว มีการเตรียมการ
มีการดำเนินการ โดยเฉพาะการประกาศเรียกร้อง 6 ข้อ
ซึ่งไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่เป็นประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องของความไม่พอใจ
เป็นเรื่องของความโกรธแค้นส่วนตัวกันทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์แสดงออกมาชัดเจน
และจะระดมมวลชนเข้ามาด้วย รัฐบาลเตรียมการอย่างไร รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า
ก็เฝ้าระวังติดตามอยู่ และได้สอบถามไปยังพรรคพวกทางใต้ ก็บอกว่าได้มีการเตรียมการรวบรวมคนจริง
และอาจถึงขั้นปิดถนนด้วยซ้ำไป ในแต่ละจุด
นี่คือการสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
โดยที่ผลักดันให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง การพูดด้านเดียว
ฝั่งเดียว และเป็นด้านที่ฝ่ายตัวเองต้องการนั้นเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดกับสังคม ซึ่งตนยังเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่เข้าใจ
การเตรียมการของรัฐบาลในการดำเนินการตรงนี้ เราก็ดูย้อนรอยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
ที่ทำไว้ในอดีต ว่าเขาเอามวลชนหรือกลุ่มที่ขัดขวางไปเก็บไว้ที่ไหน ขังไว้ที่ไหน
ทุกอย่างก็จะย้อนรอยเดิมพรรคประชาธิปัตย์ กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นก็ต้องว่ากันไป.
0 comments:
Post a Comment