พ.ร.บนิรโทษ คือ ต้นเหตุของความขัดแย้ง..จริงหรือ ?

ในการเปิดสภาสมัยประชุม ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 56 ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนและพรรคประชาธิปัตย์ เคลื่อนไหวต่อต้าน ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น

นับตั้งแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่ถูกยับยั้ง โดยศาลรัฐธรรมนูญ

ต่อมาก็เป็นโครงการจำนำข้าว การเคลื่อนไหว ช่วงแรก ๆก็พยายามที่จะชี้ว่า โครงการจำนำข้าวที่รัฐประกาศเป็นนโยบายนั้น ไม่เหมาะสม ควรใช้ประกันราคาดีกว่า

จนกระทั่ง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาชี้ว่าโครงการจำนำข้าวมีการโกง และทำให้โครงการนี้ ขาดทุน ถึง 2.6 ล้านบาท

จากการ กุข่าว ว่ามีบางประทศ เช่น สหรับอเมริกา กักกันข้าวไทยไม่ให้เข้าประเทศว่าเพราะว่าข้าวไทยมีสารพิษปนเปื้อน

มีการออกข่าวว้ามีข้าวเน่า และปนเปื้อนสารพิษ ถึงขนาด หนูยังเสียชีวิต ภายใน 5 นาที

ตามด้วยข่าว จากสมาคมคุ้มครองผู้บริโภค ได้แถลงข่าวการตรวจตัวอย่างข้าวถุง ว่า มีบางยี่ห้อที่มีสารปนเปื้อน และมีอยู่ 1 ราย ที่มีเกินค่ามาตรฐาน

ซึ่งในโอกาสต่อมา กรมวิชาการเกษตร ได้ออกแถลงข่าวว่า ผลของการตรวจ จริง ๆ ของการแถลงของ สมาคมนี้ ต่ำ กว่า ค่าที่ได้แถลง เสียอีก

และนำไปสู่การยื่น ปปช.ชี้มูลความผิด ของโครงการนี้ ของรัฐบาลอีกด้วย

มาถึง โครงการ การบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โครงการนี้ ยังอยู่ในขั้น ดำเนินการ หาผู้ที่จะมาประมูลทำโครงการ  ก็มี นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นหนังสือ ถึงศาลปกครอง ในที่สุดก็มีคำสั่งยับยั้งโครงการให้ไปถามประชาชน เพียงแค่ข้อกล่าวหา "ส่อทุจริต" และด้วยหลักการตัดสิน "ป้องกันล่วงหน้า" ของศาลปกครอง และนำไปสู่การชี้มูลความผิด ของ ปปช. ว่าโครงการนี้ส่อทุจริต

ประเด็นร้อนในช่วงการเปิดสมัยประชุมสภา มีหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป้นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาของ สว. การแก้ไขรัฐธรรมนูญโหวต วาระ 3 หรือการแก้ไขรายมาตราก็ดี ล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้ฝ่ายค้านต่อต้านได้อยู่แล้ว

มาถึงประเด็นของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในขั้นต้นก็มีหลาย ร่าง ไม่ว่า การเหมายกเข่ง ของ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง ซึ่ง ไม่ได้รับการตอบสนองจากมวลชน คนเสื้อแดง  และโดยเฉพาะ พรรคประชาธิปย์ ที่อ้างว่า จะล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และนำไปสู่การคืนเงิน 4.6  หมื่นล้านบาท

ในที่สุดพรรคเพื่อไทย มีมติให้ใช้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ ฉบับนายวรชัยเหมะ ประชาธิปัตย์ ก็ค้านอย่างหัวชนฝาอีกว่ามีนัยแอบแฝง ที่จะล้างผิดให้แกนนำ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้ง ที่ นายอภิสิทธิ เคย ท้าในสภาว่า เห็นด้วย ถ้าไม่ล้างผิดให้กับคน 3 คน คือ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และ พ.ต.ท.ทักษิณ

แม้ว่าในร่างพ.ร.บ.ฉบับนายวรชัย เหมะ จะระบุไว้ชัดเจนในมาตรา 3 วรรค 2 ว่า ไม่นิรโทษ ให้กับแกนนำ ผู้สั่งการและผู้ทีอำนาจตัดสินใจ แต่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงค้านอยู่อีก ว่ามีนัยยะซ่อนเร้น และจะมีการสอดไส้เพื่อล้างผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นประชาชน ซึ่งในวรรค 1 ของมาตรา 3 ระบุไว่ว่า นิรโทษให้กับประชาชนที่ร่วมชุมนุม ทุกสีเสื้อ

ถ้าพิจารณากันจริง ๆแล้ว ไม่ว่าจะมี ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ ฉบับวรชัย เหมะ หรือไม่ ประชาธิปัตย์ ก็หาข้ออ้างในการคัดค้านได้อยู่ดี

ประเด็นก็คือ ความขัดแย้ง ไม่ได้มาจากการนำเสนอ ร่างพ.ร.บ.นิโทษฯ แต่ มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องการล้มรัฐบาลให้ได้

ซึ่งกระแสข่าวการล้มรัฐบาลให้ได้ ภายในเดือนสิงหาคม เริ่มชัดเจนขึ้น มาตลอด โดยเฉพาะ คำพูดของระดับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า "สิงหา" นี้การเมืองร้อนแรงแน่นอน ถ้า หากมีการแพ้โหวตในวาระ 3 ก็ จากละทิ้งวีถี สภา มาชุมนุมกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

การทีมีหลายฝ่ายออกมาบอกให้รัฐบาล "ถอน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษ" ทุกฉบับออกไป สถานการณ์ก็จะคลี่คลาย ซึ่งเป็นการ "เกาไม่ถูกที่คัน"

เพราะการเกิดความวุ่นวายนั้นเป็นความจงใจของฝ่ายที่จะล้มรัฐบาล ตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะมี ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษ หรือไม่

บังเอิญว่า ร่าง พ.ร.บ นิรโทษ เข้าทาง พรรคประชาธิปัตย์ ที่อ้างการคัดค้าน  คือ การล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ  สามารถ "เรียกมวลชน"  ฝ่ายสนับสนุนได้ดีกว่า ข้ออ้างอื่น