“สภาฯ" เป็นสถานที่ให้ ส.ส. พูด ใช้ "ปาก" เป็นอาวุธ และทำงาน หากไม่มีใครพูด ก็ไม่มีสภาฯ เพราะที่สภาฯ จะได้ยินเสียง "อภิปราย" กันทั้งวัน บางครั้ง ไปถึงตี 1 ตี 2 หรือถึงเช้าก็เคยมี หากไม่มีเสียงอภิปราย แสดงว่า "สภาฯปิด"
แต่อย่างที่ทุกคนเห็น เวลามี "วาระสำคัญ" ของการประชุมสภาฯ จะมี "พวกเขา" และ "พวกเรา"
ส.ส. พรรคหนึ่งอภิปราย กระทบให้อีกพรรคหนึ่งเสียหาย
ส.ส.อีกพรรคหนึ่งประท้วง บอกว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องจริง พูดเท็จกลางสภาฯ ทำให้พรรคของผมเสียหาย"
หลังจากนั้นมีเสียง "ตะโกนด่า" โห่ไล่ จากสมาชิกอีกพรรคหนึ่ง และสมาชิกของพรรคฝ่ายตรงข้ามลุกขึ้นประท้วง ตามข้อบังคับที่ 61 “พูดจาวนเวียนซ้ำซาก พาดพิง ให้ร้ายบุคคลอื่น" จากนั้นเกิดการประท้วง ถกเถียงกันไปมาของสมาชิกทั้งสองพรรค ช่วยกันยกมือประท้วงตอบโต้กันวุ่นวาย จนไม่รู้เรื่อง
แล้ว ประธานสภาฯบอกให้หยุด และ "วินิจฉัย" โดยใช้ข้อ 8 ตาม “อำนาจของประธานสภาฯ" แต่ก็ยังไม่จบ มีคนประท้วงประธานสภาฯ ที่ยอมให้อีกฝ่ายหนึ่งประท้วง แต่ไม่ยอมให้ตัวเองประท้วง เรียกว่า "ผมขอประท้วงผู้ที่กำลังประท้วง รวมถึงประท้วงท่านประธาน ที่ยอมให้อีกฝั่งประท้วง แต่ไม่ยอมให้ฝั่งผมประท้วง" เอากันเข้าไป
หนักๆเข้าไม่รู้จะทำอะไร อีกฝั่งหนึ่ง เสนอให้ประธานสภาฯ "นับองค์ประชุม"
เป็นการประชุมของ ส.ส. ในสภาฯผู้ทรงเกียรติ ที่ไม่ได้ประโยชน์ ไม่มีสาระ ไม่มีเหตุผล หากไปเปรียบเทียบกับ "การประชุมสภานักเรียน" ของหลานผม ดูแล้วมีเหตุผล มีสาระ ไม่เข้าข้างกัน ไม่มีเสียงโห่ฮาโหวกเหวก เป็นระเบียบเรียบร้อย มากกว่า "การประชุมสภาฯ" เสียด้วยซ้ำ
ผมคิดว่าไม่นาน การประชุมสภาฯของเรา คงเหมือนกับ "การประชุมสภาฯไต้หวัน"
ไม่เชื่อรอดู คงอีกไม่นานนี้
ที่มา ชูวิทย์ I'm No.5
Home » อันทรงเกียรติ » สภาผู้แทนฯ ที่ทรงเกียรติ ?
Friday, August 9, 2013
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment