เรื่องนี้ต้องขยาย จากเหตุการณ์ นายเชน เทือกสุบรรณ ยกเก้าอี้
ทุ่มในสภา จนเกิดความเสียหาย โดยอ้างว่า บันดาลโทสะ
คลิป เชนเทือกสุบรรณ ทุ่มเก้าอี้ในสภา ตั้งแต่ต้นจนจบ
สำหรับบุคคลทั่วไปยังพอที่จะอ้างได้พูดได้ แต่สำหรับคนเป็นถึง ส.ส.
เป็นตัวแทนของประชาชน จากนับแสนคน ให้เข้ามาทำหน้าที่ในสภา
ซึ่งถือว่าเป็นหน้าอันทรงเกียรติ เป็นหน้าที่อันน่าภาคภูมิใจ
คนเป็นถึงระดับนี้ได้ วุฒิภาวะต้องสูงมากกว่าคนทั่วไป
ไม่ใช่เอะอะก็โมโห
เอะอะก็โวยวาย ตะโกนลั่นในที่ ที่สำคัญระดับต้น ๆ ของประเทศ
นั่นคือ อาคารรัฐสภา
การแสดงอาการอย่างนี ไม่ใช่นายเชน เทือกสุบรรณคนเดียว ส.ส. ประชาธิปัตย์หลาย
ๆ คน ก็เป็นแบบนี้
อะไรเกิดขึ้นกับสังคมไทย
มาตรฐานของความเป็นคน น้อยลงไปทุก ๆ ที
พฤติกรรมใกล้เคียงกับสัตว์เดรัจฉาน คือไม่สามารถ แยกดี แยกชั่ว แยกผิด แยกถูกได้
รู้อะไรควร หรือไม่ควร
แถมการกระทำอย่างนี้ ยังมีคนระดับประธานวิปฝ่ายค้านออกมาปกป้อง
อ้างว่าเพราะถูกรัฐปิดปาก จึงกระทำเช่นนี้
แน่นอนที่สุด ความต้องการ ความเห็นของรัฐบาล
และฝ่ายค้านย่อมไม่เหมือนกัน
เพราะขณะที่ ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็กระทำเยี่ยงเดียวกัน
เสนอกฏหมาย ฝ่ายค้านก็คัดค้าน แต่ประชาธิปัตย์
ซึ่งเป็นรัฐบาลก็ยังยืนยันตามนั้นก็มีให้เห็นในหลาย ๆ ครั้ง
จะอ้างว่าพวกมากลากไปนั้นไม่ถูก
อยากจะเป็นฝ่ายที่มีเสียงข้างมากในสภา
จำเป็นที่สุดคือเสนอนโยบายให้ถูกใจ ประชาชน เขาก็เลือกเข้ามาเอง
ประชาธิปัตย์พูดเสมอว่า เสียงข้างมาก ไม่ฟังเสียงข้างน้อย
แต่พฤติกรรมที่แสดงออกมันไม่ใช่
เสียงข้างน้อยบังคับเสียงข้างมาก
เล่นเป็นเด็กเอาแต่ใจใครจะให้ได้
จะต้องให้เป็นอย่างที่ฝ่ายตัวเองต้องการ
โดยการยื่นข้อเสนอ ต้องเป็นอย่างนั้น รัฐบาลต้องทำอย่างนี้
ว่ากันจริง ๆ ประชาธิปัตย์เองก็ยังทำไม่ได้
แค่ประชาชนมาเรียกร้องให้ยุบสภา
ประชาธิปัตย์ยังให้กระสุนกับประชาชน ในปี 53
พรรคประชาธิปัตย์ ถ้ายังแสดงเป็น "พ่อแม่รังแกฉัน"
คือลูกตัวเองทำอะไรไม่ผิด แถมยังให้ท้ายอีกต่างหากว่า
เกิดจากคนอื่นที่ต้องเป็นอย่างนั้น
คงถึงเวลานับเวลาถอยหลัง...อีกหน่อยในอนาคต จะมีคนถามว่า
พรรคประชาธิปัตย์ หน้าตาเป็นอย่างไร...เพราะจะเป็นดังเช่น ไดโนเสาร์
0 comments:
Post a Comment