Friday, September 6, 2013

พรรคประชาธิปัตย์...ที่หายไป บทความโดย บุญเกียรติ ชีวะตระกูลกิจ


ถ้าใครได้อ่านข้อคิดเห็นของ "ดร.ซุป" ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรืออังค์ถัด เกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ก็จะเห็นถึงความลุ่มลึก เต็มไปด้วยเหตุและผล ในการมองสภาวะเศรษฐกิจของสยามประเทศยามนี้

"ดร.ซุป" กล่าวว่า เศรษฐกิจของเอเชียจะยังคงเติบโตต่อไป และมีความแข็งแกร่งกว่าภูมิภาคอื่น ดังนั้น ประเทศในอาเซียนต้องหันมาพึ่งพาตลาดภายในกลุ่มอาเซียนด้วยกันเองให้มากขึ้น ลดการพึ่งพาจีนและอินเดียให้น้อยลง ประเทศไทยเองต้องมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน & ระบบขนส่งโลจิสติกส์ รวมทั้งมีการบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนให้มากขึ้น

"ดร.ซุป" ยังกล่าวอีกว่า หนี้ภาครัฐในปัจจุบันที่สัดส่วน 40-45% ของจีดีพีไม่ถือว่าสูงมาก แต่ก็มีแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้น การก่อหนี้จึงต้องทำเพื่อเพิ่มพูนสมรรถนะของประเทศ เช่น การวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้เกิด R&D การพัฒนาแรงงานไร้ฝีมือให้เป็นแรงงานมีฝีมือทั้งหมด ฯลฯ ซึ่งการลงทุนเหล่านี้เหมาะที่จะเป็นหนี้ เพราะหนี้สูงจากการเหล่านี้ถือว่าไม่มีปัญหา 

สิ่งที่รัฐต้องระวังคือ การใช้เงินเพื่อให้เกิดประโยชน์ในระยะสั้น เช่น การอุดหนุนภาคเกษตร (ดังกรณีโครงการรับจำนำข้าว) ที่ควรทำคือการลงทุนเพื่อให้ภาคเกษตรมีการพัฒนาต่อยอดไปได้ เช่น โครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำและแหล่งวัตถุดิบเพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น โครงการสนับสนุนให้มีระบบบริหารจัดการและการตลาดที่ดี

อ่านแล้วขนลุกไหมครับ? คมความคิดเช่นนี้ ถ้านำเอาไปอภิปรายในรัฐสภาด้วยอากัปกิริยาอันสุภาพ ไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะโกยคะแนนจากคนชั้นกลาง (ส่วนหนึ่ง) ไปสักกี่กระบุงโกย เป็นข้อคิดอันทรงคุณค่าของบุคลากรที่สังกัดอยู่ในพรรคอันได้ชื่อว่าเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของเมืองไทย สาระการอภิปรายแบบนี้ต่างหากจึงจะสมภูมิกับยี่ห้อประชาธิปัตย์ มิใช่ภาพการป่วนสภาจนสื่อแทบทุกฉบับถึงกับต้องพาดหัวตัวไม้ว่า "ถ่อยเถื่อน" แสดงอาการปานประหนึ่งอะไรสักอย่างที่ไม่อยากจะเอ่ยถึงให้เสียสง่าราศีของบทความนี้...!

ประชาธิปัตย์เคยเป็นพรรคสุภาพบุรุษมาก่อนครับ ภาพลักษณ์การอภิปรายด้วยสุ้มเสียงหล่อทุ้มนุ่มนวล ที่ นายชวน หลีกภัย ได้สู้อุตส่าห์สร้างสมเอาไว้ ต้องมามลายหายสิ้นไปกับน้ำมือของสมาชิกพรรคยุค "ผลัดใบ" แบบไม่น่าเชื่อจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นท่านอดีตผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์ทั้งหญิงและชาย ที่ยุคหนึ่งเคยยกมือไหว้สวัสดีท่านผู้ชมอย่างผมมาก่อน วันนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอยู่ในสภา กิริยาอาการที่แสดงออกดูกราดเกรี้ยวจนน่าตกใจ ไม่ทราบว่าไปกินดีหมีหรือหัวใจมังกรมาจากไหน ถึงได้เหี้ยมหาญกระโชกโฮกฮากเอาถึงปานนั้น

ที่สำคัญ...ไม่เคยเสนออะไรอันเป็นสาระเพื่อประเทศชาติในองค์รวมเลยแม้แต่น้อย...!

ยุทธศาสตร์เล่นการเมืองแบบไม่เป็นสุภาพบุรุษนี้ นับวันมีแต่จะทำให้ประชาธิปัตย์เสื่อมทรุดลง น่าแปลกใจที่นายอภิสิทธิ์ผู้ซึ่งเคยทำท่าล้อเลียนนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างจ่าประสิทธิ์ แต่พฤติกรรมของลูกพรรคที่ปล่อยให้วาดลวดลายกันอยู่ในเพ-ลานี้ ต่อให้นำเอาจ่าประสิทธิ์ 10 คนมารวมกัน ก็ยังเทียบชั้นไม่ได้...ไม่น่าเชื่อจริงๆ !

นี่ยังไม่นับแนวคิดการเมืองที่โน้มไปทางอนาธิปไตย กระทั่งนักวิชาการผู้คร่ำหวอดด้านสังคมและการเมืองอย่างท่าน ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดเป็นห่วงประเทศชาติจะวิบัติไม่ได้ จนต้องทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายชวน หลีกภัย ติงพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจนจุดยืนทางการเมืองที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมเป็นอันมากนี้

กระนั้น ก็ยังมิได้ยินเสียงตอบรับจากสมาชิกระดับนำของพรรค จะมีก็แต่วัยละอ่อนอย่างแก๊งไอติมที่ออกมาตอดเล็กตอดน้อยเอากับท่านอาจารย์ ทำนองเดียวกับตอน "ถอนหงอก" ปู่พิชัย ข้อหาทำผิดร้ายแรงทรยศต่ออุดมการณ์ของชาวผลัดใบ เพราะไปร่วมสังฆกรรมกับระบอบทักษิณเพื่อหาหนทางปฏิรูปประเทศ...!

โอว...เวรกรรมอะไรจะขนาดนั้น

วันนี้ ประชาธิปัตย์ต้องรีบปฏิรูปพรรค ตามแนวทางที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร นำเสนอ ปรับโครงสร้าง ปรับคน ปรับวัฒนธรรมเสียใหม่ ให้เป็นแบบที่เคยประสบความสำเร็จมาแต่ในอดีต เลิกคิดว่าที่แพ้พรรคอื่นเพราะเขาใช้เงินซื้อเสียง มุ่งมั่นที่จะชนะใจประชาชนด้วยนโยบายอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในองค์รวม ประพฤติตนในสภาอย่างผู้ที่เจริญแล้ว ค้านด้วยเหตุผลอันหนักแน่นตามแนวทางของ "ดร.ซุป" ที่ยกเป็นตัวอย่างไว้ในตอนต้นของบทความนี้ เลิกตั้งแง่ป่วนในสภาด้วยช่องกฎหมายแบบพวก "หัวหมอ" ซึ่งคนชั้นกลางส่วนหนึ่ง (รวมทั้งผม) เบื่อเป็นอันมากอยู่ในเพ-ลานี้

หากพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่รีบแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด และยังคงเดินหน้าเล่นการเมืองแบบเดิมๆ อยู่ เห็นทีพรรคเก่าแก่ระดับลายครามพรรคนี้อาจถึงคราวต้องปลาสนาการไปจากประเทศไทย

วันนี้...ในทางนิตินัยพรรคอาจจะยังคงอยู่ แต่โดยพฤตินัยประชาธิปัตย์แบบที่ผมเคยชื่นชมและศรัทธาได้จางหายไปนานแล้ว...!

..............

 บุญเกียรติ ชีวะตระกูลกิจ e-mail : bcheewatragoongit@yahoo.com
 ที่มา : มติชนออนไลน์

0 comments:

Post a Comment

 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger