Thursday, September 5, 2013

อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ "ผู้ตรวจการ" แนะรัฐทบทวนรับจำนำข้าว ชี้เป็นภาระรัฐ ให้ใช้ประกันราคา


ชี้เป็นภาระแก่รัฐ อีกทั้งเป็นช่องให้มีการทุจริต และเกษตรฯไม่ได้รับรายเงินจริง ควรหยิบนโยบายประกัน เตรียมส่งเรื่องทุจริตเพื่อให้ปปช.สอบต่อ

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลง ว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติให้ยุติเรื่องกรณีที่นายวรา จันทร์มณี ตัวแทนเครือข่ายหยุดผูกขาดตลาดข้าว) และนายปราโมทย์ วานิชานนท์ และคณะ ขอให้ตรวจสอบ การดำเนินการตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล และมติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตลอดจนมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อประเทศ เพื่อให้ส่งเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองวินิจฉัยต่อไป เนื่องจากผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า การดำเนินการตามโครงการดังกล่าวของรัฐบาล เป็นไปตามนโยบายที่แถลงไว้กับรัฐสภา และไม่ใช่การร้องว่า มีการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่ของบุคคลที่เป็นข้าราชการ พนักงานลูกจ้างของรัฐ คำร้องดังกล่าวจึงไม่อยู่ในอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะพิจารณาได้ แต่ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินก็เห็นว่าการดำเนินการ การดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลยังมีปัญหาทุจริต จึงได้มีข้อเสนอแนะเป็นหนังสือแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เพื่อให้ ให้พิจารณา นโยบายรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลที่จะเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2556 และ2557


นายรักษเกชา กล่าวด้วย ว่า ทางผู้ตรวจฯได้ให้ข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล 5 ประการ ข้อประกอบด้วย

1 ขอให้รัฐบาลพิจารณาการใช้นโยบายรับจำนำข้าวเปลือก ซึ่งเป็นเครื่องมือและกลไกของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวนาในช่วงระยะเวลาอันสมควร โดยพิจารณาใช้นโยบายประกันรายได้มาเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาให้มีรายได้ที่มั่นคงแน่นอนร่วมด้วย  เนื่องจากการแทรกแซงพืชผลทางการเกษตรด้วยวิธีการรับจำนำข้าวได้เกิดปัญหาขึ้นอย่างมากมาย เช่น เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด และรัฐบาลต้องมีข้าวคงค้างอยู่ในคลังเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคุณภาพข้าวที่เก็บรักษาไว้ในคลังและระบายออกไม่ทันเสื่อมคุณภาพลงทำให้ราคาข้าวตกต่ำ อีกทั้งประการสำคัญมีปัญหาการทุจริตในทุกขั้นตอนของกระบวนการในการรับจำนำข้าวเปลือก ผู้ได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว เป็นเพียงบุคคลบางกลุ่มไม่ครอบคลุมเกษตรชาวนาอย่างทั่วถึง ดังนั้นโยบานประกันรายได้จะสามารถลดช่องว่างของการทุจริตได้ในระดับหนึ่งและโอกาสที่เข้าหน้าที่รัฐจะเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากการดำเนินนโยบายนี้ได้น้อยลง เมื่อเทียบกับวิธีการรับจำนำข้าวเปลือก รวมทั้งผลประโยชน์ตกอยู่เกษตรกรชาวนาอย่างทั่วถึง และกลไกตลาดไม่ถูกบิดเบือน ตลอดจนไม่เป็นภาระทางงบประมาณในภาพรวมของประเทศ

2 ขอให้รัฐบาลพิจารณารับจำนำข้าวเปลือกในราคาที่เหมาะสม ใกล้เคียงกับราคาตลาดหากราคารับจำนำและราคาตลาดแตกต่างกันมาก

3. ขอให้พิจารณากำหนดราคารับจำนำข้าวเปลือกแต่ละชนิด ให้เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิต โดยอยู่บนพื้นฐานของความสมเหตุสมผล แยกคุณภาพและพันธุ์ข้าวที่รับจำนำให้

4. ขอให้พิจารณากระบวนการตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพของข้าวสารที่สีแปรรูปแล้วก่อนจะนำเข้าจัดเก็บในคลังของรัฐบาล โดยจำกัดผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจน และสามารถมีกระบวนการตรวจสอบได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลา

 5. ขอให้พิจารณาการระบายข้าวในคลังของรัฐบาล โดยเปิดการประมูลอย่างเปิดเผยเป็นที่ทราบแก่บุคคลทั่วไปในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเปิดการประมูลในปริมาณจำนวนมากในคราวเดียวกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อยได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

นายรักษเกชา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ข้อมูลการทุจริตในโครงการดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้ทำหนังสือแจ้งข้อมูลไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งกำลังสอบสวนเรื่องนี้อยู่ด้วย

ที่มา :  เดลินิวส์

0 comments:

Post a Comment

 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger