นายชวน ก็คือพระทางการเมือง เป็นหลวงพ่อประจำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเจ้าอาวาสประจำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้มีคุณธรรมประจำใจ สั่งสอนให้ลูกพรรค ใช้ชีวิตเรียบง่าย สมถะ
วัชระ เพชรทอง ยังยกย่องความซื่อสัตย์ของนายชวนว่า ยากที่จะหานักการเมืองคนใดในประเทศไทยมาเปรียบปานได้อีกแล้ว พร้อมกับเชิดชูให้นายชวน หลีกภัยกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
นายชวน หลีกภัย พยายามที่จะสร้างภาพพจน์ของตนเองให้เป็นนักการเมืองมีชีวิตสมถะ เรียบง่าย มีทรัพย์สินน้อยมากในบรรดาผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาก่อน เมื่อคราวที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง23ธันวาคม 2552 ในวันที่ 6 ธันวาคม 2550 นายชวน หลีกภัยใช้รถจี๊ปหมายเลขทะเบียน น-1723 ตรัง ออกจากลานพระแม่ธรณีบีบมวยผมจากพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ มุ่งหน้าไปยัง จ.ตรัง ด้วยระยะทางกว่า 1500 กิโลเมตร เป็นการสื่อความหมายถึงชีวิตที่เรียบง่าย สมถะ
รถจี๊ปคันดังกล่าวหากตีราคาแล้วกันในหมู่คนเล่นรถรุ่นเก่าจะอยู่ที่ราคา ประมาณ 40,000.00-70,000.00บาท แต่สำหรับคันที่นายชวนนำมาขับใช้การรณรงค์หาเสียงได้รับการซ่อมแซมใหม่หมด ทั้งคันโดยอดีตคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลชวน 2 เมื่อครั้งนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 2 แสนบาท หากรวมราคาในฐานะที่เป็นรถเก่าแต่ได้มีการปรับปรุงให้มีสมรรถนะวิ่งทางไกล ได้เป็นอย่างดีแล้วรถจี๊ปคันนี้นี้ราคาจะพุ่งไปถึงล้านบาททีเดียว
แต่มูลค่าของรถจี๊ปที่นำมาปรับแต่งให้สามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลได้นั้น ไม่สำคัญเท่ากับได้สร้างมูลค่ามหาศาลทางการเมืองในการสื่อความหมายสร้างภาพ ลักษณ์ของนายชวนและพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นนักการเมืองสมถะในช่วงโค้งสุด ท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 23 ธันวาคม 2550
ภาพพจน์ของนายชวน หลีกภัย ที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายนี้ เป็นคนสมถะอย่างน่าทึ่งเมื่อแจ้งรายการทรัพย์สินปรากฏว่า มีทรัพย์สินเป็นเงินฝากและทรัพย์สินรวมกันแล้วเปเงินเพียงแค่3,369,335.57 ล้านบาท(สามล้านสามแสนกว่าบาท) สิ่งที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมากก็คือ ในรายการทรัพย์สินที่แจ้งต่อปปช.นั้นไม่มีการแจ้งทรัพย์สินที่เป็นรถจี๊ปคู่ ใจของนายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นทรัพย์สินอยู่ในการครอบครองของนายชวน หลีกภัย
ไม่ใช่เพียงแค่ประเด็นของการแจ้งทรัพย์สินไม่ครบถ้วนเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อเร็วๆนี้บุตรชายหัวแก้ว หัวแหวน “ สุรบท หลีกภัย” ของนายชวน หลีกภัย ซึ่งขณะนี้เติบใหญ่ในวันหนุ่มแตกพาน รูปร่างหล่อล่ำ กับทรงผมเกาหลีที่กำลังอินเทรนด์ ด้วยราคาออกแบบหลายพันบาทในแต่ละครั้ง ส่วน สูง 170 เซนติเมตร ในวัย 21 ปี ปัจุจบันศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
สุรบถ หลีกภัยอาศัยอยู่กับภักดิพร สุจริตกุล ผู้เป็นมารดาโดยไม่ได้ประกอบอาชีพ โดยการเลี้ยงดูของนายชวน หลีกภัย อยู่ที่บ้านส่วนตัวตากอากาศ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
สุรบถ หลีกภัย ได้ทำให้สังคมต้องตะลึงไปกับความเป็นมหาเศรษฐีของบุตรชายนายชวน หลีกภัยเพราะภาพพจน์ของบุตรชายคนนี้แตกต่างไปจากพ่อบังเกิดเกล้าของเขา จากหน้ามือซ้ายเป็นหลังตีนขวา เมื่อบุตรชายนักการเมืองชีวิตสมถะคนนี้ ได้ขับรถสป๊อตสี่ขาวยี่ห้อ BMW Z 4 หมายเลขทะเบียน สส.87 ราคาร่วมสิบล้านบาท ออกปรากฏกายและอวดทรัพย์สินรถสป๊อตคันงามนี้ ประชันความร่ำรวยในแวดวงดาราวัยรุ่นที่ต้องแสดงตนเป็นลูกชายมหาเศรษฐีใหญ่ ของเมืองไทยเท่านั้น ถึงจะได้มีโอกาสครอบครองหัวใจของดาราวัยรุ่นสุดสวยเซ็กซี่สบึมของเมืองไทย
สุรบถ หลีกภัย กลายเป็นข่าวในแวดวงไฮโซและข่าวบันเทิงเมื่อได้มีโอกาสเคียงข้างกระชับกาย แนบแน่นคู่กับ “ม.ร.ว.แม้นนฤมาศ ยุคล” หรือ “หญิงแม้น”…ผู้มาดมั่นและขยันตกเป็นข่าวกะหนุ่มๆ คนชั้นสูงมากมายในวัยแค่ 19 ปี “หญิงแม้น” ผ่านประสบการณ์ชีวิต ที่ต้องตกเป็นข่าวกับบุตรชายของนายชวน หลีกภัยผู้มีชีวิตสมถะ เรียบง่ายเป็นนักการเมืองที่ยากจนขวัญใจของคนปักษ์ใต้
หญิงแม้น เปิดเผยให้สื่อมวลชนรับทราบถึงความสัมพันธ์กับ ปลื้ม หรือ สุรบถ หลีกภัยเมื่อวันที่ 26 กันยายน52ในวันที่เธอได้รับของขวัญล้ำค่า ที่ไม่สามารถบอกราคาของขวัญหรูหราชิ้นนี้ได้ จากมือของสุรบท หลีกภัยโดยตรง เมื่อหญิงแม้น มาร่วมงานเปิดค่ายเพลง “IMUSIC” ซึ่งเจ้าตัวเป็นหนึ่งศิลปินในค่ายนี้
การใช้ชีวิตวัยรุ่นคนชั้นสูงที่ต้องการคบหาสมาคมควงคู่กับวัยรุ่นดารายอดนิยมเป็นที่รับทราบกันว่านอก จากจะต้องมีรถสป๊อตคันงาม ราคาหลายล้านบาท เป็นพาหนะหรูหราแล้ว ยังต้องมีคฤหาสน์หลังใหญ่ มีเงินถังที่หยิบออกจากระเป๋าออกมาใช้เป็นฟ่อนๆ เป็นปึ๊กๆ แน่นหนา ออกมาอวดความรวยเป็นเศรษฐีเงินล้านให้ดาราสาววัย รุ่นสาวสวยเซ็กซี่ต้องกรี๊ดกร๊าดกระตู้วู้และพร้อมที่จะเดินเคียงข้างด้วย ความมั่นใจ เหมือนในแวดวงของวัยรุ่นที่มักจะพูดคุยหยอกล้อกันชนิดที่เรียกว่า “เคียงข้างกันไม่หวาดหวั่นแม้วันมามาก”
หญิงแม้นกับชายปลื้มทั้งสองคนยังได้ออกมาเคียงคู่ประชันความร่ำรวยในงาน เปิดตัวนาฬิกาทอยวอทช์คอลเลคชั่น ที่ทอยวอทช์ นาฬิกาแฟชั่น ที่รู้กันว่าราคาเรือนหนึ่งนั้นอยู่ในระดับตั้งแต่ 50,000.00-1,000,000.00 บาท ที่เซ็นทรัลเวิล์ด ในวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา
แต่สุรบถ ไม่ใช่วัยรุ่นที่มีรถสป๊อตมูลค่าร่วมสิบล้านบาทตระเวนออกไปโชว์ ไปอวดๆ ใช้ชีวิตหรูหราราคาแพงโฉบเฉี่ยวในแวดวงดาราวัยรุ่นและคนชั้นสูง แต่ สุรบถ เป็นที่รับทราบกันอย่างดีในฐานะที่เป็นบุตรชาย หัวแก้วหัวแหวนของนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ผู้ที่แจ้งรายการทรัพย์สินที่จัดได้ว่าเป็น นักการเมืองผู้ยากจนข้นแค้นคนหนึ่งของเมืองไทย ทำให้สุรบถ มหาเศรษฐีวัยรุ่นรูปงามบุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรีของเมืองไทย ถูกจับตามองเป็นพิเศษและเป็นที่หมายปองของดาราสาวสุดสวย มีเสน่ห์ และเซ็กซี่สุดฮ๊อตของเมืองไทย
รถสปอร์ตคันนี้ แน่นอนคนอย่างนายชวนคงไม่ยอมตกหลุมด้วยการใส่ชื่อตัวเองหรือลูกชายเป็นเจ้า ของระ ส่วนชื่อเป็นของนอมินีหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าผู้ครอบครองที่เป็นวัยรุ่นหะหรูหะหราอย่างสุรบทเอาเงินมาจากไหน เพื่อการจับจ่ายใช้สอยในแวดวงคนหรูหราฟุ่มเฟือยได้ ทั้งๆที่สุรบถ ยังไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการเงินล้าน ส่วนพ่อของเขานายชวน หลีกภัย ก็มีทรัพย์สินน้อยมาก แม้แต่รถที่ใช้ยังเป็นรถจี๊ปโบราณอีกด้วย อีกทั้ง สุรบถ หลีกภัย ไม่ใช่แค่ควงคู่ข้างกายกับ หญิงแม้น คนเดียว เท่านั้น เขายังปรากฏเป็นข่าวให้ผู้คนในแวดวงบันเทิงและในหมู่วัยรุ่นคนชั้นสูงต้อง เกิดความอิจฉา เหลียวมอง สุรบถเคียงคู่วัยรุ่นสาวจนน้ำลายไหลออกมาเมื่อเขาสามารถเคียงข้างกายกับ นักแสดงสาวหน้าใหม่ พลอย-พงษ์รตี เจริญ ออกงานด้วยกัน ซึ่งทั้งคู่ก็เปิดใจว่าเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่มีความสัมพันธ์มากกว่าคำว่าเพื่อน
พลอย เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 กันยายน 52 ว่า “พี่ปลื้มเป็นคนน่ารักมาก เพิ่งรู้จักได้สักพักเอง พี่เขาก็เป็นคนดีเหมือนคุณพ่อของเขา เขาเป็นคนที่ดูแลผู้หญิงดีมาก ตอนนี้สนิทกับเขามากที่สุด ก็คุยกันอยู่บ่อยครั้งเสมอ ”
การใช้ชีวิตแบบหรูหรา เป็นมหาเศรษฐีที่เดินเคียงข้างกายดาราสาวยอดนิยมแบบไม่ซ้ำหน้าของสุรบถ ในวัยนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเป็นเรื่องผิดแต่อย่างใด สำหรับคนมีเงินถุง เงินถัง มีทรัพย์สินสุดยอดราคาแพง แต่ด้วยการใช้ชีวิตหรูหรา ฟุ่มเฟือย ร่ำรวย มั่งคั่ง ของสุรบถ ได้ลบล้างภาพพจน์พ่อของเขาที่เป็นนักการเมืองสมถะ เรียบง่าย ซึ่งสังคมเชื่อกันว่าเขาเป็นนักการเมืองมือสะอาด ปราศจากการคดโกง ด้วยการแสดงบัญชีทรัพย์สินมีไม่ถึง 5 ล้านบาท และใช้ชีวิตสมถะ ใช้รถหาเสียงด้วยรถจี๊ปโบราณ
ภาพลักษณ์ผู้นำการเมือง ในฐานะเจ้าอาวาส พรรคประชาธิปัตย์กำลังเจือจางหายไปด้วยความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้เหมือนกับ เจ้าอาวาส ผู้ทรงศีล ตามวัดวาอารามที่พร่ำสอนญาติโยมตอนกลางวันให้ละเว้นจากการเสพสุขทางกามแต่ ทว่าพอตกกลางคืนเจ้าอาวาสเหล่านี้แสดงตนเป็นอลัชชีเที่ยวไล่ปล้ำเสพเมถุน หรือมีเพศสัมพันธ์เสียวสุดยอดไปกับสาวสาวกผู้บำเพ็ญศีลตามคำสอนของเจ้าอาวาส องค์นั้น
ถ้าวารสารทางสังคมเกี่ยวกับสุรบทยังเป็นเช่นนี้ ท่ามกลางความเงียบของนายชวน ประชาชนก็ไม่อาจเข้าใจเป็นอย่างอื่นได้ สังคมไทยคงต้องศึกษาภาวะคุณธรรมซ่อนเร้นในหมู่ชนชั้นนำอีกหลายคนเพื่อจะได้ หูตาสว่าง
0 comments:
Post a Comment