Tuesday, July 30, 2013

ปชป.ทุ่มหมดหน้าตักหัก พท.นิรโทษแดง

โดย...ธนพล บางยี่ขัน โพสทูเดย์

ประชาธิปัตย์ประกาศตัวชัดเจนตั้งแต่ยังไม่เปิดสภา เตรียมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ วรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ ที่จ่อคิวรอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 7 ส.ค. แบบเต็มรูปแบบ ชนิดไม่ต้องรักษาอาการ ไม่ต้องสงวนท่าที เหมือนครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา

เที่ยวนี้จึงถือเป็นการคัดค้านแบบทุ่มหมดหน้าตัก ไม่ให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบของสภาไปได้

สัญญาณชัดเจนเห็นได้จากถ้อยคำของเนื้อหาการปราศรัยบนเวทีผ่าความจริง “หยุดกฎหมายล้างผิดคิดล้มรัฐธรรมนูญ หยุดเงินกู้ผลาญชาติ หยุดอำนาจฉ้อฉล” ที่สวนเบญจสิริ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปอย่างดุเดือด

“ถึงวันนั้นถ้าล้มรัฐบาลก็ต้องล้มมัน เอาไว้ไม่ได้แล้ว เพราะไม่เห็นกับประชาชนและชาติบ้านเมือง วันนี้สู้ไปตามลำดับขั้นตอน ดูซิว่ายิ่งลักษณ์จะไปอยู่ดูไบหรือเราต้องขุดรูอยู่ ช่วยกันเป็นสมองช่วยกันคิดขั้นตอน ตอนนี้ถ้าอยากเป่านกหวีดก็ให้เป่าไปพลางๆ ก่อน ให้รอดูว่าหากวันที่ 7 ส.ค. สู้ในสภาแล้วแพ้ ก็ให้เป่านกหวีดยาวไม่เลิกแล้วเป่าไปทั้งเดือนเลย”

เนื้อหาบางช่วงบางตอนจากการปราศรัยที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ประกาศคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งในและนอกสภา แสดงให้เห็นว่าเอาจริงเอาจังกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา

ในช่วงระหว่างปิดสมัยประชุมสภา “ประชาธิปัตย์” พยายามปลุกกระแส ด้วยการเดินสายเปิดเวทีผ่าความจริงฯ ทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนี้ พร้อมพยายามชี้แจงให้เห็นสิ่งที่หมกเม็ดอยู่

พร้อมวางคิวเตรียมจัดเวทีต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนกฎหมายนี้จะเข้าสู่วาระการพิจารณาวันที่ 7 ส.ค. เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. เวทีผ่าความจริงฯ ที่ลานสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี และจัดอีกครั้งในวันที่ 3 ส.ค. ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ เขตบึงกุ่ม ต่อเนื่องวันที่ 4 ส.ค. โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร วันที่ 5 ส.ค. เขตบางซื่อ วันที่ 6 ส.ค. ที่โรงยิมมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

คู่ขนานไปกับการปลุกกระแสในโซเชียลมีเดีย ทั้งโพสต์รูปกับป้าย ไม่เอากฎหมายล้างผิดคนโกงลงเฟซบุ๊กและนัดกันใส่ชุดดำประท้วง

สำหรับท่าทีของประชาธิปัตย์ เบื้องต้นดูจะไม่ต่างจากจุดยืนคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าไม่ต้องการให้ใช้ประชาชนมาเป็นตัวประกัน เพื่อออกกฎหมายล้างผิดให้กับแกนนำเสื้อแดง หรือเคลียร์ทางให้คนแดนไกลได้กลับบ้าน ซึ่งจะทำให้ถนนการเมืองต่อจากนี้ของประชาธิปัตย์ตีบตันมากขึ้นกว่าที่เป็น

ทว่าสิ่งที่จำเป็นต้องคัดค้านเป็นพิเศษรอบนี้นั้น เป็นเพราะความตั้งใจของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ วรชัย ตั้งใจจะออกมาอุดช่องโหว่เดิม ด้วยการประกาศยืนยันว่าจะนิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ไม่เกี่ยวข้องกับแกนนำเสื้อแดง หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังผู้สั่งการ

แต่กระนั้น “ประชาธิปัตย์” ยังยืนยันว่าเป็นเพียงแค่การ “หมกเม็ด” เพราะเนื้อหาในมาตรา 3 ซึ่งระบุว่า การนิรโทษกรรม “ไม่รวมถึงการกระทำใดๆ ของบรรดาผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจ หรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วงระยะเวลาดังกล่าว” ล้วนแต่เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ว่าใครคือ “ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ” หรือ “สั่งการ” บ้าง

ดังนั้นประชาธิปัตย์ย่อมไม่อาจปล่อยให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านความเห็นชอบของสภา ท่ามกลางความคลุมเครือ ดังจะเห็นจากการยืนยันตามจุดยืนเดิม คือให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง 6 ฉบับออกจากการพิจารณาของสภา เพื่อตั้งโต๊ะหารือร่วมกันกับทุกฝ่ายว่าจะนิรโทษกรรมกลุ่มใดบ้าง เพื่อไม่ให้สุดท้ายกฎหมายนี้จะบานปลายกลายเป็นชนวนความรุนแรงของสังคมรอบใหม่

ฉะนั้น ด่านแรก ประชาธิปัตย์ย่อมต้องคัดค้านการหยิบยกกฎหมายนี้เข้ามาสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งหากไม่สำเร็จ ก็ต้องใช้เวทีสภาชำแหละเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถึงสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ใน 7 มาตราของร่าง พ.ร.บ.นี้ ที่ประเมินว่าจะดุเดือดกว่าการประชุมที่ผ่านๆ มา

โดยเฉพาะการชี้ให้เห็นถึงกลุ่มบุคคลที่ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม แต่จะได้อานิสงส์ล้างผิด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ทำผิดกฎหมายอาญา มือเผาศาลากลาง มือยิงอาร์พีจีใส่วัดพระแก้ว คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เสื้อดำ มือยิง พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม

รวมไปถึงแกนนำเสื้อแดงบางคน หรือคนแดนไกล ซึ่งกฎหมายอาจมีช่องเปิดให้ตีความจนได้รับอานิสงส์ล้างผิดไปด้วย ซึ่งประเด็นนี้ย่อมเป็นหัวเชื้อนำไปสู่การปลุกกระแสขยายผลต่อกับการเคลื่อนไหวคัดค้านในเวทีนอกสภา

เพราะสุดท้ายแล้ว ลำพังแค่ 170 กว่าเสียงของประชาธิปัตย์ ย่อมยากจะไปทัดทานเสียงข้างมากของรัฐบาล หากจะดึงดันเดินหน้าผ่านกฎหมายฉบับนี้จริงๆ

สัญญาณจาก “สุเทพ” ชัดเจนว่า “เมื่อเสียงนกหวีดของประชาชนดังพร้อมกันเซ็งแซ่ ก็จะออกมาร่วมต่อต้านรัฐบาลกับพี่น้อง” ดังนั้นจึงพร้อมลงไปเคลื่อนไหวนอกสภาเพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

โดยเฉพาะบรรยากาศเวลานี้มีหลายกลุ่มหลายฝ่ายส่งเสียงฮึ่มฮั่ม เตรียมออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ในนามกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ กลุ่มไทยสปริง กลุ่มหน้ากากขาว ฯลฯ ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มแนวร่วมในการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนี้

ฉะนั้น การเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบเวลานี้มองข้ามไม่ได้ ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ประกาศกระโจนออกนอกสภาเพื่อขัดขวาง งานนี้คงไม่จบลงง่ายๆ

0 comments:

Post a Comment

 
Copyright © . Yak Ratchaprasong - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger